ความไวในการตอบเมลบ่งบอกความเครียด

ความไวในการตอบเมลบ่งบอกความเครียด

งานวิจัยระบุระยะเวลาในการตอบอีเมลบ่งชี้บุคลิกภาพได้เป็นอย่างดีว่า คนๆ นั้นเครียด รู้สึกว่าถูกกดดันแต่ยังพอรับมือได้ หรือเป็นคนง่ายๆ สบายๆ กันแน่

ปกติแล้วมักมองกันว่า การที่เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานตอบอีเมลของคุณทันทีเป็นมารยาทที่สมควรทำ แต่งานวิจัยล่าสุดกลับบ่งชี้ว่า การตอบเมลทันทีอาจหมายความว่าคนๆ นั้นเครียด หรือมีความนับถือตัวเองต่ำ

ดร.คาเรน เรโนลด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ ผู้นำการวิจัยนี้ ระบุว่า ผู้ใช้อีเมลมีด้วยกันสามประเภทคือ ง่ายๆ สบายๆ,รู้สึกกดดันในระดับหนึ่ง และเครียด

โดยเฉพาะผู้หญิงนั้นจะรู้สึกกดดันมากกว่าผู้ชายให้ต้องรีบตอบเมลโดยไว

“กลุ่มที่ง่ายๆ สบายๆ จะไม่ยอมให้อีเมลมากดดันตัวเอง แต่จะตอบสนองต่ออีเมลเช่นเดียวกับจดหมายทั่วไปคือ ตอบแน่ๆ แต่รอให้มีเวลาก่อน

“กลุ่มที่ 2 คือพวกที่รู้สึกกดดัน แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าสามารถรับมือได้ ส่วนกลุ่มสุดท้ายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อความกดดันจากอีเมลในทางลบ ซึ่งเป็นที่มาของความเครียดและนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในที่สุด”

ดร.เรโนลด์,จูดิท แรมซี นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเพสลีย์ สก็อตแลนด์ และมาริโอ แฮร์ นักสถิติจากสถาบันเดียวกัน ได้ร่วมกันสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง 177 คน ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการและผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ เพื่อดูว่าคนเหล่านั้นมีปฏิกิริยาและวิธีการรับมือกับอีเมลที่ได้รับขณะทำงานอย่างไร

ทีมนักวิจัย พบว่า 34% ของกลุ่มตัวอย่างเข้าข่าย ‘เครียด’ รู้สึกวุ่นวายใจกับอีเมลที่หลั่งไหลเข้ามาในแต่ละวัน และรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องตอบเมลเหล่านั้นโดยเร็วเพื่อตอบสนองความคาดหวังของผู้ส่ง

อีก 28% รู้สึกว่าอีเมลสร้างความกดดัน ขณะที่ 38% เป็นผู้ใช้อีเมลที่ ‘ผ่อนคลาย’ เนื่องจากไม่รู้สึกลำบากใจที่จะรอให้ผ่านไปสักวันหรือสัปดาห์ก่อนจะตอบเมลที่ได้รับ

นักวิจัย เผยว่า ผู้ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์มักผละจากงานไปเช็คเมลชั่วโมงละ 30-40 ครั้ง

แม้กลุ่มตัวอย่างครึ่งหนึ่งบอกว่าเช็คเมลชั่วโมงละมากกว่า 1 ครั้ง และ 35% ทำแบบนั้นทุก 15 นาที แต่ซอฟต์แวร์ตรวจจับที่ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ชี้ว่า มีการเช็คเมลบ่อยกว่าที่กล่าวอ้าง

กล่าวคือโดยเฉลี่ยแล้ว กลุ่มตัวอย่างจะรอ 1 นาที 44 วินาทีก่อนที่จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อข้อความแจ้งเตือนว่ามีอีเมลใหม่เข้ามา อย่างไรก็ดี การแจ้งเตือน 2 ใน 3 ได้รับการตอบสนองภายใน 6 วินาที หรือเร็วกว่าระยะเวลาที่โทรศัพท์ดังสามครั้ง

“ปัจจุบัน อีเมลกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาในชีวิตการทำงานมากที่สุด ต้องบอกว่านี่เป็นเครื่องมือที่มหัศจรรย์ แต่ขณะเดียวกันก็ไร้การควบคุม อีเมลเร่งเร้าคุณ คุณอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นอีเมลจากครอบครัวหรือเพื่อน หรือเจ้านาย ดังนั้น คุณจึงวางมือจากทุกอย่างที่ทำอยู่เพื่อเปิดอ่านอีเมล

“ปัญหาก็คือ เมื่อคุณกลับไปหาสิ่งที่ทำค้างไว้ สมาธิคุณจะเสียไป และแน่นอนประสิทธิภาพการทำงานก็จะลดลงไปด้วย ยิ่งคุณเสียสมาธิไปกับสิ่งเร้าเท่าไหร่ คุณจะยิ่งเหนื่อยและมีพลังในการทำงานน้อยลงเท่านั้น” ดร.เรโนลด์สำทับ

ทีมนักวิจัยยังบอกอีกว่า งานชิ้นนี้เปิดเผยให้เห็นว่าผู้ใช้อีเมลที่ถูกผลักดันหรือถูกทำให้เครียดมีแนวโน้มที่จะมีความเคารพในตัวเองต่ำกว่าคนที่รู้สึกผ่อนคลายกับการตอบอีเมล แม้ยังไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจนของเรื่องนี้ก็ตาม

“น่าประหลาดใจที่คนจำนวนมากตอบสนองในแง่ลบต่ออีเมล ข้อเท็จจริงที่ว่า กลุ่มที่เครียดเพราะเมลส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงเป็นอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วง”

นอกจากนั้น ยังมีผลการศึกษาอีกฉบับเมื่อปีที่แล้วที่ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วคนเราต้องใช้เวลา 64 นาทีในการดึงสมาธิที่ถูกขัดจังหวะจากอีเมล หมายความว่าคนที่เช็คเมลทุก 5 นาทีจะสูญเวลางานไปสัปดาห์ละหนึ่งวันเต็มๆ คือ 8.5 ชั่วโมง

ผู้ทำงานที่ต้องอาศัยจินตนาการสร้างสรรค์ หรืองานที่ต้องใช้สมาธิอย่างสูงเพื่อให้โครงการที่มีความสำคัญลุล่วง เช่น นักวิชาการ นักเขียน สถาปนิก หรือนักข่าว มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากปัญหาการกวนใจจากอีเมลมากที่สุด ขณะที่ผู้ที่ทำงานในคอลล์เซนเตอร์ที่อีเมลเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำงาน จะไม่พบปัญหาแบบเดียวกันนี้

ขอบคุณที่มา http://www.manager.co.th/

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *