หวาง หย่ง ชิ่ง กับธุรกิจพลาสติกระดับโลก ตอน 4

หวาง หย่ง ชิ่ง กับธุรกิจพลาสติกระดับโลก ตอน 4 วิธีเอาชนะคู่แข่งที่เป็นเจ้าตลาด และจุดพลิกผัน

หวางหย่งชิ่งเอาชนะคู่แข่งที่เป็นโรงสีข้าวของชาวญี่ปุ่นได้โดยใช้ความมานะ พยายาม และประหยัด มัธยัสถ์ของตน โรงสีข้าวของญี่ปุ่นทำงานถึง 6 โมงเย็นก็เลิกงาน แต่โรงสีข้าวของ
หวางหย่งชิ่งทำงานถึง 4 ทุ่มครึ่ง เขาทำงานมากกว่าชาวญี่ปุ่นวันละ 4 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งการทำงานในโรงสี หวางหย่งชิ่งจะต้องเปื้อนฝุ่นระคายทุกวัน ชาวญี่ปุ่นจ่ายเงิน 3 เฟินอาบน้ำร้อนทุกวัน แต่ หวางหย่งชิ่งกลับประหยัดเงิน 3 เฟิน ยอมอาบน้ำเย็นที่ก๊อกหน้าบ้านแม้จะเป็นหน้าหนาวจัดก็ตาม หวางหย่งชิ่งเห็นว่าประหยัดเงิน 3 เฟินนั้นเท่ากับได้กำไรจากการขายข้าวสารอีก 3 โต่ว
หวางหย่งชิ่งเอาชนะคู่แข่งในตลาดโลกของธุรกิจพลาสติกได้โดยการใช้กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่สุด โดยการเสาะหาทรัพยากรต่างๆที่มีราคาถูก เมื่อหวางหย่งชิ่งได้เห็นว่าในอเมริกามีวัตถุดิบมากมายและราคาถูกกว่าในไต้หวัน เขาจึงได้ซื้อโรงงานปิโตรเลียมเคมีในมลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างโรงงานพลาสติกที่ใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นมา ซึ่งหวางหย่งชิ่งจะได้ประโยชน์จากการประหยัดจากขนาดการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงอีก

จุดพลิกผันของธุรกิจ
หลังจากที่หวางหย่งชิ่งได้จดทะเบียนบริษัทอุตสาหกรรมพลาสติกไต้หวันจำกัด (ไถซู่) และโรงงานได้เริ่มดำเนินงานผลิต ด้วยทุนส่วนตัว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯอีก 67 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หวางหย่งชิ่งต้องเผชิญกับปัญหาผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จากโรงงานมีคุณภาพต่ำ ต้นทุนสูง ทำให้เขาขายผงพลาสติก พีวีซี ไม่ได้เลยแม้แต่ตันเดียว
หวางหย่งชิ่งจึงคิดที่จะบุกเบิกตลาดต่างประเทศแต่ด้วยกำลังการผลิตในโรงงานเพียง 100 ตันต่อเดือน ทำให้เขาไม่อาจแข่งขันในตลาดโลกได้ หวางหย่งชิ่งจึงแก้ปัญหาโดยการตัดสินใจขยายโรงงานเพื่อหวังว่าการเพื่อปริมาณการผลิตจะสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตลงได้ และการซื้อเทคโนโลยีในการผลิตที่สูงขึ้นในการขยายโรงงานจะสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น ส่วนอีกด้านหนึ่ง หวางหย่งชิ่งก็ตั้งโรงงานแปรรูปผง พีวีซี ขั้นต้น เป็นการหาทางออกให้
ผงพลาสติก พีวีซี ผลที่ได้ แม้คุณภาพของผลิตภัณฑ์จะดีขึ้นแล้วแต่ต้นทุนในการผลิตก็ยังค่อนข้างสูง ทำให้ยังไม่สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ หวางหย่งชิ่งจึงตัดสินใจขยายกำลังผลิตเป็นครั้งที่ 2 ให้โรงงานสามารถผลิตเพิ่มได้เป็น 1,200 ตัน ซึ่งมีผลทำให้ต้นทุนการผลิตลดลงอย่างมาก ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขาสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ และยังช่วยพัฒนากิจการแปรรูปผง พีวีซีของเขาให้เจริญรุ่งเรืองอีกด้วย

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *