ปฏิวัติ! แผนใช้เงินรับปีใหม่
|ปฏิวัติ! แผนใช้เงินรับปีใหม่
เรื่องเงินๆ ทองๆ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจในครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน คงไม่ใช่เรื่องดีนักหากคุณต้องชักหน้าไม่ถึงหลัง การอยู่อย่างเดือนชนเดือนอาจทำให้คุณภาพชีวิตไม่ค่อยดี ใครที่กำลังตกอยู่ในสภาพที่ว่าดิฉันขอคำแนะนำให้ปฏิวัติตนเองกันได้แล้วจากประสบการณ์สำรวจพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย มีกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั้งทางด้านการศึกษา อาชีพ อายุ รายได้ ฯลฯ พบข้อมูลส่วนหนึ่งระบุว่า ประชาชนในกลุ่มผู้มีรายได้ในระดับรากหญ้า เช่น มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ค้าขาย
หรือแม้แต่เกษตรกร ล้วนแต่ต้องใช้ชีวิตอยู่แบบที่รายได้ไม่ค่อยจะเพียงพอต่อความต้องการในชีวิตประจำวัน เนื่องจากในแต่ละเดือนมีภาระการใช้จ่ายค่อนข้างเยอะในขณะที่กลุ่มเป้าหมายจำนวนหนึ่งระบุว่าหากใช้จ่ายและใช้ชีวิตอย่างสมเหตุสมผล ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่จับจ่ายสิ่งที่ไม่จำเป็น ไม่ซื้อสินค้าเงินผ่อน ไม่ใช้บริการเงินกู้ทั้งนอกและในระบบ รวมทั้งไม่ซื้อหวย พวกเขาสามารถอยู่ได้และมีเงินใช้อย่างพอเพียงหากคุณคือผู้หนึ่งที่ถูกจัดอยุ่ในกลุ่มรายจ่ายมากกว่ารายได้ดิฉันคิดว่าสุดท้ายทุกคนก็มีทางออกที่ดีให้กับตัวเองเสมอ แต่การที่จะไม่ให้เงินติดลบก็มีทางออกที่ดีให้กับตัวเองเสมอ เพราะหากสามารถกำหนดรายรับและรายจ่ายให้มีความสมดุลกันได้ เชื่อว่าปีไหนๆ ก็จะสามารถวางแผนการเงินเพื่อมิให้ตกอยู่ในสถานะติดลบและติดหนี้ได้โดยไม่ต้องรอให้ถึงปีใหม่เลย
ปฏิวัติปากท้อง
หากติดลบไปแล้ว ปีใหม่นี้ดิฉันขอแนะนำให้ปฏิวัติเรื่องปากเรื่องท้องค่ะ โดยเฉพาะหลังจากเทศกาลส่งท้ายปีเก่าการกำหนดชีวิตตนเองเพื่อรับปีใหม่ 2550 คงจะน่ายินดีไม่น้อยซึ่งการกำหนดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ของตนเองและครอบครัวนั้น เชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่อาศัยช่วงส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่มาคิดวางแผนเรื่องการเงินใหม่เพื่อกำหนดปผนการใช้เงินไม่ให้ติดลบและติดหนี้อย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตามการวางแผนการเงินนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่นะคะ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเกี่ยวข้องกับการหาเงินและใช้เงินใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้วงจรการเงินของครอบครัวต้องตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่เหมือนปีที่ผ่านมา ดิฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องริเริ่มวางแผนเรื่องนี้กันใหม่
เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย
ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่เรื่องการหาเงินก่อนเป็นอันดับแรกไม่ว่าคุณจะอยู่ในอาชีพอะไรก็ตาม ดิฉันเชื่อว่าทุกคนต้องมีรายได้ และต้องการรายจ่ายได้มากๆ เพื่อมาจุนเจือทุกคนให้มีความสุข แต่ข้อจำกัดเรื่องรายได้ของทุกคนนั้นแตกต่างกันซึ่งล้วนขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เป็นตัวกำหนด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา ความสามารถพิเศษ ความขยันขันแข็งในการทำงานหรือแม้แต่เรื่องอื่นๆ ที่บ่งชี้ว่าใครจะได้รับเงินมากหรือน้อยในแต่ละเดือน
หากคุณมีเป้าหมายที่จะปฏิวัติเรื่องการเงิน ดิฉันคิดว่าควรเริ่มต้นจากเรื่องของรายได้เป็นหลัก ก่อนอื่นเลยก็ต้องย้อนกลับไปดูว่าในช่วงที่ผ่านมานั้น รายได้ของคุณครอบคลุมรายจ่ายที่เกิดข้นในครอบครัวหรือไม่ หากคำตอบคือไม่ สิ่งที่จะต้องทำต่อไปก็คือ คุณควรจะหารายได้เพิ่มหรือควรจะตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป นี่คือทางออกที่ดิฉันแนะนำได้ในขั้นต้น
ถ้าสามารถทำได้ทั้ง 2 อย่างที่ดิฉันเชื่อว่าการปฏิวัติเรื่องการเงินของคุณหลังปีใหม่นี้จะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ทั้ง 2 ทาง ก็ต้องเลือกว่าจะต้องลดรายจ่ายหรือหารายได้เพิ่ม ทางใดทางหนึ่งแน่ๆ
เลิกนิสัยจับจ่าย
หากสิ้นปีนี้คนส่วนใหญ่มีเป้าหมายในการปฏิวัติการเงินข้อสองที่ดิฉันแนะนำคือ ไม่ควรใช้เงินในเรื่องฉลองมากเกินความจำเป็น และถ้ามีโบนัสก็อย่าหลงระเริงไปกับการจับจ่ายควรจะนำเงินก้อนดังกล่าวมาจัดสรรเพื่อให้แผนการปฏิบัตินั้นลุล่วงไปด้วยดี เช่น หากมีหนี้สินก็ควรเคลียร์ให้หมด เป็นต้น
นอกจากนี้แล้วการปฏิวัติการเงินของคุณจะไม่เห็นผลที่ชัดเจนนัก หากพฤติกรรมการบริโภคยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงดิฉัยหมายถึงการจับจ่ายใช้สอยในส่วนที่เกินความจำเป็นของครอบครัวค่ะ เพราะเมื่อต้องพูดถึงเรื่องการปฏิวัติรายได้แล้วเรื่องรายจ่ายก็มีส่วนทำให้แผนการเงินของคุณนั้นอยู่ในขั้นที่เรียกว่าปลอดภัยจากสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
หากทุกๆ คนสามารถกำหนดเรื่องรายจ่ายของตัวเองได้อย่างลงตัว กล่าวคือมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคในลักษณะที่ประหยัดและเห็นคุณค่าของเงินมากขึ้น ก็จะช่วยให้แผนการเงินนั้นมีความเป็นระเบียบ และไม่ต้องตกอยู่ในภาวะที่เป็นหนี้อีกต่อไป
ทั้งนี้การกำหนดเรื่องค่าใช้จ่ายจะได้ผลหรือไม่นั้น ดิฉันคิดว่าขึ้นอยู่กับคุณใจแข็งมากน้อยแค่ไหน หากย้อนเวลากลับไปแล้วพบว่าการตอบสนองความต้องการของตนเองนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ลองเปลี่ยนให้กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ดูบ้าง อย่างน้อยก็จะได้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าสิ่งของบางอย่างที่คุณเห็นแล้วอยากได้ ก็ให้เปลี่ยนตัวเองซะใหม่ เพราะไม่ต้องอินเทรนด์ชีวิตก็สามารถอยู่ได้ การซื้อของที่ไม่จำเป็นต่อชีวิตหรือการตกเป็นทาสของสินค้าฟุ่มเฟือยไม่ได้ส่งผลดีต่อใครเลย หรือ แม้แต่การถูกยกย่องว่าเป็นราชินีเงินผ่อน ก็อย่าไปภาคภูมิใจกับการต้องจ่ายดอกเบี้ยที่แพงๆ อีกต่อไป
ประหยัด ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจและเชื่อว่าน่าจะเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตแบบไม่ต้องติดลบและติดหนี้ จากการเก็บข้อมูลวิจัย มีผู้บริโภคคนหนึ่งที่ให้ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องการใช้เงินในแต่ละเดือนไว้อย่างน่าสนใจว่า หากกล้าที่จะยืมเงินคนอื่น ในที่สุดก็ต้องเป็นลูกหนี้ทุกๆ เดือน เพราะเมื่อเงินเดือนออกก็ต้องนำไปใช้หนี้ ในที่สุดก็ต้องยืมต่อไปเรื่อยๆ แต่ถ้ายอมกัดฟันอดทนและกินอยูอย่างประหยัดในเดือนที่ชักหน้าไม่ถึงหลังเมื่อถึงสิ้นเดือนเงินทั้งหมดก็อยู่ในกระเป๋า ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการวางแผนการเงินเพื่อมิให้เกิดปัญหาซ้ำๆ ซากๆ ในเดือนต่อไป ใครจะนำไปใช้ก็ไม่สงวนสิทธิ์นะคะ
ดิฉันเชื่อว่ายังมีอีกหลายช่องทางที่จะทำให้เม็ดเงินในกระเป๋าของคุณนั้นร่อยหรอลงไป ขอให้สำรวจกันได้แล้วเพราะจะช่วยในการปฏิวัติการเงินของคุณนั้นมีโอกาสเป็นไปได้สูงและเชื่อว่าสิ่งที่จะช่วยได้ก็คือการเริ่มต้นทำบัญชีรายรับและรายจ่ายในครัวเรือนตั้งแต่แรกของปีนี้กันเลย
สุดท้ายที่ดิฉันขอฝากไว้ให้คิดกันก็คือ หากรู้ตัวว่าการทำมาหากินคนเดียวนั้นจะไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจในครอบครัวมั่นคงนัก การช่วยกันหาเงินหรือเพิ่มช่องทางของรายได้ จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายในการปฏิวัติการเงินได้เร็วยิ่งขึ้นและปีใหม่นี้ดิฉันขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขและประสบความสำเร็จกับสิ่งที่มุ่งหวังนะคะ
(ดร.กฤษติกา คงสมพงษ์, นิตยสารดวงใจพ่อแม่ ปีที่ 12 เลขที่ 134 ธันวาคม 2548)