เรื่อง รายงานสภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
เรื่อง รายงานสภาวะเศรษฐกิจและผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
เป็นที่ทราบถึงผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจของไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก โดยล่าสุด IMF ได้
ปรับตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจของโลก ในปี 2009 ว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 จากอัตราเฉลี่ยร้อยละ 3.3 ซึ่ง
นับว่าต่ำสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก IMF คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาไปจนถึงปลายปีนี้ โดยการฟื้นตัว
ขึ้นอยู่กับมาตรการของประเทศคู่ค้าของไทยว่าจะสามารถฟื้นตัวได้เร็วหรือช้าเพียงใด โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา ,
สหภาพยุโรป และประเทศญี่ปุ่น เศรษฐกิจมีการถดถอยไปที่ร้อยละ -1.6 , -2.0 , -2.6 ตามลำดับ ซึ่งประเทศเหล่านี้ล้วน
เป็นสัดส่วนการส่งออกของไทยถึงร้อยละ 34.7 นอกจากนี้ ประเทศคู่ค้าของไทย เช่น จีน และประเทศในกลุ่มอาเซียนและ
ประเทศเศรษฐกิจใหม่ ล้วนเศรษฐกิจก็อยู่ในสภาวะชะลอตัวทัง้สิ้น
สัญญาณครึ่งปีแรกของปี 2552 เศรษฐกิจของไทยจะเข้าสู่ยุคชะลอตัวอย่างรุนแรง โดยเห็นได้จากตัวเลข
การส่งออกเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ปีที่แล้ว การส่งออกติดลบถึงเฉลี่ยร้อยละ -16.35 และการส่งออกใน
เดือนมกราคม 2552 คาดว่าอาจจะติดลบมากกว่าร้อยละ 18 (ช่วงเวลาที่เขียนตัวเลขจริงยังไม่ทราบ) การที่ตัวเลขภาคการ
ส่งออกมีการถดถอยรุนแรง ส่งผลต่อภาคการนำเข้าและภาคการผลิตในประเทศ โดยในเดือนธันวาคม พบว่าคำสัง่ซื้อลดลง
เหลือเพียงร้อยละ 50 และอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงเกือบทุกสาขา โดยดัชนีอัตราการใช้กำลังการผลิต หรือ MPI
เดือนธันวาคม เหลือเพียงร้อยละ 53.02 ทำให้อัตราการขยายตัวเทียบกับเดือนเดียวกันกับปีก่อนติดลบ -19.63 นอกจากนี้
ดัชนีความเชื่อมัน่ ผู้บริโภค (CPI) มีการหดตัว -0.4 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 9 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณความเสี่ยงที่ไม่ดี ที่
โดย ดร.ธนิต โสรัตน์
รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
17 กุมภาพันธ์ 2552