แพทย์….เตือนอาหารตัวก่อมะเร็ง

แพทย์….เตือนอาหารตัวก่อมะเร็ง
• อาหาร
แนะหลีกเลี่ยงอาหารประเภทย่าง

มุมมองของแพทย์แผนไทยต่อการเกิดโรคมะเร็งนั้น ถือว่าเป็นความผิดปรกติของธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ซึ่งธาตุทั้งสี่ขาดความสมดุลเป็นเวลานาน ทำให้ก่อโรคที่เป็นเนื้อร้ายในร่างกาย

รศ.ดร.อรุณพร อิฐรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวในการให้ความรู้เรื่องการนำสมุนไพรมาใช้ต้านมะเร็งร่วมกับสำนักเสริมศึกษาและบริการสังคม

โดยรวบรวมพฤติกรรมการก่อโรคมะเร็งตามความคิดของหมอแผนไทยว่า

(1) เกิดจากกรรมพันธุ์หรือกรรม

(2) เกิดจากการที่ร่างกายขาดสมดุลเป็นเวลานานมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการก่อโรค

(3) รับประทานอาหารธาตุดินมากเกินไปทำให้ธาตุดินกำเริบ โดยอาหารธาตุดิน ได้แก่ อาหารที่มีรสฝาด หวาน มัน เค็ม นอกจากนั้นหากรับประทานเนื้อสัตว์มากเกินไปจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักและมีการสะสมของเก่ามาก

(4) การรับประทานอาหารที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาหารบูด อาหารที่ไม่เคยกิน อาหารไม่ถูกกับธาตุ และอาหารที่ไม่ถูกกับโรค

(5) ฝืนอิริยาบถ ได้แก่ การนั่ง ยืน เดิน นอนไม่สมดุลกัน ทำให้โครงสร้างร่างกายเสียสมดุลและเสื่อมโทรม

(6) อากาศไม่สะอาด อยู่ในที่ร้อนหรือเย็นเกินไป

(7) การอด ได้แก่ การอดข้าว อดนอน อดน้ำ ขาดอาหาร เป็นต้น

(8) การกลั้นอุจจาระ ปัสสาวะ

(9) ทำงานเกินกำลังมากไป หรือมีกิจกรรมทางเพศมากเกินไป

(10) มีความโศกเศร้าเสียใจมากเกินไป หรือดีใจมากเกินไป คือขาดอุเบกขานั่นเอง

(11) มีโทสะมากเกินไป และขาดสติ

ส่วนสาเหตุในมุมมองของแพทย์แผนปัจจุบันระบุว่า มีทั้งสาเหตุภายนอกและสาเหตุภายใน สาเหตุภายนอกอันดับแรกคือเรื่องของอาหาร รับประทานสารเคมีหรือนำสิ่งแปลกปลอมทั้งหลายเข้าสู่ร่างกาย เช่น สารที่ผสมอาหารเพื่อให้รสชาติดีขึ้น อาทิ ไซคลาเมทและแซ็กคาริน อันเป็นสารที่ทำให้เกิดรสหวาน ไม่มีคุณค่าทางอาหาร มักใช้ผสมในอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาลเพื่อลดปริมาณแคลอรี สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะในหนูทดลอง ส่วนสารให้ความหวานที่ชื่อดัลซินก็ไม่มีสารอาหารที่มีคุณค่า แถมยังก่อให้เกิดมะเร็งตับและทางเดินปัสสาวะอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีสารที่ผสมอาหารเพื่อถนอมคุณภาพทางอาหาร ได้แก่ โซเดียม โพแทสเซียมไนเตรต และไนไตรต์ มักนำมาใช้ในการถนอมอาหารจำพวกเนื้อวัว เนื้อปลา และเนยบางชนิด ทำให้เกิดการเปลี่ยนจากสารธรรมชาติไปเป็นสารก่อมะเร็งได้ รวมถึงสารกันบูดและสารกันหืนด้วย นอกจากนั้นผู้ที่เคี้ยวหมากเป็นประจำจะได้รับสารอะเรไคดีนและอะเรโคลิน ทำให้เกิดมะเร็งในช่องปาก และยังมีสารก่อมะเร็งตัวอื่นที่อยู่ในใบพลี เส้นยาสูบ และปูนขาว

และยังมีอาหารที่ทำให้สุกจากการย่างด้วยถ่านไฟโดยตรง เช่น เนื้อย่าง ปลาย่าง ไก่ย่าง ซึ่งเนื้อส่วนที่ไหม้เกรียมมีส่วนทำให้เกิดมะเร็งได้ และที่ทราบกันดีคือ ผงชูรส ซึ่งมีสารโมโนโซเดียมกลูตาเมท ที่อาจเป็นสารก่อมะเร็ง ส่วนสารอาหารที่ให้พลังงานมาก เช่น อาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน

ทั้งนี้ มีผู้ศึกษาพบว่า 40% ของมะเร็งที่พบในคน มีความสัมพันธ์กับการรับประทานอาหาร ซึ่งอาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในพัฒนาการของเซลล์ที่มีแนวโน้มเจริญเติบโตผิดปรกติอยู่แล้ว โดยอาหารบางอย่างจะไปกระตุ้นให้เซลล์ผิดปรกติได้ง่ายและเร็วกว่าเดิม

ที่มา: หนังสือพิมพ์โลกวันนี้