ลมแปดทิศโหมมาไม่หวั่นไหว

ลมแปดทิศโหมมาไม่หวั่นไหว

ซูตงพอ เป็นอำมาตย์ใหญ่ และเป็นนักประพันธ์ชื่อดัง
เขียนหนังสือไว้มากมายทั้งทางโลกและทางธรรม
มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่ว

ซูตงพอ เป็นศิษย์ของพระอาจารย์เซนชื่อดังรูปหนึ่ง
วันหนึ่งคิดจะแสดงว่าตนปฏิบัติถึงขั้นล้ำลึกแล้ว
จึงเขียนเป็นโศลกว่า

ค้อมหัวคำนับฟ้าเหนือฟ้า
แสงเจิดจ้าสาดส่องเหล่าเวไนย
ลมแปดทิศโหมมาไม่หวั่นไหว
นั่งนิ่งในดอกบัวสีม่วงทอง

เขียนเสร็จแล้วให้คนรับใช้นำไปให้พระอาจารย์
พระอาจารย์อ่านแล้วก็เขียนใส่ด้านหลังโศลกว่า “ ผายลม “
( เป็นศัพท์สแลงแปลว่า เพ้อเจ้อ ไร้สาระ)

เมื่อ ซูตงพอ อ่านแล้ว ให้บันดาลโทสะยิ่งนัก
นั่งเรือข้ามฟากไปหาพระอาจารย์ทันที
พระอาจารย์รู้อยู่แล้วว่า ซูตงพอ ต้องมา จึงสั่งลูกศิษย์ไว้แล้วว่า
วันนี้ไม่รับแขก ซูตงพอ ยิ่งเดือดดาลเพิ่มขึ้นไปอีก
ถือวิสาสะเดินไปที่ห้องพักพระอาจารย์
ขณะที่กำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตู
เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งติดไว้ที่หน้าประตูว่า

ลมแปดทิศโหมมาไม่หวั่นไหว
แต่ลมตดเดียวซัดท่านมาถึงนี่

ซูตงพอ เลยรู้สึกตัว และอดขบขันตัวเองไม่ได้ หลังจากนั้นจึงมีคำพังเพยมาจนถึงทุกวันนี้ว่า

“ จงเอาเยี่ยง แต่อย่าเอาอย่าง ซูตงพอ “

เอาเยี่ยงที่ฝักใฝ่ธรรมะ แตกฉานอภิธรรม
แต่อย่าเอาอย่างที่ การปฏิบัติยังไปไม่ถึงไหน

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *