นม ‘ดริงก์’ นี้เพื่อกระดูก


นม “ดริงก์” นี้เพื่อกระดูก
• อาหาร
ระบุมีโปรตีน เกลือแร่ อุดมไปด้วยแคลเซียม

วันนี้คุณดื่มนมแล้วหรือยัง ?

สโลแกนที่เคยฮิตติดปากคนไปทั่วบ้านทั่วเมือง ด้วยเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นให้ประชาชนหันมาสนใจดื่มนมกันมากขึ้น

นั่นเป็นเพราะว่า นมเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญ ทั้งโปรตีน เกลือแร่ ทั้งยังอุดมไปด้วยแคลเซียม ที่ร่างกายสามารถ ดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด

แม้จะรณรงค์กันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยัง พบว่า ต่อปีคนไทยดื่มนมกันน้อยเสียเหลือเกิน ยิ่งเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ แล้วยิ่ง ไม่ต้องพูดถึง

มีสถิติการดื่มนมมาให้ดูกันเล่นๆ เขาพบว่า คนญี่ปุ่นดื่มนมต่อปีเฉลี่ยคนละ 39 ลิตร มาเลเซียดื่มนมกันเฉลี่ยคนละ 50 ลิตรต่อปี ส่วนทางอเมริกันดื่มกันคนละ 92 ลิตรต่อปี ไล่ตามคนออสเตรเลียที่ดื่มกันคนละ 102 ลิตรต่อปี

แล้วมาดูคนไทยที่โดยเฉลี่ยทั้งปีดื่มนมกันคนละ 13.69 ลิตรเท่านั้น !!

ถือได้ว่าดื่มนมกันน้อยมาก ยิ่งเมื่อเทียบกับปริมาณการบริโภคน้ำอัดลมของคนไทยที่ต่อปีดื่มไป 50 ลิตร และดื่มชาเขียวถึงปีละ 20 ลิตร ตัวเลขนี้ยิ่งน่ากลัวกว่า เพราะจากข้อมูลของมูลนิธิ โรคกระดูกพรุนนานาชาติระบุว่า กระดูกพรุนจะเป็นภัยคุกคามประชากรทั่วโลก และคาดว่าในปี 2050 จะมีผู้ป่วยในแถบเอเชียเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 50 และจะมีผลกระทบต่อผู้หญิง 1 ใน 3 และกระทบต่อผู้ชาย 1 ใน 5

การคาดการณ์นี้ค่อยๆ ขยายผลอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพบว่าหญิงไทยวัย 55 ปีจะเป็นโรคกระดูกพรุนถึงร้อยละ 20 และจะขยับขึ้นไปเป็นร้อยละ 60 เมื่อย่างเข้าสู่วัย 65 ปี หรือเท่ากับอัตราส่วน 1 ต่อ 6 ในผู้หญิง และ 1 ต่อ 7 ในผู้ชาย

ศ.กิตติคุณ น.พ.เสก อักษรานุเคราะห์ ประธานมูลนิธิโรคกระดูกพรุนแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า การเกิดโรคกระดูกพรุนไม่มีสาเหตุ แต่จะมาพร้อมกับการเข้าสู่วัยชราที่มวลกระดูกจะน้อยลง ทำให้เปราะบางและแตกหักง่าย การป้องกันคือ ต้องเร่งสร้างและสะสมมวลกระดูกให้แข็งแรง ด้วยการสะสมแคลเซียม โปรตีนและวิตามินดีตั้งแต่เด็ก

และการสะสมที่ดีที่สุดนอกจากการบริโภคอาหารดีมีประโยชน์ที่เสริมแคลเซียม อย่างปลาเล็กปลาน้อย ปลาร้า ปลาซาร์ดีน ปลาป่น สาหร่ายแห้ง กุ้งแห้ง ผักคะน้า บร็อกโคลี ผักกาด เต้าหู้ ถั่วเหลือง ฯลฯ แล้ว การดื่มนมจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่ถูกยกให้อยู่ในระดับ 5 ดาวทีเดียว

ที่ยกให้อยู่ในระดับ 5 ดาวนั้นเป็นเพราะแคลเซียมที่มีอยู่ในนมนั้น เป็นแคลเซียมที่ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการอันซับซ้อนเหมือนกับอาหารประเภทอื่นๆ

การที่จะเติมแคลเซียมให้พอเพียงกับปริมาณที่สูญเสียไปในแต่ละช่วงอายุนั้นก็ไม่เท่ากัน จึงมีการประมาณการกันคร่าวๆ ไว้ว่าในแต่ละวันควรดื่มนมกันไม่เกินวันละ 600 ซีซี หรือประมาณ 2 กล่อง หรือ 3 แก้ว ส่วนเด็กเล็กควรดื่มนมวันละ 300 ซีซี

การเติมเต็มแคลเซียมนี้ เหมือนกับเป็นการสะสม เป็นการออมมวลกระดูกไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต ยิ่งสะสมไว้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีกับกระดูกเท่านั้น และการออมนี้ควรเร่งทำกันตั้งแต่วัยเด็กหรือก่อนวัยที่เลข 3 มาเยือน

ส่วนคนที่เกิดอาการแพ้นม หรือเกิดอาการท้องอืด ท้องเสียเมื่อดื่มนมนั้น มีข้อแนะนำว่า ควรกระตุ้น ร่างกายด้วยการดื่มนมวันละอึก และหลีกเลี่ยงดื่มนม ตอนท้องว่าง ถ้ายังไม่สำเร็จก็ลองวิธีผสมนมสดกับ นมเปรี้ยวในปริมาณเท่าๆ กัน แช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน แล้วค่อยดื่มทีละน้อย หรืออาจจะเลี่ยงไปดื่มนมถั่วเหลืองสักวันละ 2-3 กล่องแทน ควบคู่ไปกับการกินอาหารมีประโยชน์และออกกำลังกายแบบปั่นจักรยานหรือ ยกน้ำหนัก ออกไปโดนแดดอ่อนๆ บ้างก็ย่อมได้

ทั้งหมดนี้เป็นการออม (มวลกระดูก) เพื่อ อนาคต !!

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

Update 12-05-51


Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *