เป๋าฮื้ออบขาห่าน 2

เป๋าฮื้ออบขาห่าน 2

เครื่องปรุง (สำหรับ 12 คน) ขาห่าน 12 ขา มันหมูแข็ง 1 แผ่น รากผักชี 4 ราก พริกไทยเม็ด 10 เม็ด กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ ขิง 2 แว่น น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนชา เห็ดเป๋าฮื้อ 1 ขีด เห็ดหอม 12 ดอก ผงชูรส 1/2 ช้อนชา เครื่องเทศ โหลวบั๊ว (ถ้ามี) น้ำตาลทราย เกลือ เหล้าซิจิ่ว แป้งมัน

การเตรียม

1. ขาห่าน ลอกหนัง ใช้แปรงขัดให้ขาว ตัดเล็บห่านออก แล้วล้างให้สะอาด คลุกกับซีอิ๊วดำ ทอดน้ำมัน โดยใช้ไฟแรง แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด ตักขึ้น ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทราย ให้ได้รสตามใจชอบ นำขาห่านไปนึ่งในลังถึงจนเปื่อยนุ่ม หั่นเป็น 2 ท่อน
2. ล้างเห็ดเป๋าฮื้อ หั่นเป็นชิ้นบางๆ
3. ล้างเห็ดหอม ตักน้ำทิ้ง 1 ครั้ง ตัดก้านเห็ดหอมทิ้ง บีบให้แห้ง

วิธีปรุง

1. หม้อดินใส่มันหมูแข็ง รากผักชี เม็ดพริกไทย กระเทียม เครื่องเทศ เห็ดหอม ขาห่าน เติมน้ำซุป ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วดำ น้ำตาลทราย ผงชูรส เหล้าซิจิ่ว ปิดฝา นำหม้อดินไปตั้งไฟ อบจนเหลือน้ำในหม้อดินเล็กน้อย
2. วางเรียงเห็ดเป๋าฮื้อสลับกับเห็ดหอมและเห็ดเป่าฮื้อ ขาห่าน ยกกะละมังไปนึ่งในลังถึง พอร้อนนำกะละมังมาครอบลงจานเสิร์ฟ ราดด้วยน้ำในหม้อดินให้ทั่ว

น่ารู้
กะหล่ำดาว เป็นผักที่มีชุกในฤดูหนาว อยู่ในตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลี แต่กะหล่ำปลีใบอ่อนจะห่อกันเป็นหัวที่ยอด ดังนั้น ต้นหนึ่งจะมีเพียงหัวเดียว ส่วนกะหล่ำดาวที่ห่อกันเป็นหัวนี้เป็นยอดที่แตกจากตาที่ลำต้น ดังนั้นต้นหนึ่งจึงมีกะหล่ำดาวหลายหัวแต่เป็นหัวเล็กๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว การเลือกซื้อควรเลือกซื้อหัวแน่นๆ สีสดใส แต่ที่มีจำหน่ายในตลาดปัจจุบัน เป็นยอดอ่อนจากตาตามลำต้นของกะหล่ำปลีที่ตัดหัวไปจำหน่ายแล้วก็มี และเป็นตาจากกะหล่ำดาวก็มี แต่อากาศเย็นไม่พอจึงไม่เกาะตัวแน่นตามลักษณะที่ควรจะเป็น ผู้ขายจึงเรียกชื่อเสียใหม่ว่า แขนงผัก ซึ่งใช้เป็นอาหารได้ดี แต่ควรเลือกที่สดใหม่ ไม่มีรอยช้ำและเน่า ผักเหล่านี้ถ้าเน่าจะเหม็น