Creative Thinking Techniques (เทคนิคการคิดอย่างสร้างสรรค์)
Creative Thinking Techniques (เทคนิคการคิดอย่างสร้างสรรค์)
Brainstorming เป็นเทคนิคในการก่อให้เกิดความคิด วัตถุประสงค์ของ Brainstorming คือ (1) ทำให้เราหลุดออกจากกรอบความคิดที่เป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว และ (2) ทำให้เกิดกลุ่มของความคิดหลาย ๆ ทาง ให้เราไว้เลือกในการแก้ปัญหา
• ข้อแนะนำขั้นพื้นฐานของ Brainstorming
1. Suspend Judgment สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อเกิดความคิดขึ้นมา ความคิดนั้นจะถูกบันทึกลง การประเมินหรือวิพากษ์วิจารณ์จะทำกันทีหลัง ไม่มีการประเมินความคิดนั้นทันที
2. Think Freely ความคิดที่เปิดกว้างและเป็นไปอย่างเสรี เป็นสิ่งที่ดี บางครั้งความคิดที่มีประโยชน์ก็มาจากคิดเรื่องโง่ๆ เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ คุณต้องคิดออกนอกกรอบดั้งเดิมที่ธรรมดา แล้วคิดจะได้คำตอบใหม่ๆ ขึ้นมา
3. Lag On พัฒนา ปรับปรุงความคิดที่คิดออกมา จะนำความคิดนั้นไปใช้งานได้อย่างไร การเปลี่ยนแปลงอย่างไร ที่จะทำให้ความคิดนั้นดีขึ้นหรือกว้างขึ้น ใช้ความคิดจากสิ่งอื่นๆ มาพัฒนาความคิดที่คุณคิดขึ้น
4. Quantity of Idea is Important รวบรวม ความคิดอันมากมายหลากหลายเก็บไว้ เพื่อนำความคิดเหล่านั้นมาพิจารณาโดยในคราวเดียวกันไปเลย มีเหตุผลอยู่ 2 ประการ สำหรับการมีความคิดหลายๆ ความคิดเข้าไว้ คือ
(1) ความคิดที่เก่าซ้ำซาก ธรรมดา มักจะเข้ามาในจิตใจของเราก่อนใคร ดังนั้นเราจึงต้องมีความคิดมากๆ เพื่อหาแนวคิดใหม่
(2) เมื่อมีความคิดมากๆ ทำให้เราเลือกได้มากกว่า ได้ดัดแปลง ได้ผสมผสานมากกว่า
• Practical Methodology (วิธีการในทางปฏิบัติ)
1.Choose a recorder ต้องมีใครสักคนเป็นผู้บันทึกความคิดต่างๆ ที่คิดอออกมา โดยอาจเขียนไว้บนกระดานที่สมาชิกของกลุ่มที่ทำ Brainstorming สามารถเห็นได้ชัด ผู้บันทึกไม่ควรเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการทำ Brainstorming เพราะเป็นเรื่องยากในการที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์พร้อมทั้งเขียนทุกสิ่งทุกอย่างไปในเวลาเดียวกัน
2. Organize the chaos สำหรับกลุ่มที่มีจำนวน3-4 คนขึ้นไป จะมีผู้หนึ่งทำหน้าที่คอยเลือกสมาชิกคนหนึ่งให้เสนอความคิดออกมา โดยสมาชิกคนอื่นจะไม่พูดใน เวลาเดียวกัน เมื่อสมาชิกคนหนึ่งพูดเสร็จ ก็จะให้สมาชิกอีกคนพูดต่อ และต้องคอยเตือนไม่ให้มีการประเมินเกิดขึ้นระหว่างแสดงความคิด
3. Keep the session relaxed and playful พลังงานของการสร้างสรรค์จะไหลออกมาดีที่สุด เมื่อผู้สร้างสรรค์มีการผ่อนคลายและสนุกในพวกของเขาเอง รู้สึกอิสระในการคิดอะไรที่ดูไร้สาระ โง่ๆ สนุกสนาน พยายามอย่าบอกทุกคนว่า นี่เป็น ปัญหาที่หนักหรือเครียด เพราะนี่คือเครื่องมือช่วยในการผ่อนคลาย และกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ สิ่งนี้จะมีประโยชน์ในการเริ่มต้นก่อนการประชุมประมาณ 10 นาที
4. Limit the session การประชุมโดยกำหนดเวลาไว้ประมาณ 15 หรือ 20 นาที การใช้เวลาในการประชุมที่นานกว่านั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวถ่วงมากกว่าจะทำให้ดี 5. Make copies หลังการประชุม ควรจัดการข้อมูลความคิดต่างๆ ให้เรียบร้อยและทำสำเนาสิ่งที่ได้ประชุม เอาไว้ให้สมาชิกแต่ละคนในการประชุม
6. Add and evaluate ควรมีการเพิ่มเติมและประเมินความคิดที่ได้คิดออกมาในวันต่อๆ ไป ไม่ควรเป็นวันเดียวกับวันที่ประชุม การประชุมเพื่อเพิ่มเติมและประเมินความคิด เพื่อให้ได้ความคิดที่ดี มีแนวโน้มที่ดีที่สุดในการนำมาประยุกต์ใช้ความคิดที่ได้ประเมินแล้วนั้น มีผู้ทำการ Brainstorming บางคน ได้แบ่งพื้นฐานความคิดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ดังนี้
A : ความคิดที่นำไปใช้ในทันทีทันใด
B : ความคิดที่ต้องทำการสำรวจติดตาม คิดหรือถกเถียงให้มากขึ้น
C : ความคิดแนวใหม่ในการแก้ปัญหา
• Variation
1. Stop and Go ความคิดก่อกำเนิดขึ้นใน 3-5 นาที หลังจากนั้นทั้งกลุ่มจะมีความเงียบ (และกำลังคิดอยู่) 3-5 นาที ต่อจากนั้นจะมีการคิดความคิดใหม่ในอีก 3-5 นาที รูปแบบนี้จะสลับกันไปในการประชุม
2. Sequencing สมาชิกแต่ละคนจะแสดงความคิดออกมา แต่ละคน ทีละคน ถ้าสมาชิกคนไหนไม่มีความคิด ก็จะพูดว่า “ผ่าน” และสมาชิกคนต่อไปก็จะแสดงความคิดเห็นต่อ การเคลื่อนไหวแบบนี้จะหมุนเวียนไปรอบๆ โต๊ะต่อไปเรื่อยๆ ตลอดการประชุม
ก็ขอฝากเทคนิคการคิดสร้างสรรค์นี้ ให้นำไปปฏิบัติดูนะครับ เพื่อให้เกิดมรรคผลประโยชน์ธุรกิจกัน ฉบับต่อไปก็จะมีคำถามที่จะตั้งขึ้นเพื่อก่อกำเนิดความคิดสร้างสรรค์กัน และฉบับต่อไปอีกก็จะมี Check list ให้ตรวจสอบกันดู ขอได้โปรดติดตามต่อไปนะครับ…