GEORGE SOROS & QUANTUM FUND ตอน 13

GEORGE SOROS & QUANTUM FUND ตอน 13 วันพุธทมิฬ

ยุทธการครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้ชื่อเสียงของโซรอสขจรขจายในฐานะนักเก็งกำไรที่น่าพรั่นพรึงที่สุดคือ การเก็งกำไรจำนวนมหาศาลจากค่าเงินปอนด์เมื่อเดือนกันยายน 1992 โซรอสได้ท้าทายสถาบันหลักสองสถาบันของอังกฤษ หนึ่งคือ เงินปอนด์สเตอร์ลิงซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในโลก สองคือ ธนาคารแห่งชาติอังกฤษ
กลไลกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน หรือ อีอาร์เอ็ม ซึ่งก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 1979 โดยจุดประสงค์เพื่อการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนและนำไปสู่การสร้างระบบเงินสกุลเดียวของยุโรปในที่สุด ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของยุโรปเข้มแข็งและลดอำนาจของบรรดานักเก็งกำไรค่าเงินลงได้
แต่โซรอสทำนายว่าอีอาร์เอ็มไม่อาจจะคงอำนาจอยู่ต่อไปได้ ตราบใดที่อัตราแลกเปลี่ยนยังต่างกัน นักเก็งกำไรรวมทั้งโซรอสก็พร้อมเสมอที่จะเข้าไปหากำไรกับสกุลเงินที่อ่อนตัว และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับอังกฤษในปี 1992 ในขณะที่อังกฤษกำลังหาหนทางที่จะรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอยู่นั้น นักเก็งกำไรต่างก็เชื่อว่าอังกฤษจะไม่สามารถรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้สูงอยู่ได้ วิธีเดียวที่จะช่วยได้คือ จะต้องลดอัตราดอกเบี้ย แต่นั่นหมายถึงการที่เงินปอนด์จะต้องอ่อนตัวลงอีก และผลักดันให้อังกฤษต้องถอนตัวออกจากอีอาร์เอ็ม
โซรอสจึงตัดสินใจขายเงินสกุลอ่อน ๆ ของยุโรปทิ้ง โดยเทขายเงินปอนด์ประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ และซื้อเงินเยอรมันไว้ประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์พร้อมกับเงินฟรังค์อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้เขายังซื้อหุ้นในตลาดอังกฤษไว้ 500 ล้านดอลลาร์ โดยเชื่อว่าหุ้นมักจะถีบตัวขึ้นหลังจากที่มีการลดค่าเงินของประเทศนั้น ๆ
วันพุธที่ 16 กันยายน 1992 หรือที่ภายหลังเรียกกันว่า “วันพุธทมิฬ” ธนาคารแห่งชาติอังกฤษใช้เงินสำรองอัตราแลกเปลี่ยนไปถึง 15,000 ล้านปอนด์ (26,900 ล้านดอลลาร์) จากที่มีอยู่ 44,000 ล้านปอนด์ (78,800 ล้านดอลลาร์) ในการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อพยุงค่าเงินปอนด์ไว้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว จากเหตุการณ์วันพุธทมิฬ โซรอสทำได้ถึงเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ คือ 1 พันล้านจากค่าเงินปอนด์ และอีก 1 พันล้านจากวิกฤตการณ์ค่าเงินในอิตาลี สวีเดน และตลาดหุ้นญี่ปุ่น นั่นคือจุดหักเหในอาชีพของโซรอส โดยก่อนหน้านี้บรรดาสื่อมวลชนและผู้คนนอกวงการวอลล์สตรีทไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ตอนนี้ไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว
ในปี 1992 โซรอสได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่มีรายได้สูงสุดในวอลล์สตรีท โดยมีรายได้ถึง 650 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 5 เท่าของรายได้ปี 1991 ส่วนอันดับ 5 ของปีก็คือ สแตนเลย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ หัวหน้านักค้าเงินของโซรอสด้วยวัยเพียง 39 ปี เขาทำเงินได้ถึง 110 ล้านดอลลาร์

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *