เตือน! พุงยิ่งใหญ่…ยิ่งตายเร็ว

เตือน! พุงยิ่งใหญ่…ยิ่งตายเร็ว
• คุณภาพชีวิต
• เรื่องเด่น
เสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน อัมพฤกษ์ และอัมพาต

เดินหน้าออกสื่อรณรงค์กันอยู่เป็นประจำ สำหรับเรื่องของภาวะ “อ้วนลงพุง” ที่พบได้มากที่สุดในชีวิตคนเมือง เพราะเนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ ที่รายล้อม ไม่ว่าจะเป็นภาวะกดดันและเร่งรีบจากการทำงาน จนทำให้มีเวลาดูแลและเอาใจใส่ตัวเองน้อยลง ปัญหาการอ้วนลงพุง จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเป็นมหันตภัยร้ายที่เข้าใกล้ชีวิตของคนเรามากขึ้นไปทุกขณะ

ในนามของ เครือข่ายคนไทยไร้พุง ภายใต้สังกัดกรุงเทพมหานคร จึงออกมารณรงค์ให้คนไทยรู้จักวิธีการดูแลตัวเองให้พ้นจากภาวะอ้วนลงพุง ในงาน Bangkok Health Fair 2008 ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันก่อน

วิธีการง่ายๆ เริ่มต้นจากการ ประเมินตนเอง โดยการวัดรอบเอว ให้ยืนอยู่ในท่ายืนแล้วใช้สายวัด วัดรอบเอวโดยวัดให้ผ่านสะดือ, วัดในช่วงหายใจออก (ท้องแฟบ) โดยให้สายวัดแนบกับลำตัว ไม่รัดแน่นและให้ระดับของสายวัดที่วัดรอบเอว วางอยู่ในแนวขนานกับพื้น สำหรับผู้หญิงจะต้องมีรอบเอวไม่เกิน 80 เซนติเมตร ในผู้ชายรอบเอวจะต้องไม่เกิน 90 เซนติเมตร หากพบว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็ควรเริ่มดูแลตัวเอง

สิ่งแรกคือ การควบคุมน้ำหนักโดย รับประทานอาหารอย่างมีสมดุล ผู้หญิงควรได้รับพลังงานวันละ 1,600 แคลอรี ผู้ชายควรได้รับพลังงานวันละ 2,000 แคลอรี, รับประทานอาหารธรรมชาติไม่แปรรูป เช่น เมล็ดธัญพืช ข้าวกล้อง เผือก มัน ข้าวโพด เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่ว งา เป็นต้น, กินผักผลไม้รสไม่หวานให้มากและครบ 5 สี คือ สีน้ำเงินม่วงแดง สีเขียว สีขาว สีเหลืองส้ม และสีแดง หลีกเลี่ยงอาหารหวานจัด มันจัด เค็มจัด และอาหารที่อยู่ในรูปไขมันกินอาหารแค่พออิ่ม, กินอาหารช้าทุกมื้อ อาหารมื้อเย็นควรกินให้ห่างจากเวลานอนไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง เพราะช่วงเวลานอน ระบบประสาทสั่งงานให้ร่างกายพักผ่อน จะเกิดการสะสมไขมันบริเวณช่องท้องมากขึ้น

จิตใจมั่นคง การจะลดน้ำหนักหรือรอบเอวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป แต่เรามีต้องแรงจูงใจและมีความมุ่งมั่นที่จะทำ พูดกับตนเองเสมอว่า “เราต้องทำได้” แต่ต้องเป็นการตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม อัตราการลดน้ำหนักที่เหมาะสมนั้น คือ สัปดาห์ละครึ่งกิโลกรัมถึงหนึ่งกิโลกรัม หรือควรลดลดประมาณ 5-10% ของน้ำหนักเมื่อเริ่มต้น เช่น หากน้ำหนัก 70 กิโลกรัม ควรลดให้ลงอีกประมาณ 3.5-7 กิโลกรัม เท่านั้น, ต้องมีความอดทน หากรู้สึกหิวทั้งๆ ที่เพิ่งกินไป ขอให้อดทน โดยการเปลี่ยนอิริยาบถในขณะนั้นไปทำอย่างอื่นแทน เพียง 10 นาที ก็จะหายหิวไปได้เอง แต่ถ้าไม่หายก็ให้รับประทานผลไม้ที่รสไม่หวานทานสักคำสองคำเพื่อลดอาการหิวนั้นๆ ลง

ออกกำลังกายแบบมีขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือการอบอุ่นร่างกาย และยืดเหยียดประมาณ 5-10 นาที จากนั้นให้เคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายในระดับปานกลาง จนรู้สึกว่าหายใจเร็วและถี่ขึ้น แต่ต้องไม่เหนื่อยและหอบจนพูดไม่ได้ สุดท้ายให้คลายกล้ามเนื้อและยืดเหยียดอีกครั้งประมาณ 5-10 นาที การออกกำลังกายที่ดีที่สุดต้องทำอย่างต่อเนื่อง สำหรับคนที่ไม่มีเวลา การหันมาเดินมากขึ้น หรือทำงานบ้านมากขึ้น ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายเช่นกัน

โรคอ้วนลงพุง จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ และอัมพาต สิ่งที่ดีที่สุดตอนนี้ คือ หันมาดูแลตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้ เพราะสุขภาพกายและจิตที่ดี ถือเป็นกำไรของชีวิตที่ตีค่าเป็นราคาไม่ได้.

ที่มา:หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *