Success Case ทำธุรกิจในโลกเสมือน
Success Case ทำธุรกิจในโลกเสมือน
โดย บิสิเนสไทย [28-8-2008]
เว็บไซต์โลกเสมือนจริง Second Life กำลังกลายมาเป็นโลกใหม่อีกโลกหนึ่งของการสื่อสารสำหรับธุรกิจและแบรนด์ชั้นนำระดับโลกจำนวนมากชนิดที่ใครไม่ทำอาจจะตกขบวนกันไปเลย อาทิ ไอบีเอ็ม อาดิดาส วอลล์ รอยเตอร์ โคคา-โคล่าฯลฯ
เพราะมันไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นซอฟต์แวร์ที่ได้รับการพัฒนา เพื่อต่อยอดการดำเนินธุรกิจให้มีความง่ายและทันสมัยมากขึ้นนั่นเอง
ตัวอย่างธุรกิจยักษ์ระดับโลกที่มองเห็นโอกาสทางการตลาดและหันมาเอาดีในโลก Second Life จนประสบความสำเร็จบนโลกที่สองแห่งนี้
แบรนด์แรกเลยต้องยกให้กับยักษ์สีฟ้าที่ชื่อไอบีเอ็ม โดยไอบีเอ็มนั้นเข้าไปพร้อมๆ กับช่วงที่ Second Life ถือกำเนิดขึ้น หรืออาจจะเรียกได้ว่าก้าวเดินมาพร้อมๆ กันก็ได้
ความสำเร็จของไอบีเอ็มในโลก Second Life จนถูกหยิบยกเป็นกรณีศึกษากันอย่างหนาหูในวงธุรกิจทั้งธุรกิจไทยและต่างประเทศ มาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การที่ไอบีเอ็มร่วมกับลินเดน แลป (Linden Lab) พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวอวาตาร์ให้สามารถเชื่อมโยงในเครือข่ายเว็บเสมือนจริงเข้าด้วยกันได้ทั้งหมด
ส่วนที่สองเป็นส่วนที่ไอบีทำในเชิงธุรกิจ นั่นคือ ไอบีเอ็มยอมลงทุนควักกระเป๋าซื้อพื้นที่สร้างเกาะใน Second Life ซึ่งปัจจุบันนั้นมีเกือบ 50 เกาะแล้ว โดยเหตุผลที่ทำให้ไอบีเอ็มเข้าไปสร้างเกาะจำนวนมากบนดินแดนแฟนตาซีนี้ ก็เป็นเพราะมองจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในโลกเสมือนนั่นเอง โดยข้อมูลจากการ์ทเนอร์บอกว่า ในปี 2554 หรืออีก 3 ปีจากนี้ 80% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีอยู่ประมาณ 300 ล้านคนจะเข้าไปสร้างตัวตนในโลกเสมือน
จากจำนวนประชากรในโลกเสมือนที่นับวันจะเพิ่มปริมาณขึ้นนี่เอง ทำให้ไอบีเอ็มมองว่า Second Life น่าจะเป็นเหมือนอีกช่องทางหนึ่งที่จะโปรโมตแบรนด์และสินค้าของไอบีเอ็มได้ เกาะต่างๆ ที่ไอบีเอ็มซื้อมาจึงทำหน้าในการสร้างประสบการณ์ลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ ของไอบีเอ็มนั่นเอง
เกาะที่เป็นจุดเด่นของไอบีเอ็มมีชื่อว่า IBM Business Center หรือศูนย์ธุรกิจไอบีเอ็ม เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรไอบีเอ็มในโลกเสมือน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นอวาตาร์คอยต้อนรับและให้คำแนะนำกับลูกค้าที่เข้ามายังโลกไอบีเอ็มแห่งนี้ให้ถูกความต้องการ นอกจากนี้ยังมีเกาะสำรหับแสดงสินค้าและบริการของไอบีเอ็ม เช่น Green Data Center พร้อมทั้งศูนย์ฝึกอบรมกับพนักงานทั่วโลก ซึ่งตรงนี้ทำให้พนักงานจากทั่วโลกไม่จำเป็นต้องเดินทางมาอบรมถึงที่แต่สามารถเข้ามายังโลกเสมือนก็ได้รับการอบรมเช่นเดียวกัน
ผลที่ได้ก็คือ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับไอบีเอ็มได้อย่างมาก แถมพนักงานยังสามารถทำงานของตนเองได้ตามปกติอีกด้วย และค่าใช้จ่ายที่ประหยัดลงได้มาก ทำให้ไอบีเอ็มสามารถส่งพนักงานไปอบรมได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่จำกัดอยู่เพียงประเทศละหนึ่งคน
ส่วนผลที่ได้ในเชิงธุรกิจนั้น นายตรัยรัตน์ สุวรรณประทีป ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี บริษัทไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด บอกว่า สิ่งที่ไอบีเอ็มได้รับไปเต็มๆ จากการเข้าไปสร้างโลกใบใหม่ใน Second Life ก็คือ การสร้างประสบการณ์ลูกค้ากับเทคโนโลยี โดยเขายกตัวอย่างกรณีSOA (Service-Oriented Architecture) ซึ่งเป็นสถาปตยกรรมที่จับต้องยาก เมื่อไอบีเอ็มเข้าไปสร้างเกาะ SOA เพื่อแสดงให้เห็นถึงการใช้งานและความหมายของ SOA ว่าคืออะไร ในรูปแบบสามมิติ ก็เริ่มทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ชัดเจนขึ้น
เขายอมรับว่า วันนี้ไอบีเอ็มอาจจะไม่ได้มองไปถึงจุดการขาย แต่เมื่อลูกค้ามีการรับรู้ถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ดีขึ้น แน่นอนว่าลูกค้าย่อมอยากจะซื้อสินค้าของไอบีเอ็มตามมา นอกจากนั้นยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการสำรวจความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดีทีเดียวอีกด้วย
นอกจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างไอบีเอ็มแล้ว ยังมีรอยเตอร์ ที่เข้าไปตั้งสำนักข่าวอยู่ในโลก Second Life โดยมีตัวนักข่าวรอยเตอร์จริงๆ และเชื่อมต่อกับเว็บรอยเตอร์จริง โดยมีรายงานอัตราแลกเปลี่ยน (ระหว่างสกุลเงิน ลินเดน และสกุลเงินสำคัญของโลก) มีการสรุปธุรกรรมที่เกิดขึ้นใน Second Life ในแต่ละวัน
หรือแม้แต่แบรนด์โคคา-โคลา เองก็ยอมควักเงินไปโปรโมตแบรนด์ในเว็บโลกเสมือนจริง ทั้งการเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ในคอนเสิร์ตต่างๆ ที่บรรดาศิลปินจัดขึ้นในโลก Second Life แถมยังมีการจัดกิจกรรมเหมือนกับที่บนโลกจริงมีการจัดกันด้วย เช่น สะสมฝาโคคา-โคลา เพื่อเข้าไปชมคอนเสิร์ต ซึ่งถือเป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากประชากรในโลกเสมือนอย่างมาก อีกทั้งยังจำหน่ายสินค้าน้ำดำจริงๆ ในนั้นซึ่งนับเป็นการสร้างเม็ดเงินรายได้อีกทางให้กับแบรนด์ดังระดับโลกรายนี้ไม่น้อยทีเดียว
เช่นเดียวกับแบรนด์รองเท้าชื่อดังของโลก Adidas หรือ American Apparel ก็ไปเปิดช็อป ทั้งที่ขายของจริง ๆ ในนั้น และโปรโมทคอลเล็คชันใหม่ๆ ให้ผู้เล่นหน้าจอคอมพ์อยากออกไปซื้อจริงๆ ตามร้านแถวห้างสรรพสินค้าที่ไปกันบ่อยๆ
ขณะที่ Walls ไอศรีมสุดยอดนิยม ก็ไม่ยอมตกขบวนSecond Life ได้สมมติเรื่องราวการทัวร์ทริปสั้นๆ เมือง Cornetto Island ซึ่งสร้างเอาไว้ เพื่อโปรโมทไอศรีม Walls เมื่อมองด้วยสายตา Cornetto Island น่าจะกินพื้นที่ราวๆ 20,000 ตรม.ได้ ติดริมทะเลมีตึกขนาดสองชั้น เรียงรายด้วยด้วยเครื่องเล่นต่างๆ บรรยากาศสดใส สีสันฉูดฉาดได้ใจ เพื่อให้สมชื่อเกาะ ที่ขาดไม่ได้เลยต้องมีไอศรีม Cornetto จำลองขนาดยักษ์อยู่ด้วย