The Pearl King ตอน 3

The Pearl King ตอน 3 ความสำเร็จและการดำเนินธุรกิจ

ความสำเร็จเบื้องต้น : จากความล้มเหลวมานาน จากการดูแคลนของคนอื่น ๆ จากความเศร้าหมองสู่การตกต่ำที่สุดในชีวิต ในที่สุดโกกิชิก็ได้ค้นพบวิธีที่ทำให้หอยมุกสามารถสร้างมุกขึ้นมาได้ โดยครั้งแรกที่พบหอยที่สามารถให้มุกได้นั้น เขาได้อยู่กับอูเมะและลูกของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าเขาจะยากดีมีจนหรือตกต่ำลงเช่นไร ภรรยาและลูก ๆ จะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ แม้ว่าไข่มุกที่ได้นั้นจะเป็นลักษณะที่เป็นไข่มุกครึ่งซีกไม่กลมทั่วเม็ดก็ตาม แต่ก็ถือว่าเขาสามารถเลี้ยงไข่มุกได้สำเร็จ โดยทำการใส่เศษไข่มุกลงไปแล้วหอยไม่ปฏิเสธที่จะรับมันและได้ทำการพ่นเมือกออกมาเมื่อทิ้งไว้ระยะเวลาหนึ่งจะได้เม็ดไข่มุกออกมา หลังจากที่เขาทำได้ เขาได้ทำการจดทะเบียนกระบวนการผลิตเพื่อป้องกันการเลียนแบบโดยทันที
หลังจากที่เขาได้จดทะเบียนแล้วเขาได้ทำการเลือกหาทำเลที่จะทำฟาร์มหอยมุกที่ปลอดภัยจากธรรมชาติ ทั้งพายุและกระแสน้ำแดง ( กองทัพแมงกะพรุนแดงที่คอยทำลายและกัดกินหอย รวมถึงแพลงตอนที่เป็นอันตรายต่อหอยมุก ) ซึ่งเขาได้เลือกเกาะที่ไม่มีคนอยู่ในละแวกนั้นเรียกว่า “ เกาะตาโกกุ “ โดยทำการเช่าและเรียกชาวบ้านมาร่วมในการทำฟาร์มไข่มุก ช่วงแรกชาวบ้านไม่ยอมร่วมด้วย แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ได้ยกพวกพ้อง พี่น้องและ ญาติเข้าไปทำก่อน โดยลงมือขนสำภาระ หิน ท่อนไม้ และไม้กระดานด้วยตนเองและกวาดซื้อหอยมุกทุกตัวทั่วเขตชิมะจนได้ครบจำนวนหนึ่งหมื่นตัว
ขั้นตอนการเลี้ยงก็จะคล้าย ๆ กับที่เขาได้ทำการทดลองคือ จะทำการแกะหอยอย่างระมัดระวังเพื่อทำการสอดเศษไข่มุกเข้าไป ต่อมาได้ทำการใส่หอยที่เสร็จแล้วลงในตะกร้าที่ใช้สำหรับเลี้ยง และเลี้ยงมันต่อไปอีก 4 ปี ก็จะได้ไข่มุกออกมา การบุกเบิกครั้งแรกบนเกาะตาโกกุนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากไม่มีทั้งน้ำจืดและต้นไม้ใหญ่ ต้องขุดบ่อน้ำบาดาลใช้กันเอง
จากความสำเร็จที่ได้มา อีกด้านหนึ่งเขาก็ต้องเสียสิ่งที่เขารักที่สุดในชีวิตไป คืออูเมะภรรยาของเขา ซึ่งเสียชีวิตจากการล้มป่วย ก่อนตายเขาได้สัญญากับภรรยาไว้ว่าจะต้องทำไข่มุกให้มีลักษณะกลมให้ได้ตามที่เขาและภรรยาของเขาอยากเห็น เมื่อภรรยาของเขาเสียชีวิตลงแล้ว เขาได้ทำการเลี้ยงหอยมุกต่อไปและพยายามที่จะทำให้ไข่มุกซีกที่เลี้ยงได้ให้เป็นไข่มุกกลมให้ได้
อย่างไรก็ตามความพยายามที่จะทำให้ไข่มุกที่ได้มีลักษณะกลมได้นั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยหอยมุกที่ได้รับการทดลองเพาะด้วยแกนเนื้อเยื่อทั้งหมดได้ตายลงโดยไม่มีไข่มุกกลมที่ได้โดยแม้แต่อันเดียว อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถผลิตไข่มุกซึกนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เขามีชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วทั้งในวงการค้าและข้าราชการ ในปี 1900 ไข่มุกซีกรุ่นที่ 2 ออกมา เขาสามารถผลิตไข้มุกได้ถึง 4,200 เม็ด อย่างไรก็ดีเขาก็จะระวังตัวเกี่ยวกับกระแสน้ำแดงและปลาหมึกที่จะมากัดกินหอยมุกด้วยโดยการให้สาวงมมุก งมมุกที่มีมาไว้ในที่ ๆ ปลอดภัย
การดูแลสาวงมมุกของโกกิชินั้น จะดูแลอย่างดีเหมือนลูก ๆ ได้ค่าจ้างที่ยุติธรรม มีโบนัสปลายปี มีกองทุนช่วยเหลือยามเจ็บป่วย การได้เงินชดเชยเมื่อลาออก รวมไปถึงความให้การคุ้มครองและเครื่องมือช่วยชีวิตในการทำงานตลอดเวลา ดังนั้นผู้ที่ได้เป็นสาวงมมุกนั้น ก็เปรียบเสมือนเป็นเสาหลักของครอบครัวเลยทีเดียว
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าวิถีการทำงานของโกกิชินั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของความพยายาม ไม่ว่าจะล้มลงเพียงใดก็จะพยายามลุกขึ้นมาตลอดเวลา และการที่เขาลงมือปฏิบัติและให้ครอบครัวตัวเองเข้าไปทำก่อนนั้นแสดงให้เห็ฯถึงความประหยัด มัธยัสถ์ และความกระตือรือร้นที่จะหาวิธีใหม่ ๆ ในการคิดค้นสิ่งใหม่ตลอดเวลา (การพยายามทำไข่มุกกลม) แต่อย่างไรก็ดีเขาก็ไม่ละเลยต่อความยุติธรรมแก่ลูกน้องพร้อมทั้งดูแลเขาอย่างดี ทำให้ลูกน้องส่วนใหญ่เคารพและเชื่อฟังโกกิชืมาก

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *