ความเครียด ปัญหาที่ต้องดับที่เหตุ

ความเครียด…ปัญหาต้องดับที่เหตุ
เมื่อก่อนนั้น เราบอกว่า สังคมของเรายังไม่เจริญ
เมื่อเราได้รับ การศึกษา จากชาวตะวันตก

เราก็คิดว่า จะนำพาสังคมของเรา ให้เจริญได้
ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์

เราเริ่มพัฒนาการศึกษา และนำความรู้มาพัฒนาสังคม
แต่เรากลับไม่รู้ว่า การพัฒนาที่เรากระทำนั้น
เป็นการพัฒนาทางด้านวัตถุเป็นหลัก

ซึ่งไม่ใช่การพัฒนาที่ถูกต้อง แล้วเราก็ตกเป็นทาส วัตถุนิยม
สิ่งที่ตามมากับความเจริญ ทางด้านวัตถุนั้น ก็คือ ความเครียด

วันนี้เรามีความรู้ ทางด้านการแพทย์ และจิตวิทยา
ซึ่งเราท่องจำ คำสอนของฝรั่งมา
เราก็ยังจัดการกับ ปัญหาความเครียด ไม่ได้

เราลองหันกลับมาดูว่า เราเคยมีความรู้ในสังคมของเราเอง
แต่เรากลับละเลย หรือแม้แต่พยายาม
จะศึกษาแล้ว แต่ก็เข้าใจได้ยาก จนเราเคยท้อ

นั่นคือความรู้ ในทางพุทธศาสนาของเรานั่นเอง

วันนี้เรามีความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ แล้ว
ถ้าเราลองย้อนกลับไป ศึกษาความรู้ในศาสนาพุทธ
อาจเข้าใจง่าย ด้วยคำอธิบาย ทางวิทยาศาสตร์

ในพระไตรปิฏก กล่าวไว้ว่า

พระพุทธเจ้าได้เน้นให้เราปฎิบัติธรรม โดยยึดสติปัฎฐาน 4 เป็นหลัก
แล้วสติปัฎฐาน 4 คืออะไร

สติปัฎฐาน 4 ก็คือ การพิจารณาร่างกายของเรา
ตามความหยาบ-ละเอียด เป็น 4 ระดับ
คือ กาย เวทนา จิต ธรรม

1. กาย คือร่างกายของเรา ในส่วนที่เป็นวัตถุ จับต้องได้
2. เวทนา คือระบบประสาท ที่อยู่ในร่างกายของเรา
3. จิต ก็คือจิตใจของเราเอง
4. ธรรม สามารถเข้าใจแบบง่าย ๆ ก็คือ
ความสมดุลย์ แต่ถ้าจะอยากจะเข้าใจ แบบลึกลงไปนั้น
ต้องย้อนไปทำความเข้าใจกับ ความสามารถในการมองเห็น (ญานทัศนะ)
เพราะในพระไตรปิฎกกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้ญานทัศนะ
(ความสามารถในการมองเห็น)ก่อน
แล้วใช้ ญานทัศนะ มองเห็น อริยะสัจ 4 หรือ การตรัสรู้ นั่นเอง

ในการแก้ปัญหาความเครียดนั้น ผู้ที่ศึกษาศาสนาพุทธ จะชอบพูดข้ามไปที่ จิต เลย
ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ 3 แล้ว ในสติปัฎฐาน 4 ที่พระพุทธเจ้ายกย่อง
แล้วเราก็ไม่เข้าใจ และก็แก้ไม่ได้ ในภาพรวม เพราะว่า เป็นการข้ามขั้นตอน

ในขั้นตอนแรก คือ กาย ปฎิบัติได้ด้วยการ พิจารณาร่างกาย (กายานุปัสนา)
ซึ่งอธิบายได้ด้วย วิทยาศาสตร์

1. คิดง่าย ๆ แบบคนโง่ ๆ ก็คือ ร่างกายเรานั้น ประกอบด้วยน้ำ ถึง 3 ใน 4 ส่วน
เพราะฉะนั้น น้ำน่าจะเป็นส่วนสำคัญ ที่ช่วยระบายความเครียดเรา ได้ดีที่สุด

2. ประเด็นที่เราต้องคิดต่อมาก็คือ อุณหภูมิของน้ำ เรามักจะคิดตามความรู้สึกง่าย ๆ ว่า
น้ำเย็นจะช่วยระบาย ความเครียดของเรา เพราะทานน้ำเย็น แล้วเรารู้สึกสบาย ชื่นใจ

แต่ในทางวิทยาศาสตร์นั้น กลับตรงกันข้าม น้ำที่เย็นกว่า อุณหภูมิของร่างกายมาก ๆ
จะทำให้อวัยวะภายในของเรา สูญเสียความร้อน และเป็นปัญหาสะสมในระบบ
เพราะอวัยวะภายใน ทำงานด้วยระบบประสาท อัติโนมัติ

สรุปได้ว่า เราต้องดื่มน้ำ ที่มีอุณหภุมิสูงกว่าร่างกาย

3. เวลาที่จำเป็นที่เราต้องดื่มน้ำที่สุดนั้น คือตอนตื่นนอนตอนเช้า
เพราะในตอนเช้า ร่างกายเราจะขยายตัว ทำให้ร่างกายเราต้องการน้ำมากที่สุด
สามารถพิสูจน์ได้ ด้วยการวัดความสูงของเรา ในตอนเช้า และตอนเย็น
เปรียบเทียบกัน อาจจะสูงต่างกันถึง 1 ซม.

สรุปได้ว่า ในการแก้ปํญหาความเครียดนั้น ควรเริ่มต้นด้วยการดื่มน้ำอุ่น 2-3 แก้ว
ในตอนเช้า ทุก ๆ เช้า แล้วค่อย ๆ เรียนรู้การระบายความเครียดในระดับที่ยากขึ้นไป

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *