พลังของการคิดด้วยภาพ

พลังของการคิดด้วยภาพ

Jun 18, ’07 7:23 AM
for everyone
ดร.บุญชัย แห่ง Fast English มักบอกว่า คนธรรมดาจะคิดเป็นคำ แต่อัจฉริยะมักคิดเป็นภาพ ปุถุชนมักคิดเป็นคำ แต่ปราชญ์จะคิดเป็นภาพ

สมองคนเราใช้งานได้ไม่ถึง 10% ของศักยภาพทั้งหมด เพราะคนส่วนใหญ่มักให้สมองส่วนซ้ายทำงานหนักเพียงลำพัง ในขณะที่สมองด้านขวา ที่ทำหน้าที่กำหนดภาพ และความรู้สึก กลับใช้งานเพียงนิดเดียวเท่านั้น

อ.พูดเช่นนี้ ก็เพื่อแนะนำให้นักเรียน ที่อุตสาห์เสียตังค์เหยียบหมื่นบาท เก่งภาษาอังกฤษได้รวดเร็วขึ้น ให้สมชื่อสถาบัน เคล็ดลับอยู่ที่ว่า เพียงแค่เปลี่ยนภาษาอังกฤษให้เห็นภาพให้ได้ เท่านั้นเอง ถ้ามองให้เป็นภาพได้ ก็จะรู้ว่าประโยคนี้ควรจะต้องใช้ Tense ไหน ขนาดนั้น??

ลึกซึ้ง!!!

แต่ด้วยสติปัญญาอันน้อยนิด ทำให้ฟัง อ.ระดับดอกเตอร์ ไม่เก็ตนัก…

เอ!! ไอ้ คำว่าคิดเป็นภาพนี่มันวิเศษยังไง? ในเมื่อโดยปกติคนเราก็มักจะจินตนาการเป็นภาพได้สบายๆอยู่แล้ว ในเวลาฟังคนอื่นเล่าเรื่อง เราก็จะคิดภาพตามได้อย่างสบาย แล้วจะทำให้อัจฉริยะตรงไหน??

ความจริงแล้วเรื่องนี้ มันลึกซึ้งมากกว่านั้น

วันก่อน “พี่คริสต์ NGP” ได้เล่าให้ฟังว่า… “ลีโอนาโด้ ดาวินซี” จิตรกรระดับโลก ชอบฝึกเขียนหนังสือมือซ้าย และเขียนด้วยมือขวา ไปพร้อมๆกัน เพื่อเป็นการฝึกให้สมองด้านซ้าย และขวาทำอย่างสัมพันธ์กัน เพราะเขาเชื่อว่าหาก สมองทั้งซ้ายและขวาทำงานอย่างสมดุล เขาก็จะเป็นเพียงคนส่วนน้อยเท่านั้นในโลก ที่ฉลาดที่สุด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า เขาทำได้สำเร็จ

ลองฝึกเล่นๆดูจากทำถามนี้…คนสองคนวิ่งแข่งกัน คนที่1 ก้าว 2 ก้าว ก้าวละ 3 เมตร กับคนที่2 ก้าว 3 ก้าว ก้าวละ 2 เมตร ใครถึงเส้นชัยก่อนกัน??……

ถ้าคิดด้วยสมองด้านซ้าย ตามหลักคณิตศาสตร์ หลายคนตอบว่า ถึงเส้นชัยพร้อมกัน เพราะเมื่อทำมาคูณกันก็ล้วน ได้ 6 เท่ากัน…

แต่คำตอบที่ถูกต้อง คือ คนแรก ถึงก่อน เพราะเมื่อก้าวสุดท้ายที่จะถึงเส้นชัย คนที่1 จะเข้าเส้นชัยไปแล้ว แต่คนที่สอง กำลังจะก้าว ก้าวที่3 อยู่เลย

คำถามนี้อาจจะง่ายไปสำหรับเรา เพราะจริงๆแล้วเขาใช้ ฝึกสมองเด็ก ในประเทศญี่ปุ่น

ศาสตร์ที่ว่าด้วยการคิดเป็นภาพ มีกล่าวกันมาช้านาน ณ วันนี้คำว่า “Mind Map” เข้าไปผสมกับศาสตร์วิชาต่างๆในทุกแขนง แม้แต่เด็กมัธยม ร.ร.ดังๆในกรุงเทพ ก็รู้จักคำๆนี้เป็นอย่างดี เพราะครูจะแทรกไว้ในวิชาให้เด็กคุ้นเคย ก่อนใช้จริงจังในระดับมหาวิทยาลัย

“Mind Map” เรียกง่ายๆ ก็คือ การจัดหมวดหมู่ เชื่อมโยงส่วนต่างๆ ให้เป็นภาพ หมวดหมู่เดียวกัน ไว้ด้วยกัน ก็จะช่วยในการจำให้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเปลืองสมอง

หากยังงง…ลองดูตัวอย่าง

ถ้ามีสิ่งอยู่ 10 ชิ้น ให้เราจำภายใน 10 วินาที.. เสื้อคลุมสีม่วง, แว่นตากันแดด, จิ้งจก, เครื่องบิน, รองเท้าส้นสูง, หมวก, ลิปสติก, แก้วไวน์, นักบิน และผู้หญิง

เราจะต้องใช้กำลังสมองในการจำสูงมาก

แต่ถ้าเราเปลี่ยนวิธี จำแบบใหม่ โดยจินตนาการเป็นภาพ ว่า มีผู้หญิงหนึ่งคนใส่หมวก ใส่แว่นตากันแดด ในมือถือลิปสติก สวมรองเท้าส้นสูง ระหว่างเดินมีเครื่องบินบินผ่าน นักบินสวมเสื้อคลุมสีม่วง ถือแก้วไวน์ กำลังมองจิ้งจก

เราจะใช้สมองในการจำน้อยกว่า และลืมได้ยากกว่า

นั่นแหละ คือ พลังของการคิดด้วยภาพ

มีเรื่องจริงอยู่ว่า นักศึกษาระดับอัจฉริยะคนหนึ่ง นั่งฟังเล็กเชอร์ อาจารย์ในมหาวิทยาลัยนิ่งๆ โดยไม่จดใส่สมุดโน้ตสักตัว แต่ผลสอบออกมาวิชานั้นได้ A แทบไม่น่าเชื่อ ว่าเป็นไปได้อย่างไร เค้าบอกว่า เค้าใช้วิธีการจำ และสามารถโยงภาพ จากกระดานที่อาจารย์สอนได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องจด ทำให้จำได้แม่นยำ และเปลืองสมองน้อยกว่า… จึงสามารถเอาเวลาที่เหลือที่ทำอย่างอื่นได้มากกว่า..

อยากเป็นอัจฉริยะ ก็ลองฝึกคิดเป็นภาพ ดูนะครับ ^๐^

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *