AEC : กองสลากฯฟื้นหวยตู้รับเออีซี

AEC : กองสลากฯฟื้นหวยตู้รับเออีซี

เร่งเจรจาคู่สัญญา”ล็อกซเล่ย์”ถอนฟ้อง กองสลาก เร่งฟื้นหวยตู้ 2 ตัว 3 ตัวบน-ล่าง ราคาต่ำสุด 40 บาท รางวัลผันแปร/เดินหน้าแก้พ.ร.บ.สลากฯ2517 ดึงเม็ดเงินหวยใต้ดินกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปีเข้าระบบภายใต้กรอบกฎหมาย พร้อมศึกษาขายผ่านสมาร์ทโฟนแข่งสิงคโปร์รับเออีซีในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

พล.ต.ต. อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการหารือในเบื้องต้นสำนักงานสลากฯ มีข้อตกลงที่จะให้คู่กรณีดำเนินการ “ถอนฟ้อง” เพื่อให้สัญญาดำเนินต่อได้ทันที ซึ่งกำลังต่อรองกับทางบริษัทล็อกซเล่ย์ฯ จากกรณีมีเงื่อนไขที่ถูกทางคู่สัญญาผู้รับสัมปทานติดตั้งเครื่องจำหน่ายสลากออนไลน์ คือ บริษัท ล็อกซเล่ย์ฯ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท โดยยังยืนยันว่า ที่เคยเซ็นสัญญาเมื่อปี 2548 กับบริษัท ล็อกซเล่ย์ฯไว้นั้น แต่ไม่ทำอะไร ถือว่าไม่ได้ผิดสัญญาโดยเจตนา

“เท่าที่พูดคุยกับบริษัท ล็อกซเล่ย์ฯ ก็ต้องการผลักดันโครงการนี้ต่อดังนั้น คิดว่า บริษัท ล็อกซเล่ย์ฯ คงเข้าใจ แต่จะต้องนำข้อหารือดังกล่าว เสนอผ่านบอร์ด พิจารณาเร็วๆนี้ เพื่อให้รอบคอบและไม่เกิดข้อขัดข้องในอนาคต ซึ่งถ้านโยบายพร้อม กฎหมายชัดเจน สังคมยอมรับและนำไปสู่สากล ก็คงเดินหน้าหวยออนไลน์ได้ตามเป้าหมายที่นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมพร้อมในการออกหวยออนไลน์ หรือ หวยตู้ในปลายปีนี้”

พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังได้มีการศึกษาการขายหวยออนไลน์ บนเครื่องสมาร์ทโฟนเป็นเป้าหมายในระยะกลาง ที่คาดว่าจะเริ่มในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี สร้างการแข่งขัน เทียบเคียงประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ สิงคโปร์ ซึ่งยืนยันว่า การออกหวยตู้มีความจำเป็น และไม่ผิดสัญญากับภาคเอกชนที่ได้รับสัมปทาน แต่จะเข้ามาตอบโจทย์เข้ามาแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา และหวยใต้ดินได้ ที่สำคัญที่สุด คือ สร้างรายรับของสำนักงานสลากฯ หากทำรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น จะกลายเป็นส่วนที่นำกลับคืนสู่สังคมดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง โดยมั่นใจว่า จะสร้างรายได้ให้สำนักงานสลากฯ ต่อปีเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหรืออีก 1.2 ล้านบาทต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี รวมเป็น 2.4 ล้านบาทต่อปี หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 1 พันล้านบาทต่อเดือน ที่ปัจจุบัน มีประมาณ 1 พันล้านบาท หรือ 2 งวด งวดละ 500 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังช่วยดึงปริมาณเงินที่หมุนเวียนในระบบสลากที่ผิดกฎหมายหรือหวยใต้ดินจะค่อยๆ ลดลง เพราะจากผลการสำรวจพบว่า หวยใต้ดินที่ผิดกฎหมาย มีเม็ดเงินหมุนเวียน 3 แสนล้านบาทต่อปี ส่วนความคืบหน้าพิจารณา พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ขณะนี้ทางฝ่ายนิติบัญญัติ กรรมาธิการการเงินการคลัง สภาผู้แทนราษฎร กำลังเร่งพิจารณาในประเด็นต่างๆ ยังรอความชัดเจน อาทิเช่น รูปแบบของการใช้เงินไปดูแลสังคม , การปรับทบทวนร่าง พ.ร.บ.การพนัน กับ พ.ร.บ. สลากกินแบ่ง ต้องปรับประยุกต์ให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น เมื่อกฎหมายรองรับ สิ่งที่ทำถูกกฎหมายไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศ รวมถึงการทบทวนสัดส่วนและรูปแบบ ผู้แทนจำหน่ายสลากใหม่ เพราะระบบปัจจุบันนี้กำลังสนับสนุนผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งมีเงินหมุนเวียนก้อนใหญ่

ขณะเดียวกันรายได้จากการขายหวยทั้งจำนวนต้องนำส่งรัฐทั้งหมด โดยแยกตั้งกองทุนขึ้นมาแตกต่างจากในอดีต โดยยังคงเงื่อนไขเงินรางวัลเดิมเป็นลักษณะของการผันแปร 12% 28% และ60% ถ้าประชาชนถูกน้อยรายเงินรางวัลจะมาก แต่ถ้าถูกมากรายเงินรางวัลต้องแบ่งกัน สำหรับเรื่องตัวแทนจำหน่ายนั้นจากข้อมูลเดิมมีตัวแทนติดต่อจำหน่ายประมาณ 5-6 พันเครื่อง ซึ่งยังให้สิทธิคนเก่าที่สนใจ แต่ถ้าไม่สนใจจะสละสิทธิ์ให้รายใหม่แทน

ทั้งนี้การเตรียมพร้อมของสำนักงานสลากฯ ที่จะเริ่มหวยตู้ หรือหวยออนไลน์ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา เพื่อให้สามารถเริ่มได้ภายในปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้านั้น จะเริ่มจำหน่ายเลข 2 ตัว (บน-ล่าง) และ 3 ตัว (บน-ตรง) ราคาสลากต่ำสุด 40 บาท รางวัลแบบราคาผันแปร คือ สลากซื้อมากจ่ายน้อย ซื้อน้อยจ่ายมาก รางวัลแจ๊กพอตสูงสุด 20-30 ล้านบาท และรางวัลต่ำสุดหลัก 100-1,000 บาท ขณะนี้ยังต้องหารือกรอบที่ชัดเจน เช่น มูลค่าราคาที่จะจ่าย จำนวนแจ๊กพอต และวิธีการจ่ายรางวัลผ่านธนาคารกรุงไทย เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,780 วันที่ 4-6 ตุลาคม พ.ศ. 2555