วิเชียร เผอิญโชค กับการสร้าง”ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์” ตอน 2

วิเชียร เผอิญโชค กับการสร้าง”ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์” ตอน 2 :โอกาสที่มองเห็น

ประสบการณ์ทำงาน
หลังจากพ่อของวิเชียรตายจากไป ทิ้งแม่และน้องสาวไว้ให้เป็นภาระแก่เขา วิเชียรจึงต้องมุ่งเข้าหางานรับจ้างสารพัดอย่างเพื่อให้ได้ข้าวและอาหารมาเลี้ยงแม่และน้อง วิเชียรทำทุกอย่างขอแต่ให้มีคนมาว่าจ้าง เมื่ออายุได้ 14 ปี วิเชียรได้มีโอกาสพาแม่และน้องสาวเข้ามาเมืองไทยมาพักกับอากู๋ที่ห้องเช่าซึ่งเล็กและคับแคบย่านสวนมะลิ ในช่วงแรก วิเชียรจะออกเดินจากห้องเช่าทุกเช้า เพื่อไปรับจ้างเป็นลูกมือจิปาถะขอให้มีคนมาว่าจ้างเท่านั้น จนต่อมาเขาได้งานประจำคืองานรับจ้างหาบหมูสะเต๊ะขาย
ในช่วงแรก วิเชียรต้องพบกับความยากลำบากอันใหญ่หลวงเพราะเขาไม่รู้ภาษาไทย วิเชียรต้องใช้ภาษาทำไม้ทำมือเอาตัวรอดไปได้วันๆหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไปแต่ละวันเขาก็เริ่มจดจำภาษาไทย จำคำที่จะต้องใช้บ่อยๆได้ จนวันหนึ่งแม่บุญธรรมต้องการให้วิเชียรมีความรู้ติดตัวบ้าง จึงส่งเขาไปทำงานกับญาติ วิเชียรจึงได้ไปขายเต้าหู้และต้มข้าวหมูที่พนัสอยู่ 3 ปี แต่เขาก็รู้สึกว่าไม่มีวิชาอะไรให้เรียนรู้อีก วิเชียรจึงตัดสินใจกลับมาที่กรุงเทพฯอีกครั้ง เพื่อหาโอกาสดีๆให้กับชีวิตของตนเอง
หลังจากกลับมาจากพนัส วิเชียรก็ช่วยแม่รับจ้างหาบน้ำขายให้กับห้องเช่าอื่นๆ มีรายได้พอเป็นค่ากับข้าวแต่ละวัน แต่เขาก็มองหาอาชีพอื่นที่มั่นคงของชีวิตต่อไป หลังจากนั้นวิเชียรก็เปลี่ยนมาหาบถั่วต้มมันต้มขายในตอนกลางวันและขายอ้อยควั่นแช่น้ำแข็งในตอนกลางคืน วันหนึ่งวิเชียรก็เกิดอาการเบื่อหน่ายเพราะอาชีพนี้ไม่ได้สอนให้เขาเรียนรู้อะไรเอาไว้ติดตัวเลย ต่อมาวิเชียรจึงเปลี่ยนมาถีบสามล้อซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งอาชีพ
การถีบสามล้อทำให้วิเชียรได้มีโอกาสรู้จักคนขับสามล้อเครื่อง ซึ่งทำให้วิเชียรซึ่งสนใจเรื่องเครื่องยนต์อยู่แล้วได้เปลี่ยนไปเป็นคนขับสามล้อเครื่อง เพื่อต้องการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเครื่องยนต์ก่อนที่จะไปเป็นช่าง ขณะที่ขับสามล้อ วิเชียรก็ได้เริ่มดัดแปลงรถสามล้อเครื่องตามที่เขาคิด ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของวิเชียร เขาได้ดัดแปลงรถสามล้อพ่วงข้างแบบเดิม ให้กลายมาเป็นสามล้อที่มีผู้โดยสารนั่งตรงกลางอย่างเช่นปัจจุบัน
เมื่อเวลาผ่านไปเป็นปี วิเชียรก็สะสมเพิ่มพูนความรู้เรื่องช่างเครื่องยนต์เอาไว้ได้มากพอ
ดังนั้นเขาจึงคิดจะหางานใหม่ที่ให้โอกาสที่ดีกว่าทำ และต่อมาวิเชียรก็ได้ทำงานเป็นคนขับรถของชาวไต้หวันซึ่งเข้ามาเปิดบริษัทชื่อ ยูเนี่ยน ค้าขายพวกสังกะสีและตะปู โดยนำเข้ามาจากญี่ปุ่น ซึ่งที่นี่เองที่ทำให้วิเชียรได้มีโอกาสใกล้ชิดกับกองทัพญี่ปุ่น โดยเขามีหน้าที่พาพวกญี่ปุ่นไปซื้อของ
จนสบช่องในการทำมาหากินจนสามารถยึดเป็นอาชีพได้
หลังสงครามยุติ วิเชียรก็ได้ไปทำงานที่ร้านตั้งท่งฮวด ซึ่งต่อมาคือ สยามกลการที่นำรถยนต์นิสสันเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย เขามีหน้าที่ประมูลรถยนต์เก่าที่เหลือใช้จากสงคราม หรือ
เสียหายจากสงคราม จากทางราชการ มาแก้ไขดัดแปลงและนำไปออกขายใหม่ บางอะไหล่ก็ไม่มีขาย ทำให้วิเชียรต้องคิดประดิษฐ์ขึ้นมาเอง เมื่อสยามกลการได้จัดจำหน่ายรถนิสสันในประเทศไทยแล้ว วิเชียรก็มีหน้าที่รับผิดชอบด้านดัดแปลงแก้ไขรถญี่ปุ่นให้เข้ากับสภาพของประเทศไทย ซึ่งความรู้ความสามารถเหล่านี้ เขาได้มาจากการช่างสังเกตผสมเข้ากับความชอบของตัวเอง

ก่อนการก่อตั้งธุรกิจ
สภาพของธุรกิจในขณะนั้น
ขณะนั้น ในธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ กลุ่มรถยุโรปและรถอเมริกาครองความเป็นเจ้าตลาดอยู่และมีเอเยนต์ที่เป็นบริษัทใหญ่ อีกทั้งคนไทยยังไม่นิยมรถญี่ปุ่นเนื่องจากยังเข็ดเขี้ยวกับพฤติกรรมอันโหดเหี้ยมของคนญี่ปุ่น ทำให้การนำรถญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ภาพเหตุการณ์ในตอนนั้น
มีการจัดตั้งสภาพัฒนาเศรษฐกิจขึ้นเพื่อให้ทำหน้าที่วางแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ รัฐบาลไทยมีการส่งเสริมการลงทุนจากภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศ เลิกขยายกิจการรัฐวิสาหกิจและได้ขายรัฐวิสาหกิจบางแห่งให้เอกชน และได้มีการเชิญชาวจีนมาร่วมโครงการ อุตสาหกรรมของรัฐบาล มีการผลักดันนโยบายเรื่องให้มีโรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานผลิตชิ้นส่วนขึ้นภายในประเทศ

โอกาสที่มองเห็น
สภาพบ้านเมืองมั่นคง เศรษฐกิจกำลังขยายตัว ความต้องการรถยนต์มีมากมายไม่รู้จบโดยเฉพาะรถบรรทุก ทำให้ถ้ามีการนำรถบรรทุกเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว จะมั่นใจได้ว่าสามารถขายได้อย่างแน่นอน

แรงบันดาลใจที่ทำให้สร้างธุรกิจขึ้นมา
ในขณะที่วิเชียรทำงานอยู่ที่สยามกลการ เขาได้สั่งสมประสบการณ์และรู้สึกว่าตนเองมีทักษะในกระบวนการดัดแปลงรถตั้งแต่ต้นจนจบอย่างเชี่ยวชาญ และรู้ขั้นตอนโดยตลอด ทำให้วิเชียรอยากจะมีกิจการเป็นของตนเองเพื่อจะตั้งตัวได้ ดังนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจลาออกจากสยาม
กลการ เพื่อไปซื้อซากรถมาดัดแปลงและนำออกขายใหม่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่วิเชียรก็ไม่เสียกำลังใจ จนเมื่อชิโอะ โมริตะซึ่งเป็นเอเยนต์จำหน่ายรถอีซูซุแต่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
ชักชวนให้วิเชียรมาเป็นเอเยนต์จำหน่ายรถอีซูซุในกรุงเทพฯ เขาจึงได้ตอบตกลง

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *