ผู้ป่วยสมองเสื่อม คนที่ถูกลืม
ผู้ป่วยสมองเสื่อม คนที่ถูกลืม
เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมานั้น ได้มีการจัดงานวันอัลไซเมอร์โลก แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า วันนี้ มีความสำคัญยังไง ที่จริงแล้ว ทุกวันที่ 21 กันยายนของทุกปี ถือเป็นวันอัลไซเมอร์โลก หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยจะเตรียมจัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นเตือน รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำแก่ประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
โรคสมองเสื่อม คืออะไร
หากจะอธิบายความหมายของคำว่า “โรคสมองเสื่อม” แบบง่าย ก็คือ การที่เรามีความผิดปกติทางด้านสมอง ซึ่งส่งผลให้เรามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องความจำ จนทำให้พฤติกรรมและบุคลิกภาพของเราเปลี่ยนแปลงไป อาทิเช่น เราอาจจะไม่รู้ตนเองกำลังทำอะไรอยู่ หรือบางครั้งอาจจะลืมว่า ตนเองเก็บเงินไว้ในลิ้นชักโต๊ะได้อย่างไร ทั้งที่เป็นคนถี่ถ้วน ดูแลการเงินของคนทั้งบ้าน แต่ในกรณีที่ร้ายแรงอาจจะลืมวิธีดำเนินชีวิตเป็นอย่างไร ถึงขั้น แปรงฟันไม่ได้
ผู้ป่วยสมองเสื่อม สามารถหายออกจากบ้านได้หรือ
เรื่องนี้ คงต้องบอกว่า ผู้ป่วยสมองเสื่อม ก็เหมือนคนปกติทั่วไป เพียงแต่มีความบกพร่องด้านความจำ จึงมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะหายตัวออกจากบ้าน เพราะจากสถิติ ของ ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ที่ได้รับแจ้งเหตุบุคคลสูญหายนั้น พบว่า มีผู้ป่วยสมองเสื่อมหายตัวออกจากบ้านถึง 161 ราย ทั้งนี้ จากอัตราการเพิ่มของโรคนี้ จึงทำให้มีแนวโน้มในอนาคตว่า จะมีผู้ป่วยสมองเสื่อมที่พลัดหลงออกจากบ้านอีกเป็นจำนวนมาก
สาเหตุที่ทำให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมหายออกจากบ้าน
ผู้ป่วยสมองเสื่อม ส่วนใหญ่แม้จะมีความบกพร่องด้านความจำ แต่ก็ยังสามารถดำเนินชีวิตประจำวันของตนได้ สืบเนื่องจากการรับแจ้งเหตุบุคคลสูญหายที่เป็นผู้ป่วยสมองเสื่อม จะพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยบางราย จะไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะทุกวัน หรือไปทานข้าวที่ร้านค้าในตลาดใกล้บ้าน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ของผู้ป่วยสมองเสื่อม จะทำให้บุคคลใกล้ชิดรู้สึกคุ้นเคย จนบางครั้งหลงลืมไปว่า หากผู้ป่วยสมองเสื่อมเดินออกนอกเส้นทางที่เคยทำเป็นประจำ อาจเป็นเหตุให้ผู้ป่วยสมองเสื่อมไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยสมองเสื่อมหายตัว
เมื่อผู้ป่วยสมองเสื่อม พลัดหลงออกจากบ้าน อาจจะใช้วิธีการเดินเท้าไปเรื่อยๆ หรือบางรายอาจจะขึ้นรถโดยสารประจำทางไปยังสถานที่ต่างๆ และหากมีผู้มาซักถามผู้ป่วยสมองเสื่อมที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองได้ก็สามารถกลับคืนสู่ครอบครัวได้อย่างปลอดภัย แต่ในกรณีที่ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองได้นั้น อาจจะถูกนำตัวไปส่งยังสถานสงเคราะห์ต่างๆ จนกว่าจะสามารถติดต่อหาครอบครัวได้ ซึ่งยังมีผู้ป่วยสมองเสื่อมอีกส่วนหนึ่งที่กลายเป็นคนเร่ร่อน เพราะหาทางกลับบ้านไม่ถูก แต่ในกรณีที่โชคร้าย ผู้ป่วยสมองเสื่อมอาจถูกทำร้ายร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิต
สำหรับปัญหาหรืออุปสรรค
ที่ทางครอบครัวคนหายได้พบ จากการไปแจ้งความคนหายพลัดหลงที่สถานีตำรวจ คือ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้รับแจ้งความ มองว่า การที่ผู้ป่วยสมองเสื่อมหายตัวออกจากบ้านไปนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเชื่อว่าผู้ป่วยสมองเสื่อม น่าจะเดินวนเวียนอยู่แถวบ้านไม่ได้หายไปไหน และเดี๋ยวก็มีคนรู้จักนำผู้ป่วยสมองเสื่อมมาส่งบ้าน จึงทำเพียงการรับแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน โดยไม่มีการส่งสายตรวจไปตรวจสอบยังบริเวณใกล้เคียง ไม่มีการกระจายข่าวเรื่องดังกล่าวไปยังเขตพื้นที่ใกล้เคียง หรือการแนะนำสิ่งที่จะเป็นประโยชน์แก่ทางครอบครัว เช่น ทางครอบครัวควรจะโทรไปสอบถามตามโรงพยาบาลที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เพราะมีความเป็นไปได้ว่าคนหายอาจจะได้รับอุบัติเหตุ ซึ่งในเรื่องนี้ตำรวจก็ไม่ได้แนะนำให้ทางครอบครัวได้รู้
ปัญหาผู้ป่วยสมองเสื่อมพลัดหลงออกจากบ้านเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะมองว่า ผู้สูงอายุไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ เป็นเพียงคนไร้ค่าที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ จึงทำให้บุคคลกลุ่มนี้ กลายเป็นคนที่ถูกลืมไปจากสังคมไทย ฉะนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะปรับความคิดใหม่ ก่อนที่จะกลายเป็นคนที่ถูกลืมในอนาคต
นางสาวธิติมา หมีปาน
ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเ