GEORGE SOROS & QUANTUM FUND ตอน 12

GEORGE SOROS & QUANTUM FUND ตอน 12 ทายาทคนล่าสุด

กลางทศวรรษ 1980 ควันตั้มฟันด์มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์ โซรอสกำลังจะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา ถึงตอนนี้เขาพอที่จะรามือจากกองทุนได้บ้างแล้ว โซรอสหันมาทุ่มเทเวลากับการพัฒนายุโรปตะวันออกและโซเวียตเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ให้เวลากับควันตั้มฟันด์น้อยลง
ฤดูใปไม้ร่วง ปี 1988 โซรอสตั้งใจว่าจะหาใครสักคนมารับช่วงการบริหารกองทุน รวมทั้งอำนาจตัดสินใจในการลงทุนทั้งหมดแทน การเฟ้นหาบุคคลดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย และนับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา
บุคคลที่โซรอสเลือกคือ สแตนเลย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ ซึ่งในที่สุดโซรอสก็รับดรัคเคนมิลเลอร์เข้าร่วมงานในเดือนกันยายน 1988 ตอนนี้โซรอสก็มีตัวตายตัวแทนแล้ว เหลือแต่เพียงดรัคเคนมิลเลอร์เท่านั้นที่จะต้องพิสูจน์ว่า เขาเหมาะสมกับตำแหน่งแค่ไหน
ดรัคเคนมิลเลอร์ตัดสินใจการซื้อขายครั้งใหญ่ให้กับควันตั้มฟันด์ กับเงินเยอรมันโดยเชื่อว่า เงินมาร์กจะต้องแข็งขึ้นหลังจากทลายกำแพงเบอร์ลิน ดรัคเคนมิลเลอร์ใช้ทฤษฎีของโซรอสจาก The Alchemy of Finance ที่ว่า เมื่อประเทศมีตัวเลขการขาดดุลสูง ผนวกกับการเพิ่มงบประมาณ และการดำเนินนโยบายการเงินที่รัดกุม จะทำให้เงินตราของประเทศนั้นแข็งขึ้น ซึ่งดูเหมือนว่าประเทศเยอรมันกำลังอยู่ในภาวะนี้พอดี และเขาซื้อเงินมาร์กไว้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ปรากฏว่าเขาได้กำไรมหาศาล นอกจากนี้ดรัคเคนมิลเลอร์ยังพบว่าดัชนีนิคเคอิดูจะขึ้นสูงเกินไป ทำให้ธนาคารชาติญี่ปุ่นต้องดำเนินนโยบายรัดกุมทางการเงิน คราวนี้เขาตัดสินใจเทขายหุ้นในตลาดญี่ปุ่นในช่วงปลายปี 1989 เขาทำกำไรเข้าควันตั้มได้อีกเป็นจำนวนมาก
ดรัคเคนมิลเลอร์ทำให้โซรอสได้ครองอันดับผู้ที่ทำรายได้สูงที่สุดในอเมริกาประจำปี 1991 โดยมีรายได้ถึง 117 ล้านดอลลาร์ในปีนั้น และนับตั้งแต่เขาเข้ามาบริหารงาน ทำให้กองทุนมีกำไรเฉลี่ย 40 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งสูงกว่าสถิติที่โซรอสเองเคยทำไว้ที่ 30 เปอร์เซ็นต์

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *