เอสเอ็มอี : สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ เอสเอ็มอี ต้องรู้!!!

เอสเอ็มอี : สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ เอสเอ็มอี ต้องรู้!!!

หากจะกล่าวถึงคำจำกัดความของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ เอสเอ็มอี ตามพระราช บัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543 กำหนดไว้ว่า วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยมีเกณฑ์ในการให้คำจำกัดความตามปริมาณของการจ้างงานและสินทรัพย์ถาวร ดังตารางต่อไปนี้

วิสาหกิจขนาดย่อม ได้แก่

ประเภทกิจการ การจ้างงาน มูลค่าสินทรัพย์ถาวรสุทธิไม่รวมที่ดิน
กิจการผลิตสินค้า ไม่เกิน 50 คน ไม่เกิน 50 ล้านบาท
กิจการให้บริการ ไม่เกิน 50 คน ไม่เกิน 50 ล้านบาท
กิจการค้าส่ง ไม่เกิน 25 คน ไม่เกิน 50 ล้านบาท
กิจการค้าปลีก ไม่เกิน 15 คน ไม่เกิน 30 ล้านบาท
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้แก่ประเภทกิจการ การจ้างงาน มูลค่าสินทรัพย์ถาวรสุทธิไม่รวมที่ดิน
กิจการผลิตสินค้า เกิน 50 คนแต่ไม่เกิน 200 คน ไม่เกิน 200 ล้านบาท
กิจการให้บริการ เกิน 50 คนแต่ไม่เกิน 200 คน ไม่เกิน 200 ล้านบาท
กิจการค้าส่ง เกิน 25 คนแต่ไม่เกิน 50 คน ไม่เกิน 100 ล้านบาท
กิจการค้าปลีก เกิน 15 คนแต่ไม่เกิน 30 คน ไม่เกิน 60 ล้านบาท

ท่านเองอาจเป็นส่วนหนึ่งของเอสเอ็มอี ตามคำจำกัดความดังกล่าว แต่สำหรับเอสเอ็มอีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากกรมสรรพากรนั้นมิได้ครอบคลุมถึงเอสเอ็มอีทุกรายตามคำจำกัดความนี้ โดยกรณีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมีเพียงดังต่อไปนี้

1. สิทธิประโยชน์ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

โดยปกติแล้วบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องเสียภาษีจากกำไรสุทธิในอัตราร้อยละ 30 แต่สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จะได้รับอัตราภาษีที่ลดลงโดยเสียภาษีในอัตราร้อยละ 15 ของกำไรสุทธิส่วนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท และ อัตราร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิส่วนที่เกิน 1 ล้านบาทแต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ทั้งนี้มีเงื่อนไขอยู่ 2 ประการ คือ ต้องเป็นกำไรสุทธิที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีซึ่งเริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป และ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้กำหนดไว้เฉพาะบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาทเท่านั้น (พรฎ 431)

2. สิทธิประโยชน์ในการคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์

สินทรัพย์ประเภทคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ปกติสามารถหักค่าเสื่อมราคาได้ไม่น้อยกว่า 3 รอบบัญชี แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับสิทธิประโยชน์คือสามารถหักค่าเสื่อมราคาได้เบื้องต้นในวันที่ได้รับสินทรัพย์นั้นมาทันทีร้อยละ 40 ที่เหลืออีกร้อยละ 60 นั้นทยอยหักค่าเสื่อมราคาได้ไม่น้อยกว่า 3 รอบบัญชี

สินทรัพย์ประเภทอาคาร โรงงาน ปกติสามารถหักค่าเสื่อมราคาได้ไม่น้อยกว่า 20 รอบบัญชี แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถหักค่าเสื่อมราคาได้เบื้องต้นในวันที่ได้รับสินทรัพย์มา ร้อยละ 25 ที่เหลืออีกร้อยละ 75 สามารถทยอยหัก ได้ไม่น้อยกว่า 20 รอบบัญชี

สินทรัพย์ประเภทเครื่องจักรและอุปกรณ์ ปกติสามารถหักค่าเสื่อมราคาได้ไม่น้อยกว่า 5 รอบบัญชี แต่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมีสิทธิหักค่าเสื่อมราคาได้เบื้องต้นในวันที่ได้สินทรัพย์มาร้อยละ 40 ที่เหลืออีกร้อยละ 60 สามารถทยอยหักได้ไม่น้อยกว่า 5 รอบบัญชี

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะได้รับสิทธิประโยชน์นี้ต้องเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์ถาวรที่ไม่รวมที่ดินไม่เกิน 200 ล้านบาท และมีการจ้างแรงงานไม่เกิน 200 คนเท่านั้น โดยใช้สำหรับทรัพย์สินที่ได้มาในหรือหลังวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป (พรฎ 395)

หวังว่าท่านที่เป็นเอสเอ็มอีทั้งหลาย จะได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ถูกต้องและครบถ้วนนะคะ

* * * บทความโดย : ดุลวรรณ์ สกุลดี * * *

ที่มา : http://smesmart.is.in.th/

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *