สามัญสำนึก มรรยาท

สามัญสำนึก มรรยาท
Post Today – ความเร่งรีบในการดำเนินกิจวัตรประจำวันของชีวิตและความไม่สะดวกในการเดินทาง เป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้บุคคลบางคนไม่ได้ใช้สามัญสำนึกในการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมอันเหมาะสมและขาดมรรยาททางสังคมที่ดีงาม …
ครั้นนานไปความชาชินกับสิ่งไม่พึงกระทำดังกล่าวจึงกลายเป็นลักษณะอุปนิสัยที่ไม่น่ารัก แต่น่ารังเกียจ วันนี้เราจะมาพิจารณากันต่อถึงการแสดงออกที่ไม่งดงาม เพราะขาดทั้งสามัญสำนึก และขาดทั้งความมีมรรยาททางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงออกซึ่งผู้เป็นสุภาพบุรุษไม่พึงกระทำในประการแรกในเรื่องที่เกี่ยวกับการเดินในสถานที่อันเป็นสาธารณะ เช่น บนฟุตปาททางเท้าริมถนนหรือบนทางเดินอันเป็นที่สาธารณะแห่งต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากเราพบเห็นและประสบปัญหาจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวถี่บ่อยครั้ง มีผู้กระทำมากหนาตา
บุคคลบางคนเมื่อเดินเกาะกลุ่มกันและชวนกันพูดคุยมักเดินเรียงกันเป็นหน้ากระดาน หากเป็นการเดินบนทางเท้าหรือทางเดินที่เป็น Two Way คือมีผู้คนสวนทางมาได้ หรือแม้กระทั่งถ้าเป็นทางเดินแบบ One Way คือไม่มีทางให้เดินสวนกัน แต่ก็จะมีผู้เดินตามหลังมาซึ่งอาจต้องการแซงเพราะเขาต้องการจะรีบไป ไม่ว่าจะเป็นทางเดินแบบ Two Way หรือ One Way ก็ตาม ผู้ที่เดินเกาะกลุ่มคุยกันเรียงเป็นหน้ากระดานอยู่นั้นก็สมควรที่จะใช้สามัญสำนึกหมั่นสังเกตดูว่ามีคนเดินสวนทางมา หรือมีคนที่เขาต้องการแซงจากด้านหลังหรือไม่

เท่าที่สังเกตเห็น กลุ่มคนผู้เดินเกาะกลุ่มคุยกันไปตามทางมักเดินช้ากว่าคนที่เขาไม่ได้พูดคุย เพราะบุคคลผู้มัวแต่จะคุยกันไม่ได้เร่งรีบเท่าใดนัก ถ้าหากเร่งรีบก็คงไม่คุยกันไปตามทางเป็นระยะเวลานานๆ ในกรณีเช่นกล่าวมานี้ กลุ่มบุคคลผู้ที่ชอบเดินเรียงแถวเป็นหน้ากระดานเกาะกลุ่มคุยกันดูเสมือนขาดสามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน เมื่อไม่เปิดทางให้ผู้เดินสวนทางมาเขาสามารถผ่านไปได้โดยสะดวกหรือไม่เปิดทางให้คนข้างหลังได้มีโอกาสแซงไปก่อน ผู้เดินสวนทางมาผู้มรรยาทดีต้องเป็นฝ่ายพยายามทำตัวลีบเพื่อเบี่ยงตัวหลบอย่างลำบาก ส่วนบุคคลผู้เดินตามมาข้างหลังที่ต้องการแซงเพราะรีบไปและได้รับการศึกษาอบรมมาดี ก็ต้องกล่าวขอโทษแล้วขอโทษอีกเป็นหลายครั้งกว่ากลุ่มบุคคลผู้ขาดทั้งสามัญสำนึกและมรรยาทพวกที่เดินเรียงหน้ากระดานเป็นแพคุยกันไปตามทางนั้นจะเปิดทางให้ ดังนั้นลักษณะการที่แสดงให้เห็นความไม่มีสติ ปราศจากสามัญสำนึกเบื้องต้น ไม่ใช่สุภาพบุรุษในการสัญจรบนทางเท้า ทางเดินสาธารณะ คือ การเดินเกาะกลุ่มเรียงหน้ากระดานเป็นแพคุยกันโดยไม่เปิดให้มีทางผ่านสำหรับผู้อื่นอย่างสะดวกและมากเพียงพอ

ลักษณะการสัญจรบนทางเดินสาธารณะที่สื่อให้เห็นพฤติกรรมของบุคคลผู้ขาดสามัญสำนึกเบื้องต้นในการใช้ทางเท้าร่วมกับผู้อื่นที่พบเห็นได้บ่อยครั้งอีกแบบหนึ่ง คือ การเดินและพูดคุยโทรศัพท์ไปด้วยในขณะเดียวกัน โดยเดินอยู่กลางทางเดินจนเป็นต้นเหตุกีดขวางการจราจร ทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่สะดวกในการสัญจร การเดินไปพูดโทรศัพท์ไปแบบนี้ไม่ต่างจากแบบเดินคุยกันเป็นกลุ่ม การเดินพูดโทรศัพท์กีดขวางทางสัญจรเป็นการกระทำที่ปราศจากสามัญสำนึกของคนคนเดียว ทว่าแบบก่อนหน้านี้เป็นลักษณะการขาดสามัญสำนึกของคนทั้งกลุ่มร่วมกันกระทำ ลักษณะการเดินไปคุยไปมักทำให้อัตราความเร็วของการย่างก้าวเดินช้าลงกว่าผู้เดินปกติ คือไม่ได้พูดสนทนาไปด้วย นอกจากนี้คนที่เขาเดินโดยไม่ได้คิดเรื่องพูดสนทนาตามไปด้วยนั้นดูว่าเขามีทิศทางในการเดินและอัตราความเร็วของการเดินไล่เลี่ยกันเป็นส่วนมาก

ถ้าจะให้ดี บุคคลผู้มีความจำเป็นต้องเดินและพูดโทรศัพท์ไปด้วยควรเดินชิดริมทางเดิน ไม่ว่าจะเป็นข้างซ้ายหรือขวาก็ตาม ทั้งนี้คงขึ้นอยู่กับระเบียบการจราจรหรือวิถีแนวทางปฏิบัติของคนส่วนมากที่เขากระทำกันบนทางเท้าหรือทางเดินนั้น หากไม่มีลูกศรเครื่องหมายกำกับทางเดินก็คงต้องสังเกตดูว่าผู้คนส่วนมาก ณ ที่นั้นเขาเดินชิดซ้ายหรือชิดขวา ประเด็นหลักเกณฑ์ชิดซ้ายหรือขวาสำหรับการเดินบนทางเท้าไม่ใช่บนไหล่ถนนกำลังเป็นที่อภิปราย ข้อสรุปที่แน่ชัดยังไม่ปรากฏ

การใช้ถนนไม่ว่าจะเป็นการขับรถหรือเดินบนทางเท้าและทางเดินในสถานที่อันเป็นสาธารณะโดยทั่วไปน่าจะอาศัยกฎเกณฑ์ระเบียบใกล้เคียงกัน กล่าวคือรถช้าควรขับชิดเลนซ้ายในสุด เพราะระเบียบการจราจรภาคพื้นดินสำหรับยานพาหนะของประเทศไทยบังคับให้ขับชิดซ้าย เมื่อรถช้าขับชิดเลนในซ้ายสุด รถที่เร็วกว่าเขาก็จะมีโอกาสแซงได้อย่างสะดวก บุคคลผู้เดินบนไหล่ถนนริมทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งริมทางที่ไม่มีฟุตปาทสมควรเดินชิดขวาเพื่อความปลอดภัย เพราะจะได้เห็นรถที่สวนทางมาอย่างชัดเจน แต่หากมิได้เป็นการเดินริมขอบถนนที่มีรถยานพาหนะประเภทต่างๆ วิ่งสวนทางกันอยู่ด้วยก็ไม่มีเหตุผลประการใดที่จะต้องเดินทางด้านริมขอบขวาของถนน

โดยทั่วไปบุคคลผู้เดินพูดโทรศัพท์มักเดินช้าและดูเหมือนเดินปราศจากทิศทาง หรือมิฉะนั้นก็มีการกำหนดทิศทางน้อยกว่าคนที่เขาเดินโดยไม่พูดโทรศัพท์ตามไปด้วย ดังนั้นจึงควรเดินชิดริมในสุดด้านใดด้านหนึ่งที่เหมาะสมซึ่งคนส่วนใหญ่เขาเดินกัน ทั้งนี้เพื่อเปิดทางให้คนเดินสวนมาหรือแซงไปได้สะดวก ทว่าบุคคลจำนวนไม่น้อยผู้ปราศจากสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานมักเดินขวางอยู่กลางทางเดินโดยไม่ยี่หระต่อความไม่สะดวกของผู้อื่น นอกจากพฤติกรรมที่ปราศจากสามัญสำนึกแล้วยังแสดงให้เห็นว่าบุคคลผู้เดินไปพูดโทรศัพท์ไปขวางอยู่กลางทางเกะกะชาวบ้านนั้น เป็นผู้เห็นแก่ตัวและปราศจากความละอายใจในสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย แน่นอนครับ การกระทำเช่นกล่าวมานี้ย่อมไม่ใช่การกระทำของบุคคลผู้สมควรได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษหรือสุภาพสตรี

ฝ่ายบุคคลซึ่งเป็น “ผู้รู้” เมื่อมีความจำเป็นต้องพูดโทรศัพท์นานๆ เขาจะหยุดเพื่อหาที่นั่งหรือยืนพูดโทรศัพท์ที่เหมาะสม ทว่าหากมีความจำเป็นต้องพูดในขณะที่กำลังเดินอยู่บนทางเดิน เขาก็จะรีบเข้าข้างทางด้านในสุดเพื่อเปิดทางให้คนอื่นสัญจรสวนทางหรือแซงไปได้โดยสะดวกและจะรวบรัดพูดเท่าที่จำเป็นเพื่อปิดประเด็นการสนทนาในที่สาธารณะในระยะเวลาอันจำกัด อนึ่งโดยความมีมรรยาทเขาก็ย่อมไม่พูดสนทนาทางโทรศัพท์ด้วยสุ้มเสียงอันดังจนเป็นที่รบกวนบุคคลอื่นบนทางเท้าหรือทางเดินอันเป็นที่สาธารณะ

ดังนั้น ขณะเมื่อเราเดินอยู่บนทางเท้าหรือทางเดินสาธารณะ หากมีความจำเป็นต้องพูดคุยก็โปรดกรุณาพูดคุยด้วยเสียงอันเบาเท่าที่จำเป็น ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น ประการที่สำคัญคือ กรุณาอย่าให้การเดินที่ช้าลง เพราะการพูดคุยของเราหรือการเกาะกลุ่มของเราไปปิดบังหรือขวางทางจนเป็นอุปสรรคแก่การสัญจรของผู้อื่น นี่คือสามัญสำนึกและมรรยาททางสังคม ซึ่งสมควรได้รับการเอาใจใส่ในการใช้ทางเดินร่วมกับบุคคลอื่น…สวัสดีครับ

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *