“FPS Logistics” ปรับกลยุทธ์เชิงรุกมุ่งมั่นสู่ Integrated Freight Forwarder

“FPS Logistics” ปรับกลยุทธ์เชิงรุกมุ่งมั่นสู่ Integrated Freight Forwarder
Source: LogisticsDigest

FPS Logistics (Thailand) ประกาศพร้อมพัฒนาองค์กร ปรับกลยุทธ์เชิงรุกทั้งการตลาด-การขาย พร้อมพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ชูจุดแข็งด้านบริการ LCL ด้วยเครือข่ายที่เข้มแข็งทั่วโลก ย้ำจุดยืนการเป็น Master Loader ของตู้ Consolidation

ทรนด์การแข่งขันของผู้ให้บริการโลจิสติกส์และ Freight Forwarder เข้มข้นขึ้น จากสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งนับเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีความพร้อม และปรับตัวไม่ทัน จากการที่ตลาดหดตัวลง ทำให้หลายบริษัทต่างเร่งพัฒนาประสิทธิภาพ ยกระดับการให้บริการอย่างเต็มกำลัง พร้อมพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งสร้างเครือข่ายจับมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการรายอื่น เพื่อสร้างความแกร่งในการแข่งขัน

บริษัท FPS Logistics (Thailand) Co., Ltd. บริษัทตัวแทนการขนส่งระหว่างประเทศ ทั้งทางเรือและทางอากาศในธุรกิจนำเข้า-ส่งออก และเป็นผู้นำด้านการขนส่งสินค้าทางเรือแบบ LCL ด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในวงการ จากการมีเครือข่ายทั่วโลก รวมทั้ง FPS ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท ลีโอโกลบอล โลจิสติกส์ที่ให้บริการแบบครบวงจร ส่งผลให้บริษัทมีศักยภาพมากกกว่าคู่แข่งรายอื่น นอกจากนี้ FPS ยังเป็นผู้นำด้าน LCL ที่เป็นข้อได้เปรียบ ทำให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ

สำหรับกลยุทธ์ในการตั้งรับวิกฤติเศรษฐกิจนั้น บริษัทฯ ได้เร่งปรับกลยุทธ์เชิงรุกทั้งทางการตลาดและการขาย เพิ่มทีมงานขาย ขยายตลาด เพื่อเพิ่มลูกค้า พร้อมทั้งพัฒนาภายในองค์กรให้เข้มแข็ง และเตรียมความพร้อมรองรับการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจในอนาคต นอกจากนี้ยังเร่งพัฒนาบุคคลขององค์กรให้สามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ.คุณศรีไพร เอกวิจิตร์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ FPS Logistics (Thailand) Co., Ltd.แสดงทรรศนะในการบริหารงาน

ทางบริษัทได้กำหนดการตลาดและการขาย โดยการปรับเปลี่ยนวิธีคิด รูปแบบการเจาะตลาด เพื่อสร้างยอดขาย โดยการเพิ่ม Sales Performance พร้อมทั้งปรับโครงสร้างการขาย และเพิ่มสมรรถนะการขาย นอกจากนี้ยังมุ่งขยายตลาดใหม่ โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด Middle East อีกด้วย คุณพีรศิษฎ์ บุนนาค Sales Manager ให้ความเห็นเพิ่มเติม

เป้าหมายที่ทางบริษัทได้กำหนด และดำเนินการในปี 2552-2553 คือ การเตรียมบุคคลากรให้พร้อม การสร้างสมรรถนะคน-พนักงานขาย โดยให้ความสำคัญใน 3 ประเด็นหลัก คือ การบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Relationship Management) การปรับเปลี่ยนด้านการขาย (Sales Versatility) และสร้างความได้เปรียบการแข่งขัน (Competitive Approach)

ยกเครื่ององค์กร-เสริมประสิทธิภาพเต็มขั้น
ธุรกิจโลจิสติกส์เป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง บริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ทุ่มเงินและเทคโนโลยีหวังครอบครองส่วนแบ่งการตลาด โดยลดค่าราคา-พัฒนาบริการ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ ที่นับว่าเป็นอุปสรรคทางการแข่งขันอย่างมาก ดังนั้น หากจะให้ธุรกิจรอด บริษัทฯ ต้องเร่งสร้างความได้เปรียบ ปรับโครงสร้างองค์กร พัฒนาคุณภาพบริการ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำของสหรัฐอเมริกา ที่เป็นตลาดหลักของผู้ส่งออกไทย ทำให้ผู้ส่งออกได้รับผลกระทบอย่างหนัก ในเรื่องนี้ คุณศรีไพร มองว่า จากวิกฤติก็ยังมีโอกาส เนื่องจากยังมีตลาดต่างประเทศที่ยังมีความต้องการสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะตลาดใหม่ ได้แก่ ตะวันออกกลาง อินเดีย และจีน ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทฯ ในการให้บริการแก่ผู้ส่งออกไปยังตลาดเหล่านี้ และจากการที่ FPS มี Network ครอบคลุมทั่วโลก รวมทั้ง FPS ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท ลีโอโกลบอล โลจิสติกส์ ที่ให้บริการแบบครบวงจร หรือเป็น Integrated Freight Forwarder ทำให้มีโอกาสและข้อได้เปรียบ สามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร

ทั้งนี้ จุดแข็งของ FPS ก็คือ การให้บริการสินค้าแบบไม่เต็มตู้หรือที่เราเรียกกันว่า LCL (Less than container load cargo) สำหรับผู้ส่งออกสินค้าที่มีสินค้าไม่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีเครือข่ายของกลุ่ม Famous Pacific Shipping หรือ FPS ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการแบบ LCL Service ซึ่งมีอยู่ทั่วโลกมากกว่า 120 เมือง โดย FPS จะเป็น Master Loader ของตู้ Consolidation ไปยังเมืองต่างๆ โดยที่ FPS จะทำการบริหารจัดการพื้นที่ในตู้คอนเทนเนอร์ จองระวางเรือ และตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งปัจจุบัน FPS มีกลุ่มลูกค้าที่เป็น Freight Forwarder มาใช้บริการ LCL Service กว่า 300 บริษัท ที่แสดงถึงการบริการที่มีคุณภาพ การตรงต่อเวลา และความเป็นมืออาชีพของ FPS ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่ม Freight Forwarder อย่างต่อเนื่อง

FPS สามารถให้บริการลูกค้าได้ครบวงจร สามารถช่วยลูกค้าประหยัดต้นทุนในการขนส่งด้วยบริการที่หลากหลาย โดยเฉพาะในส่วนของ LCL Local Charge ปลายทางไม่แพง สามารถส่งสินค้าตรงเวลา และไม่มีการ Hold ตู้ ทั้งมีทีมงานบุคลากรที่เป็นมืออาชีพ สามารถให้คำแนะนำ และให้คำปรึกษาเรื่องการขนส่งในรูปแบบต่างๆ แก่ลูกค้า เนื่องจากเรามีการพัฒนาอบรมพนักงานของเราอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ในการใช้บริการของ FPS ทั้งการส่งออกและนำเข้า รวมถึงบริการด้านโลจิสติกส์

“เราจะใช้จุดแข็งของ FPS ในเรื่องของ LCL Service นี้ ในการช่วยเหลือผู้ส่งออกและนำเข้า เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย เพราะเราเชื่อว่าจำนวน Order ในการส่งออกและนำเข้าจะมีปริมาณที่น้อยลง และผู้ประกอบการจะต้องใช้บริการในด้าน LCL Service มากขึ้น ซึ่ง FPS ก็ได้ขยายบริการ LCL ให้ครอบคลุมไปยังเมืองอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะการนำเข้าซึ่งปัจจุบัน FPS สามารถให้บริการ Weekly LCL Service จากเมืองต่างๆ ทั่วโลกมากกว่า 60 เมืองมายังประเทศไทย ซึ่งไม่เพียงคลอบคลุมประเทศคู่ค้าหลักๆ ของประเทศไทยในเอเชีย ยุโรป หรือ สหรัฐอเมริกา แต่ยังรวมถึงประเทศคู่ค้าที่เป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่น จีน อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือแม้กระทั่ง แอฟริกาใต้ โดยเฉพาะ อิตาลี ไต้หวัน ฮ่องกง สิงค์โปร์ ที่มีบริการสินค้าเข้าที่ท่าเรือแหลมฉบังด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ FPS เชื่อมั่นว่ามีบริษัท Freight Forwarders เพียงไม่กี่รายในประเทศไทยที่สามารถให้บริการได้คลอบคลุมและหลากหลายได้เช่นเรา” คุณศรีไพร กล่าวย้ำ

นอกจากนี้ ในปี 2009 นี้ บริษัทฯ มีแผนเพิ่มศักยภาพการขนส่งโดยใช้ กรุงเทพฯ เป็น Transshipments Hub เพื่อให้สินค้าจากเครือข่ายของ FPS มาผ่านที่กรุงเทพฯ และใช้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปเมืองต่างๆ ทั่วโลก เช่นเดียวกับที่สิงคโปร์และฮ่องกงทำสำเร็จไปแล้ว

คุณพีรศิษฎ์ ยังกล่าวถึงกลยุทธ์ในการตั้งรับวิกฤติเศรษฐกิจปี 2009 ว่า กลยุทธ์ที่ใช้กับสถานการณ์ปัจจุบัน คือการเตรียมพร้อมด้านบุคลากรไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย หรือฝ่ายสนับสนุน โดยมีนโยบาย ดังนี้ 1 ปรับกลยุทธ์เชิงรุกในทางการตลาดและการขาย เพิ่มทีมงานขาย ขยายตลาดเพื่อเพิ่มลูกค้า โดยทางบริษัทมีการ กำหนดการตลาดและการขาย ปรับเปลี่ยน วิธีคิด และรูปแบบการเจาะตลาด เพื่อสร้างยอดขาย และ 2. พัฒนาองค์กรให้เข้มแข็ง และเตรียมพร้อมรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยพัฒนาบุคลากรให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีตัวชี้วัดที่ชัดเจน 3.จัดโครงการเสริมความรู้ให้แก่ลูกค้า ในโครงการ “Sharing For Our Friends” ซึ่งเป็นโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กรของเราให้กับลูกค้าที่เป็น Freight Forwarders และเป็นพันธมิตรของกลุ่ม FPS โดยเราจัดให้มีการสัมมนาในหัวข้อต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับพันธมิตรของ โดยเป็นวิทยากรภายในของเอฟพีเอส และลีโอ หรือมีการเชิญวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์จากองค์กรที่มีชื่อเสียงมาให้ความรู้

นอกจากนี้ FPS ยังพัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารจัดการโลจิสติกส์ โดยพัฒนาระบบ MIS ซึ่งเป็นระบบการบริหารจัดการรายชื่อลูกค้าที่เป็นมืออาชีพ ทำให้ลูกค้าไม่ทับซ้อนกับ Freight Forwarder ที่เป็นพันธมิตร ส่งผลให้ FPS ได้รับความไว้วางใจจาก Freight Forwarder เลือกใช้บริการกว่า 300 บริษัท ทั้งบริการ LCL และ FCL รวมทั้งบริการ Airfreight อีกด้วย

ทั้งนี้ จากการที่ FPS เป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท Leo Global Logistics Group ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เข้าเป็นสมาชิกของกลุ่ม Project Professionals Group Network ซึ่งมีความเชียงชาญในการขนส่งสินค้าประเภท Project & Heavy Lift Cargo รวมถึงสินค้าประเภท Break Bulk ดังนั้น FPS จึงมีแผนที่จะทำการส่งเสริมการขายสินค้าประเภท Project & Heavy Lift cargo และ Break Bulk มากขึ้นตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นไป

การปรับตัว-พัฒนาคุณภาพของผู้ให้บริการ จะช่วยยกระดับขีดความสามารถให้กับผู้ส่งออกไทยให้สามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ รวมทั้งผู้ให้บริการ Freight Forwarder ที่สามารถรักษาส่วนบ่งทางการตลาดและยืนหยัดในเวทีการค้านี้ได้…

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *