มาร์แชล โกลด์สมิธ,เพียงเอ่ยคำว่า “ขอบคุณ”

มาร์แชล โกลด์สมิธ,เพียงเอ่ยคำว่า “ขอบคุณ”
การตะคอกคนที่ตักเตือนคุณด้วยความหวังดีเป็นการดูถูกตัวตัวเองมากกว่าดูถูกคนอื่น ใยจึงไม่เพียงรู้สึกขอบคุณเขา

เราได้อะไรจากการพิสูจน์ว่าตัวเองถูกหรือไม่ คำตอบคือไม่เลย
เราได้อะไรจากการพิสูจน์ว่าคนอื่นผิดหรือไม่ คำตอบคือไม่เลย
แล้วชีวิตเราเสียเวลาไปมากแค่ไหนกับการกระทำทั้งสองอย่าง คำตอบคือเสียเวลาไปมากเกินความจำเป็นแล้ว

พระพุทธเจ้าทรงสอนชาวพุทธไว้ว่าจงทำในสิ่งที่พระองค์แนะนำหากเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของตน หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ถ้ามันเหมาะกับเราก็ทำเลย แต่ถ้ามันไม่เหมาะก็ไม่ต้องสนใจ
ปฏิกิริยาโดยธรรมชาติของคนเราเมื่อคนอื่นให้คำแนะนำในสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย คือ เราจะต่อต้านและพยายามพิสูจน์ว่าเขาผิด ส่วนปฏิกิริยาโดยธรรมชาติของเราเมื่อมีคนให้คำแนะนำที่เราเห็นด้วย เราก็จะพยายามแสดงให้เห็นว่าเรา “รู้อยู่แล้ว” ซึ่งแฝงนัยว่าคำแนะนำที่ให้มานั้นไม่จำเป็น
แต่ต่อไป หากมีใครให้แนวคิดหรือข้อเสนอแนะอะไร จงฟังโดยปราศจากอคติ พยายามมองหาคุณค่าสิ่งที่คุณได้ยิน แล้วจึงพูด “ขอบคุณ” (อ่านเพิ่มเติมที่บิสสิเนสวีคดอทคอมในบทความประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2007 เรื่อง “It’s Always the Right Time to Say Thanks”)
คำแนะนำอันแสนปราดเปรื่องนี้เข้าใจง่ายแต่ทำได้ยาก ผมจะขอเล่าตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงของตัวเองเมื่อผมไม่สามารถนำคำสอนของตัวเองมาปฏิบัติตามได้ ผมขอเดาว่าเมื่อคุณอ่านบทความของผมแล้ว คุณคงเห็นด้วยเช่นกันว่าสิ่งที่ผมทำลงไปนั้นนอกจากจะงี่เง่าแล้วยังอันตรายด้วย และผมขอทายว่าคุณก็คงเคยทำเรื่องงี่เง่าอย่างที่ผมทำ อาจจะเคยทำหลายครั้งด้วย
ด้วยหน้าที่การงานของผม ผมต้องเดินทางอยู่บ่อยครั้ง แค่นับการเดินทางกับอเมริกัน แอร์ไลนส์เพียงสายการบินเดียว ผมก็สะสมไมล์ในฐานะลูกค้าที่เดินทางบ่อยได้ถึง 9 ล้านไมล์แล้ว ผมมีนิสัยที่มักจะไปถึงสนามบินแบบเฉียดฉิวในวินาทีสุดท้าย ครั้งที่ผมหัวเสียมากๆ คือตอนที่ผมต้องรีบไปสนามบินซานดิเอโกเพื่อขึ้นเครื่องไปนิวยอร์ก ไลดาภรรยาของผมนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ ส่วนลูกๆ ไบรอันและเคลลี่นั่งอยู่ด้านหลัง ผมกำลังกระวนกระวายกับการขับรถไปให้เร็วที่สุดและไม่ได้สนใจรอบข้างมากนัก ไลดาก็ร้องออกมาว่า “ระวัง! ข้างหน้าไฟแดง”

แม้จะได้รับฝึกมาในฐานะผู้เชี่ยวชาญพฤติกรรมศาสตร์ผู้สอนคนอื่นๆ ถึงคุณค่าของการให้กำลังใจผู้อื่น ผมก็ตะคอกเธอออกไปอย่างเป็นธรรมชาติว่า “รู้แล้วน่า ว่าข้างหน้าไฟแดง! คิดว่าผมไม่เห็นหรือไง ผมก็ขับรถดีพอๆ กับคุณนั่นแหละ”
เมื่อเรามาถึงสนามบิน ไลดา นักจิตวิทยาผู้มีใบอนุญาตถูกต้องและได้รับปริญญาเอกด้านนี้มา ไม่ยอมบอกลาผมอย่างที่เธอเคยทำด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง เธอไม่ใช่แค่ไม่ยอมจูบลาผมเท่านั้น แต่เธอยังไม่ยอมพูดกับผมด้วย ขณะที่เธอเดินอ้อมตัวรถ ขึ้นนั่งในตำแหน่งคนขับ และขับรถออกไปนั้น ลูกทั้งสองคนก็มองหน้าผมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าพ่องี่เง่าจริงๆ “อืม…” ผมคิด “สงสัยจังว่าเธอโกรธผมเรื่องอะไร”
ระหว่างการเดินทางตลอด 6 ชั่วโมงไปยังนิวยอร์ก ผมวิเคราะห์เรื่องนี้ด้วยทฤษฎีต้นทุน-กำไร ผมถามตัวเองว่า “ผมต้องเสียอะไรในการฟังคำเตือนของไลดาหรือไม่ คำตอบคือไม่” แล้วผมจึงคิดอย่างมีเหตุผลต่อว่า “แล้วการฟังคำเตือนให้กำไรอะไรกับผมบ้าง สิ่งที่คำเตือนนั้นปกป้องไว้ได้คืออะไรบ้าง” แล้วคำตอบหลายอย่างก็ผุดเข้ามาในหัวผม ทั้งชีวิตของภรรยา ชีวิตผมเอง ชีวิตของลูกๆ รวมทั้งชีวิตของคนอื่นด้วย
เมื่อใครสักคนให้สิ่งที่จะก่อให้เกิดผลดีต่อตัวคุณอย่างมหาศาลและคุณก็ไม่ต้องเสียอะไรเลย เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรกับคนดีๆ เช่นนั้น “ขอบคุณ” เขาน่ะสิ ผมลงเครื่องที่นิวยอร์กด้วยความรู้สึกเหงา รู้สึกผิด และละอายใจตัวเอง ผมโทรหาไลดาทันทีและเล่าให้เธอฟังเรื่องทฤษฎีต้นทุน-กำไรของผมและสัญญากับเธอว่า “ต่อไปถ้าคุณช่วยผมดูทางเวลาขับรถ ผมจะบอก “ขอบคุณ” คุณเท่านั้น”
“คุณคงจะทำหรอกนะ” ไลดาตอบกลั้วหัวเราะ (พร้อมการเสียดสีแบบไม่คิดเงิน) ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เธอดูจะสงสัยว่าผมไปตรัสรู้อะไรมา
“คอยดูแล้วกัน ผมจะทำตัวให้ดีขึ้นแน่นอน” ผมกล่าวต่อ
“แล้วจะคอยดู” เธอตอบ
สองสามเดือนต่อมา ผมลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปเสียสนิท และก็เป็นอีกครั้งที่ผมต้องรีบบึ่งไปที่สนามบิน แล้วก็ไม่สนใจจะมองทาง แล้วไลดาก็ร้องเตือนออกมาว่า “ระวังไฟแดง!” (ได้ยินดังนั้น) หน้าผมก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ลมหายใจถี่ขึ้น ทำหน้าบูดบึ้ง แล้วตะคอกออกไปว่า “ขอบคุณ!”
ผมไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ แต่ผมก็พยายามพัฒนาตัว ผมขอแนะนำให้ทุกคนมีนิสัยที่จะต้องถามคนสำคัญในชีวิตของคุณว่าคุณจะปรับปรุงตัวอย่างไรได้บ้าง และเปิดใจยอมรับคำตอบที่ได้รับ อาจมีบางคนบอกคุณว่า “ระวังไฟแดง” หรือ “เข้าโค้งเร็วเกินไปแล้วนะ”
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น จงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามตัวเองว่า “คุณต้องเสียอะไรไหมในการฟังคำพูดพวกนี้” จงจำไว้ด้วยว่าผลดีจากการฟังนั้นมีอยู่บ้างอย่างแน่นอน ดังนั้น จงพูดออกไปเลยว่า “ขอบคุณ”
หนังสือ What Got You Here Won’t Get You There ของมาร์แชล โกลด์สมิธเพิ่งได้รับการจัดอันดับเป็นหนังสือธุรกิจขายดีในสหรัฐฯ ในหนังสือ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล สามารถติดต่อเขาได้ที่ Marshall@MarshallGoldsmith.com Marshall@MarshallGoldsmith.com และสามารถอ่านบทความและชมวิดีโออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.MarshallGoldsmithLibrary.com
© 2007 by The McGraw-Hill Companies Inc. All rights reserved

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *