อีคิวดี…มีชัยไปกว่าครึ่ง

อีคิวดี…มีชัยไปกว่าครึ่ง

ในบรรดาอวัยวะต่างๆ ของเรานั้นสมองนับได้ว่าเป็นส่วนที่ซับซ้อนและทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์ที่สุด ยังไม่มีวี่แววว่ามนุษย์จะสามารถสร้างกลไกอะไรมาแทนที่สมองของเราได้ สมองทำให้เราสามารถดำรงชีวิตอยู่ในโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างก็หวังให้ลูกของตนเองมีความเฉลียวฉลาดหรือที่ภาษาชาวบ้านพูดกันง่ายๆ ว่าลูกมีสมองดีหรือถ้าจะเอาศัพท์เทคนิคให้เท่หน่อยก็คือ มีไอคิว (Intelligence Quotient) สูง คือ มีความคิดความอ่าน ความจำดี สามารถเรียนรู้และตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง นอกจากนั้นถ้าจะให้ทันสมัยก็ต้องมีอีกคำ คือ อี คิว (Emotional Quotient) ซึ่งเป็นความฉลาดทางอารมณ์ สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข คนที่มี อี คิว ดีนั้นมีนิยามแตกต่างกันหลากหลาย แต่ที่หมอชอบเพราะเข้าใจได้ง่ายคือ

การมองโลกในแง่ดี

เห็นคุณค่าในตัวเองและผู้อื่น

มีความรับผิดชอบ

มีความสุขในสภาพแวดล้อมที่ตัวเองอยู่

เชื่อมั่นในตัวเอง

เข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนอื่น

แล้วเราจะทำอย่างไรให้มีไอคิวและอีคิวที่ดี เพื่อจะได้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข คำตอบคือ ไอคิวและอีคิวเป็นผลลัพธ์ของพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ที่มาประกอบกันจนได้ผลออกมาว่าคุณจะมีไอคิวและอีคิวที่ระดับไหน คุณหมอจะช่วยเราได้ในเรื่องของคำปรึกษาพวกอาหาร วิตามิน และฮอร์โมน มีรายงานทางการแพทย์ว่าเด็กที่คลอดจากมารดาที่ขาดธาตุไอโอดีน มักจะมีระดับไอคิวต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ซึ่งก็เป็นสาเหตุจากระดับไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำนั่นเอง หรือเมื่อเราอายุมากขึ้นระดับฮอร์โมนเพศ Growth Hormone ก็จะลดต่ำลง ทำให้ความจำลดถอยลง การตัดสินใจช้าลงกว่าในวัยหนุ่มสาวได้

ส่วนทางครอบครัวก็จะต้องมีส่วนร่วมในการจัดสภาพแวดล้อมทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนให้เหมาะสม เพื่อลูกของคุณจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพของสังคมดีตามไปด้วยแล้วโลกของเราก็จะน่าอยู่มากขึ้นนะครับ

สนับสนุนข้อมูลโดย นพ.กำธร ศิริพันธุ์
ข้อมูลจาก

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *