AEC : การเร่งรัดการรวมกลุ่มในสาขาบริการที่สำคัญของอาเซียน : บริการโลจิสติกส์
AEC : การเร่งรัดการรวมกลุ่มในสาขาบริการที่สำคัญของอาเซียน : บริการโลจิสติกส์
เป็นเวลากว่า 10 ปีที่สมาชิกอาเซียนได้เจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งถือได้ว่าเป็นความตกลงเขตการค้าเสรีฉบับแรกของไทย จนกระทั่งในปี 2545 จึงได้เกิดแนวคิดที่จะปรับระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้กระชับมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การนำไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community – AEC) ภายในปี 2563 (ค.ศ. 2020) ซึ่งจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน เงินทุนและแรงงานอย่างเสรีมากขึ้น รวมทั้งการเดินทางภายในอาเซียนได้อย่างสะดวกและเสรีมากยิ่งขึ้น
ผู้นำอาเซียนประกาศให้มีการเร่งรัดการรวมกลุ่มเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มการผลิตสินค้าและบริการที่มีศักยภาพเป็นอันดับแรก (Priority Sector) จำนวน 12 สาขา ได้แก่ สินค้าเกษตร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ประมง ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งทอและเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์จากไม้ สุขภาพ e-ASEAN ท่องเที่ยว บริการเดินทางทางอากาศและโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการนำร่องไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจที่เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว อันเป็นกลยุทธ์สำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของอาเซียนในตลาดโลก
ในส่วนที่เกี่ยวกับบริการโลจิสติกส์ นั้น อาเซียนต้องการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาบริการขนส่งและโลจิสติกส์ภายในอาเซียน โดยจะพยายามผลักดันให้ประเทศสมาชิกดำเนินการ :
- ส่งเสริมให้มีระบบการขนส่งสินค้าแบบ Door to Door และอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งผ่านแดน โดยหน่วยงานต่างๆ ให้เร่งรัดการปฏิบัติตามกรอบความตกลงการอำนวยความสะดวกสินค้าผ่านแดนและกรอบความตกลงการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
- ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางบกและบริการขนส่งทางบกเพื่อให้มีความเชื่อมโยงเข้ากับระบบการขนส่งทางน้ำและทางอากาศ
- เสริมสร้างความเข้มแข็งบริการขนส่งทางน้ำและทางทะเลภายในอาเซียน
- จัดทำนโยบายและสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ภายในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนยังต้องการเร่งรัดการรวมกลุ่มบริการโลจิสติกส์โดยขอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพิจารณาเร่งรัดการเปิดเสรีบริการโลจิสติกส์ให้เร็วมากขึ้นเพื่อให้ทันกับกระแสโลกาภิวัตน์ด้านการค้า เนื่องจากสมาชิกอาเซียนส่วนใหญ่ยังไม่ผูกพันการเปิดตลาดบริการด้านนี้มากนัก ซึ่งในปัจจุบัน อาเซียนอยู่ระหว่างกำลังพิจารณาความเหมาะสมของประเภทกิจกรรมที่ควรอยู่ในขอบข่ายของบริการโลจิสติกส์ (Logistics services) อาทิ การขนส่งทางถนน การขนส่งทางราง การขนส่งทางทะเล การขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางท่อ การขนถ่ายสินค้า สถานีตู้สินค้า คลังสินค้า ผู้รับจัดการขนส่ง ตัวแทนขนส่ง ตัวแทนออกของและบริการอื่นที่สนับสนุนการขนส่ง เป็นต้น โดยเวียดนามรับเป็นผู้ประสานงานในเรื่องดังกล่าว
ประเด็นสำคัญอื่นๆ ที่สมาชิกอาเซียนกำลังพิจารณาโอกาสและข้อจำกัดในการดำเนินการเร่งรัดการเปิดตลาดบริการด้านนี้ยังมีความท้าทายในอีกหลายประเด็น อาทิ
- ความรู้ความเข้าใจของรัฐบาลของประเทศต่างๆ ในอาเซียนในเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์
- ควรจะมีการกำหนดเงื่อนเวลาเป้าหมายที่ชัดเจนในการเปิดเสรีหรือไม่
- มีกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโลจิสติกส์ที่จำเป็นต้องดีรับการแก้ไขหรือไม่เพื่อรองรับกับการเปิดตลาด
- มีกิจกรรมย่อยในสาขาบริการโลจิสติกส์ภายในประเทศที่อาจจะได้รับผลกระทบทางบวกและลบจากการเปิดตลาดหรือไม่
การเปิดตลาดบริการโลจิสติกส์ในเวทีอาเซียนจึงเป็นหนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจและท้าทายสำหรับไทย เนื่องจากปัจจุบันทั้งรัฐบาลและเอกชนต่างให้ความสำคัญในการผลักดันให้ประเทศมีระบบโลจิสติกส์ที่ได้มาตรฐานสากล (World Class Logistics) เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้าของภูมิภาคอินโดจีน
ที่มา www.thaifta.com