พูดก่อน พูดหลัง – สุขุม นวลสกุล (2)
พูดก่อน พูดหลัง – สุขุม นวลสกุล (2)
สำหรับนักพูดที่เชื่อมั่นในตนเองสูง ใครจะเอายังไงก็เอา ใครจะให้ขึ้นก่อนขึ้นหลังหรือขึ้นกลางก็ไม่เกี่ยง ได้เสมอไม่มีปัญหา
ตัวท่านพร้อมทุกสถานการณ์ ผมยกให้อยู่ ๒ ท่านคือ อาจารย์ สุรวงศ์ วัฒนกุล และ อาจารย์พนม ปีย์เจริญ เอายังไงบอกมาเถอะ
ก็เลยมักถูกกำหนดให้ขึ้นท้ายสุดอยู่เสมอ
แต่นักพูดที่ถูกบังคับจากนักพูดด้วยกันให้ต้องพูดเป็นคนสุดท้ายเสมอ ไม่ว่าจะอ้อนวอนหรือวิงวอนขอร้องสักเพียงใดก็พูดก่อน
นักพูดด้วยกันก็ไม่ค่อยจะเวทนาหรือเห็นอกเห็นใจ ยกเว้นแต่จำเป็นจริง ๆ เช่น มีคิวพูดอีกโปรแกรมหนึ่งรออยู่ ขืนพูดคนสุดท้าย
ไปไม่ทันแน่ ถ้าอย่างนั้นถึงจะยอมให้ขึ้นก่อนได้ แต่ต้องมีหลักฐานมาแสดงนะ บอกโดยไม่มีเอกสารประกอบไม่ได้หรอกจะบอกให้
คนหนึ่ง คือ อาจารย์ อภิชาต ดำดี เห็นตัวดำ ๆ อย่างนั้น ถือเป็นพระเอกแห่งวงการพูด เพราะมีทั้งร้อยแก้วร้อยกรอง บางครั้งแถม
ลำตัดเพลงฉ่อยแหล่ประกอบเข้าไปอีก ขืนปล่อยให้แสดงก่อน นักพูดที่ตามหลังมามีแต่ร้อยแก้วอย่างเดียวจะไปเหลืออะไร
ก็กร่อยไปเท่านั้น เพราะฉะนั้นศิลปินอย่างท่านเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นคนพูดคนสุดท้าย อยากเก่งหลายอย่างทำไมล่ะ
อีกท่านหนึ่งนั้นก็คือผู้ที่ใคร ๆ เรียกว่า ” คิง ออฟ สปิซ ” อาจารย์ จตุพล ชมภูนิช ที่เห็นหน้าประจำกันทางทีวี อาจารย์เชน
นี่เป็นนักพูดประเภทตัวดูด คนมาดูทอล์คโชว์บางทีตั้งใจมาฟังท่านเป็นตัวหลัก ฟังคนอื่นเป็นเรื่องตัวประกอบ ขืนปล่อยให้
อาจารย์เชนขึ้นเวทีก่อน พอท่านพูดจบคนก็ลุกขึ้นกลับกันพรึ่บพรั่บคล้ายๆ กับว่าได้ฟังเต็มอิ่มพอแล้ว คุ้มค่าพูดแล้ว ใครพูดต่อ
ก็ซวยไปซิครับ
นักพูดที่ต้องขึ้นเวทีต่อ บางทีแทนที่จะพูดให้คนฟังก็เหลือแต่ทหารม้า ( นั่ง ) เป็นส่วนใหญ่ หรือพูดไปคนค่อยๆ ลุกขึ้นทยอย
ออกทีละกลุ่มสองกลุ่ม ถ้าสมาธิไม่ดีพูดไปกดดันไปพลอยให้การพูดต่ำกว่ามาตราฐานไปไม่มากก็น้อย จึงไม่มีใครยอมให้อาจารย์เชน
พูดก่อนเพราะเกรงความหายนะต่อตนเองที่อาจตามมา
เรื่องถึงมาก่อนก็ต้องพูดทีหลังนี่ เป็นเรื่องที่อาจารย์เชนบ่นกระปอดกระแปดด้วยความภูมิใจเสมอ แต่ก็ยอมเป็นผู้เสียสละ
ทุกทีเพราะจริง ๆ ก็รู้ดีว่าทำไมถึงต้องเป็นอย่างนั้น ยังไง ๆ เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนอยู่แล้ว ขืนเพื่อนฆ่าเพื่อนแล้วจะมีใครเป็น
เพื่อนล่ะครับ
มีอยู่ไม่กี่ครั้งหรอกครับที่อาจารย์เชนเต็มอกเต็มใจให้เพื่อนพูดก่อน
ครั้งหนึ่งที่ผมคิดว่านักพูดที่ร่วมชะตากรรมคงไม่มีใครลืม วันนั้นนักพูด ๓ คนคือผมกับอาจารย์ เสน่ห์ ศรีสุวรรณ และ
อาจารย์เชน ต้องไปพูดที่จังหวัดชุมพร เราสามคนนั่งเครื่องบินไปลงที่สุราษฎร์ธานี เพราะที่ชุมพรแม้จะมีสนามบินแต่ไม่มี
เครื่องบินขึ้นหรือลง ไม่ทราบสร้างขึ้นมาทำไมให้เปลืองงบประมาณแผ่นดิน ไม่ทราบว่าความเสียหายอย่างนี้ผู้อนุมัติ
ให้สร้างได้รับผิดชอบอย่างไรบ้างไหม เรื่องแปลก ๆ อย่างนี้อย่าคิดว่ามีที่ชุมพรแห่งเดียวนะครับ ปัจจุบันจังหวัดที่มีสนามบิน
ไว้โก้ ๆ มีหลายจังหวัดนะ จะบอกให้