The Oriental Hotel TEAM ตอน 5

The Oriental Hotel TEAM ตอน 5
นอกจากความสะอาด แผนกแม่บ้านยังต้องสร้างความความสดชื่นให้แก่โรงแรม โดยมี วีณา พานิช รับหน้าที่ Florist Manager รังสรรค์บรรยากาศที่สวยงามด้วยฝีมือการจัดดอกไม้ของเธอ มีผู้ช่วย 3 คน ดูแลเรื่องดอกไม้ทุกหนแห่งของโรงแรมทั้งในห้องพัก ห้องอาหาร ล็อบบี้และทางเดิน รวมถึงงานจัดเลี้ยงต่างๆ

ดอกกล้วยไม้และดอกบัวเป็นพระเอกและนางเอกที่ช่วยจรรโลงความเป็นไทยให้อบอวล ทั้งโรงแรม แต่นัยของความเป็นไทยไม่ใช่แค่นำดอกบัวและดอกกล้วยไม้มาจัดๆ วางๆ ที่ไหนก็ได้ วีณาตีความไปถึงที่สถานที่ที่เหมาะสม เช่น ดอกกล้วยไม้ไทยชูช่อไสวต้อนรับแขกอยู่หน้าล็อบบี้มีอ่างบัวอยู่ข้างล่าง ดอกบัวบนโต๊ะอาหารที่ระเบียงริมน้ำเข้ากับสายน้ำเจ้าพระยาที่เป็นแรงบันดาลใจให้ครีเอทีฟมาแล้วหลายคน หรือดอกบัวตามทางเดินสู่ Author Lounge ราวกับเป็นการบูชาบรรพกษัตริย์และพระราชวงศ์ไปกันได้ดีกับพื้นที่ที่ได้ชื่อว่าจิตวิญญาณแห่งโอเรียนเต็ล เป็นต้น

โจทย์ของวีณายังอยู่ที่ห้องอาหารทั้ง 9 แห่งที่มีบุคลิกแตกต่างกัน ดอกไม้แพงๆ เช่น ดอกทิวลิปหรือดอกไลเซนทัสเหมาะกับ Normandi เบิร์ดออฟพาราไดซ์ดอกสีส้มเหลือง สดใสในแจกันรูปก้นหอย เข้ากับคอนเซ็ปต์ทะเลและสไตล์ funky ของ Lord Jim’s โจทย์ทั้ง 9 ข้อนี้จะมีมาให้เธอคิดอยู่เรื่อยๆ ตามคอนเซ็ปต์การตกแต่งของแต่ละห้อง

value creation จากทักษะในการจัดดอกไม้ของวีณายังสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้กับโรงแรมอย่างมหาศาลจากค่าจัดดอกไม้ ในงานจัดเลี้ยงต่างๆ อย่างงานใหญ่ๆ ที่เพิ่งผ่านมาก็เช่น งานแต่งงานภราดรกับน้องฟ้า ซึ่งทั้งห้องรอยัลบอลรูมถูกประดับด้วยดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าสลับกับสีขาวของดอกกุหลาบ ดอกรัก ดอกกล้วยไม้ ดอกคาร์เนชั่น หวายขาว และมัมขาว เบ็ดเสร็จกว่า 7 หมื่นดอก และตกแต่งด้วยคริสตัลสวารอฟกี้สีฟ้า-น้ำเงินร่วม 9 หมื่นเม็ดที่ร้อยเรียงเป็นสายห้อยยาวตามดอกไม้มาช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับงาน โดยงานนี้วีณาต้องล็อกดอกไฮเดรนเยียสีฟ้าไว้ล่วงหน้าถึง 2 เดือนและใช้เวลาร้อยคริสตัล นานเกือบ 3 เดือน

ในปีนี้วีณาเตรียมปลดเกษียณตัวเองที่วัย 60 ปี พร้อมอายุงานกับโอเรียนเต็ลที่หยุดอยู่ที่ 40 ปี…

พูดถึง “กินดี” ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่าย Food & Beverage หลังเข้าถือหุ้นในโอเรียน เต็ลใหม่ๆ มร.แบร์ลิงเจียรีเริ่มต้นด้วยการปรับปรุงห้องอาหารของโรงแรม เขาเคยกล่าว ว่า “คนจะตัดสินมาตรฐานของโรงแรมจาก ห้องอาหารที่อยู่ในโรงแรม” ถ้าวันนี้เขายังมีชีวิตก็คงมีความสุขที่ได้เห็นห้องอาหารทั้ง 9 แห่งของโอเรียนเต็ลกลายเป็น food destination ที่แขกต่างประเทศหลายคนรู้สึกว่าต้องบินมาทาน

ในบางปีรายได้จากค่าอาหารของโอเรียนเต็ลสูงกว่าค่าห้องพักด้วยซ้ำ มีไม่กี่โรงแรมในโลกที่ทำได้เช่นนี้ แน่นอน! คำตอบ มีอยู่ว่า อาหารต้องอร่อย และบริการต้องดี

ถ้าเปรียบ F&B เป็นวงออร์เคสตรา วาทยกรที่เป็นผู้กำกับการบรรเลงอันแสนไพเราะทุกค่ำคืนนี้ก็คือ Norbert Kostner เชฟใหญ่ชาวอิตาเลียนที่มีหัวใจไทยเต็มร้อย เวลาเกือบ 40 ปีในเมืองไทย เขาซึมซับความ เป็นไทยเข้าไปในตัวตนไม่น้อย นอกจากพูดและฟังภาษาไทยได้ดีเยี่ยม ยังอุปมาอย่างไทย ได้ด้วย เขาเปรียบโรงแรมโอเรียนเต็ลเป็น “หม้อข้าว” ของเขาและพนักงานทุกคน

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *