พูดดีเป็นศรีแก่งาน
พูดดีเป็นศรีแก่งาน
โดย…สุทธิชัย ปัญญโรจน์
พูดอะไร ไม่ส่งเดช ใช้เหตุผล
ทุกทุกคน คล้อยตาม งามทุกเรื่อง
พูดตามใจ ไร้เหตุผล พล่ามบ่นเปลือง
ถึงตัวเขื่อง ข่มใคร ก็ไม่ฟัง
การเป็นผู้นำหรือหัวหน้าเขา ทำอะไรก็มักจะเป็นข่าว หรือมีคนนำไปนินทา บางทีไม่พูดก็เป็นข่าว ดังนั้น คนที่เป็นผู้นำ ต้องระวังการพูดจาปราศรัยให้มากๆ การพูดบางอย่างดูสุภาพแต่ขาดหลักจิตวิทยา เช่น หัวหน้าประชุมลูกน้อง เริ่มทักทาย “สวัสดีครับ ดีใจที่พวกคุณมาประชุมกันในวันนี้” ฟังดูสุภาพ แต่ขาดความเป็นกันเอง คือ ฟังแล้ว ดูแบ่งแยกระหว่างตัวผู้พูดกับผู้ฟัง ดังนั้นผู้นำที่มีจิตวิทยาหน่อย ก็จะทักทายดังนี้
“สวัสดีครับ กระผมดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ พวกเรามาประชุมกันในวันนี้” คือเปลี่ยนจาก พวกคุณ เป็น พวกเรา ความรู้สึกจะต่างกันทันทีเลย
หรือมีหัวหน้างาน 2 คน หัวหน้าจากสำนักงานใหญ่มาเยี่ยมเยือน เดินชมโรงงานเสร็จก็ชมทันทีต่อหน้าลูกน้องทั้งหมด “แหม แผนกของคุณนี่ดูขยันขันแข็งดี” หัวหน้าคนที่ 1 รีบตอบเลย “ครับ ไม่ต้องห่วงขยันกันทุกคนแหละครับ” เพราะผมดูแลทั่วถึงไม่ยอมให้พวกนี้อู้งานเป็นอันขาด ผมเป็นหัวหน้าใครทำเล่นๆ กระผมไม่ยอม” ถ้าพวกเราเป็นลูกน้อง เราจะคิดอย่างไรครับ รับรองไม่พอใจแน่นอน ซึ่งหัวหน้คนนี้ไม่มีจิตวิทยาในการพูด ถ้าหัวหน้ามีจิตวิทยาในการพูดจะพูดดังนี้ หัวหน้าจากสำนักงานใหญ่ชม “แหม แผนกของคุณนี่ดูขยันขันแข็งดี”หัวหน้าคนที่ 2 พูดว่า “ครับ กระผมโชคดีที่ได้ทำงานร่วมกับคนที่มีความรับผิดชอบสูง กระผมไม่เคยต้องดูแลอะไรเลย ทุกคนขยันขันแข็งมากเลยครับ” อย่างนี้ ลูกน้องยิ้มจนแก้มนี้มีโอกาสฉีกเลยครับ
เพราะฉะนั้น หัวหน้าหรือผู้มีลูกน้อง จะพูดจาปราศรัยก็ขอให้มีจิตวิทยาบ้าง รู้จักคิดก่อนพูด ไม่ใช่พูดแล้วมาคิดเสียใจทีหลัง อะไรทีพูดออกไปแล้วคนรู้สึกดีก็ควรพูด แต่อะไรที่พูดออกไปแล้วคนรู้สึกว่าไม่ได้รับเกียรติก็ขอให้ระวังนิด เพราะถ้าเราทำให้ลูกน้องรักเราศรัทธาเราได้ เขาก็จะทุ่มเทกำลังใจ กำลังกาย กำลังความคิดให้แก่งาน แล้วงานของเราก็จะบรรลุเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ได้
ใช้อำนาจ บาตรใหญ่ พูดไว้ท่า
คนต่อหน้า น้อมสดับ แต่ลับหลัง
เขากลอกตาให้ หลอกเล่น เขม่นชัง
พึงระวัง ว่าขาน ประมาณตน