วางเป้าหมายทำงานรับปีใหม่
|วางเป้าหมายทำงานรับปีใหม่
Post Today – ศักราชใหม่ได้เวียนมาอีกครั้ง บางคนอาจจะมองเป็นเรื่องธรรมดาของวันเวลาที่ก็หมุนเวียนอยู่เช่นนี้ แต่ถ้าจะได้ใช้เป็นโอกาสพิจารณาตัวเองเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น ก็ดีกว่าไม่ใช่หรือที่จะทำ และปีใหม่มักจะเป็นโอกาสที่ผู้คนมอบของขวัญให้แก่กัน ซึ่งของขวัญประเภทหนึ่งที่ถูกใจ คือ หนังสือ เพราะทำให้ต่อยอดเหล่าตัวอักษรที่มีคุณค่าเหล่านั้นไปได้อีก มีหนังสือเล่มหนึ่งที่สำนักพิมพ์อินสปายร์ในเครือนานมีบุ๊คส์ส่งมาให้ ชื่อว่า “ชีวิตนี้รื่นรมย์” ที่ มรกต เบญจวัฒนานันท์ แปลมาจากต้นฉบับ “Greating a Charmed…
ชีวิตนี้รื่นรมย์ เป็นเรื่องของการมองโลกแง่บวก เพื่อให้มีความสุขกับชีวิต วิกตอเรีย มอแรน เธอมีมุมมองที่ว่า อย่าไปทำให้เรื่องต่างๆ ยากเกินไปนักชีวิตก็จะสบาย ซึ่งเรื่องที่มอแรนเขียนเกี่ยวกับการทำงานนั้น ก็มีประโยชน์มากทีเดียวที่จะนำมาแบ่งปัน ส่วนแง่มุมอื่นรวม 60 วิธีนั้น สามารถอ่านได้จากหนังสือที่วางจำหน่ายแล้ว
ลองมาดูแนวคิดของมอแรนในการทำงานกัน………………….
ฉันคิดมาเสมอว่าอาชีพของฉันต้องพึ่งเจ้าเครื่องคอมพิวเตอร์พีซี (Personal Computer) และยังแอบคิดอีกว่ามันเป็นตัวย่อของ Prince Charming (เจ้าชายแสนเสน่ห์) แต่ไม่เป็นเช่นนั้น ฉันต้องออกไปทำงานและดูแลความเรียบร้อยในบ้านด้วยเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ หากฉันรักและพอใจกับงานที่ทำอยู่ ฉันรู้ว่าจิตใจตัวเองยังอยู่ดี แต่ถ้าฉันเพิกเฉยต่อตัวเองแล้ว แม้จะได้ทำงานในฝันก็เหมือนกับแบกภาระหนักอึ้งไว้ ในช่วงนั้น ฉันไม่อยากเป็นนักเขียนอีกแล้ว ฉันใฝ่ฝันอยากไปขายเครื่องสำอางแชแนลที่ห้างหรูในนิวยอร์ก
การมีชีวิตรื่นรมย์จะเป็นเรื่องยากหากมันไม่รับกับงานปัจจุบันที่คุณทำอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ขโมยเวลาของเรามากๆ ผู้หญิงที่เป็นทั้งแม่บ้านและดูแลลูกตลอด 24 ชั่วโมง ต้องเพิ่มอีก 8 ชั่วโมง ให้กับการทำงาน และอีก 1-2 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางไปกลับ คุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานกลายเป็นเรื่องชินตาไปแล้ว เป็นมนุษย์เพศหญิงที่ต้องใช้แรงงานอย่างไม่หยุดหย่อน
ด้วยจรรยาบรรณทำให้เรามองว่างานต่างๆ ที่เราทำทั้งหลายนั้นดูมีเกียรติและสมควรที่จะทำแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครเกี่ยงงอนเลย ผู้หญิงทำงานที่ยังไม่มีลูกจะทำงานได้นานกว่าและอึดกว่า ปัจจุบันแม่บ้านที่อยู่แต่บ้านแทบไม่มีให้เห็นแล้ว และผู้หญิงคนไหนที่ถึงแม้ไม่ได้ทำงานนอกบ้าน พวกเธอก็ยังมีหน้าที่อื่นอยู่ดี เช่น ทำหน้าที่ต้องพาลูกๆ เข้ากิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ศิลปะ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ชนชั้นกลางจะมีได้ แถมบางคนยังต้องขับรถรับส่งลูกอีกด้วย
งานที่ผู้หญิงอย่างเราๆ ทำอยู่ช่วยส่งผลดีให้กับทั้งตัวเราและจดหมายสมัครงาน แต่ก็ยังมีหลายคนต้องทำงานที่ตัวเองทำได้แต่ไม่ใช่งานที่รัก ฉันจึงมีทางแก้บางอย่างมาเสนอ
ศรัทธาในสิ่งที่ทำ คุณต้องลงแรงอะไรบ้างหากอยากเป็นนายของตัวเองหรือทำงานในสายที่คุณหลงใหลอย่างไม่หยุดหย่อน หรือทำอะไรสักอย่างที่คุณศรัทธามากถึงขนาดว่าทำฟรีก็ไม่รู้สึกอะไร ลองรวบรวมความเป็นไปได้ หากคุณอดทนและวางแผนดี วันหนึ่งคุณอาจเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองที่อยากทำมานานแล้วก็ได้ หรือกลับไปเรียนใหม่ หรือเลิกเป็นนักบัญชีและหันมาเป็นหมอนวดแผนโบราณหรือคุณแม่แสนดีเต็มเวลา และถึงแม้เพื่อนร่วมอาชีพของคุณจะคิดว่าคุณเสียสติไปแล้ว (ซึ่งอาจจะจริง) แต่ก็คุ้มถ้ามันทำให้คุณได้ทำในสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน
ทำชีวิตให้ง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อจุดประกายความฝันได้นอกเวลางานประจำ คนที่เลือกหนทางนี้อาจลาออกจากตำแหน่งสูงๆ แต่ก็จะได้พลังไฟชีวิตกลับมาเพื่อทุ่มให้กับศิลปะหรือดนตรี จอร์จ เพื่อนของฉันรู้เคล็ดลับข้อนี้ดี เขาเคยทำงานอยู่ฝ่ายซ่อมบำรุง คนรู้จักต่างบอกเขาตลอดเวลาว่า “ถ้านายได้ปริญญาสักใบนะ คงไม่ต้องมาทำงานต๊อกต๋อยแบบนี้หรอก” แต่เพื่อนๆ ของจอร์จรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จอร์จเป็นคนสร้างหนัง สะสมหนัง และกูรูด้านหนัง “การทำงานต๊อกต๋อย” นี่เองที่เปิดโอกาสให้เขาไล่ล่าตามความฝันที่เติมเต็มและทำให้ชีวิตเขาเปี่ยมไปด้วยความหมาย
มองงานของคุณเหมือนเป็นการฝึกจิต ขอให้คุณทำงานที่ทำอยู่ในตอนนี้ให้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนสิ่งที่คุณศรัทธา หากความเชื่อของคุณสอดคล้องกับวิถีชีวิตคุณ มันก็สอดคล้องกับการทำงานของคุณเช่นกัน สิ่งนี้จะทำให้จิตใจคุณสูงขึ้นไปอีกระดับ และยังส่งผลดีต่อบริษัทคุณอีกด้วย อีกทั้งคุณยังใช้ข้อกำหนดที่เป็นพื้นฐานของชีวิตคุณช่วยให้ตัวเองผ่านพ้นวิกฤตในการทำงานได้อีกด้วย
ชมแมกไม้และป่าเขา ทุกวันนี้มีใครหลายคนที่ไปทำงาน ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานและกลับบ้าน แต่ถ้าคุณมองทุกอย่างในภาพรวมได้ งานของคุณจะมีความหมายขึ้นมาทันที อะไรคือภาพรวมของคุณ นอกจากเพื่อมีเงินไปซื้ออาหารเลี้ยงครอบครัวแล้ว คุณต้องทำงานเพื่ออะไรอีก เพื่อส่งลูกจนจบมหาวิทยาลัยหรือเปล่า หรือเพื่อช่วยคนอื่น ขอให้ระลึกถึงสิ่งนี้ไว้เวลาที่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้คุณหงุดหงิดขึ้นมา
ค้นหาเป้าหมายของการทำงานให้เจอ งานทุกชิ้นล้วนเป็นฟันเฟืองในการสร้างสรรค์งานอันยิ่งใหญ่ แก่นแท้ของงานสุจริตทั้งมวลก็คือ งานที่อุทิศตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ช่วยเหลือผู้คนให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น เมื่อคุณเห็นภาพงานของตัวเองดังนี้แล้ว เท่ากับว่าคุณทำงานเพื่อสังคมและโลก
นอกจากนี้ วิกตอเรีย มอแรน ยังมีแง่มุมต่อการใช้เงินที่สู้อุตสาห์ทำงานหามาได้ด้วย เช่น เงินไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องหวาดกลัว อย่าลืมพกเงินสดติดตัวเมื่อไปข้างนอก จะได้ใช้เวลาขาดเหลืออะไร เตรียมสมุดเช็กให้พร้อม ชำระหนี้ให้ตรงเวลา รู้ว่าตัวเองมีเท่าไหร่และเป็นหนี้เขาอยู่เท่าไหร่
ใช้เงินให้สนุกอย่างมีสติ บางคนเลือกใช้อำนาจการจับจ่ายชดเชยกับอำนาจที่ตัวเองมีอยู่น้อยนิด แต่การใช้จ่ายไม่บันยะบันยังจะยิ่งทำให้คุณตกที่นั่งลำบากโดยไม่รู้ตัว ฉะนั้นขอให้ซื้อแต่ของที่ตัวเองต้องการหรือของที่สร้างความสุขให้คุณได้เท่านั้นก็พอ
ระมัดระวังเรื่องหนี้ คุณกำลังขโมยอนาคตของตัวเองไป หากคุณใช้เงินผ่านบัตรเครดิต เพราะมันไม่ใช่เงินสดที่จะควักออกมาจับจ่ายให้เห็นเป็นรูปธรรม แถมยังไม่มีสำรองไว้เพื่อจ่ายคืนตอนปลายเดือนอีก ถ้าคุณไม่ใช่คนที่มีวินัยในการชำระหนี้อย่างตรงเวลาแล้วละก็ ลองหันมาจ่ายด้วยเงินสดดีกว่า อิสระกว่ากันเยอะเลย ไม่ก่อให้เกิดหนี้แบบเสี่ยงๆ อีกด้วย
บริจาคเงินเสียบ้าง ผู้ที่ให้จะเป็นผู้รับในอนาคต ถ้าคุณบริจาคเงินให้กับองค์กรใดองค์กรหนึ่งเป็นประจำ นอกจากจะทำให้คุณรู้สึกดี มันยังช่วยส่งเสริมให้ชีวิตคุณดียิ่งๆขึ้นไปด้วย เพราะเมื่อบริจาคเงิน คุณจะรู้สึกว่าตัวเองรวย อาจกล่าวได้ว่า ใครที่แบ่งรายได้สุทธิ 10% ให้กับวัด โบสถ์ หรือสมาคมเพื่อการกุศล จะไม่กังวลเรื่องเงินของตัวเองอีกต่อไป สิ่งที่มีอยู่จะก้าวหน้าขึ้นไปอีก และอะไรดีๆ ที่ไม่คาดคิดอีกมากมายจะเข้ามาในชีวิตของเขา
เก็บเงินไว้ใช้ ดอกเบี้ยทบต้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้ ถ้าการออมเงินเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ ให้เริ่มจากเจียดเงินนิดหน่อย แต่เจียดบ่อยๆ จากรายได้ประจำ เพื่อสะสมไว้ในกองทุนรวมหรือตลาดหลักทรัพย์ ยิ่ง “เก็บ” มาก ดอกเบี้ยก็ยิ่ง “ได้”
ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองมี คุณไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเทียบกับมาตรฐานโลกด้วยการเปรียบเทียบชีวิตเรากับสุลต่านบรูไน สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าเรารู้คุณค่าในชีวิตของตัวเองแค่ไหน