ช่วยประหยัดเงิน กับเครื่องสำอางดีใช้ได้นาน
|ช่วยประหยัดเงิน กับเครื่องสำอางดีใช้ได้นาน
ระยะนี้คอลัมน์มีเนื้อเรื่องกับข้อมูลล้วนแต่เอาใจหญิงสาว และคราวนี้เช่นกันผู้ดูแลคอลัมน์ได้ท่องเน็ต ไปพบข้อมูลน่าสนใจใกล้ตัวคุณผู้หญิง เป็นเรื่องราวเกี่ยวข้องกับความสวยความงามและผลิตภัณฑ์ช่วยประทินโฉม ที่ผู้หญิงทั่วไปต้องใช้เป็นประจำทุกวัน โดย เคธี คอนนอลลี่ คอมลัมนิสต์ นิวส์วีค นิตยสารชั้นนำของสหรัฐ เนื้อหาของคอนนอลลี่ใช้ชื่อเรื่องว่า “8 วิธีช่วยสาวมั่นใจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสะอาดใช้ได้ดี” เป็นการรวบรวมวิธีช่วยสาวไทยทั้งในและต่างประเทศ ไม่ต้องเผชิญกับผลเสียที่ตามมา จากการใช้หรือเก็บรักษาเครื่องสำอางกับผลิตภัณฑ์ประทินโฉมไม่ดี จนใช้ได้ไม่คุ้มและใช้ได้ไม่นานกับเม็ดเงินที่ต้องจ่ายไป และต้องเสียเงินซื้อหาของใหม่มาใช้แทน คอนนอลลี่หยิบยกปัญหาในสหรัฐว่า
ทุกวันนี้ความเสี่ยงเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ประทินโฉมไม่ได้ลดน้อยลงเลย ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น คอนนอลลี่จึงขอแนะนำกฎง่ายๆ 8 ข้อ ที่เธอเห็นว่าจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าสาวไทยสวยได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัย
“ไม่ใช้ร่วมหรือแบ่งใช้”
เป็นหนทางเข้มงวดและกฎเหล็กข้อแรก ที่คอนนอลลี่เตือนว่าการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ประทินโฉมร่วมกับคนอื่น แม้จะเป็นเพื่อนสนิทมิตรสหาย หรือเป็นลูกค้าสนใจรายอื่นที่ร่วมใช้สินค้าทดลองก็ตาม เพราะการใช้ของร่วมกันเป็นหนทางง่ายที่สุดหนทางหนึ่ง ที่จะทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจาย
สาวใดที่ไม่สนใจคำแนะนำหรือคำเตือนข้อนี้ ระวังเถอะว่าคุณอาจติดโรคจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคที่คนไทยรู้จักกันว่า “สังคัง” ซึ่งนำไปสู่อาการระคายเคือง เจ็บและอักเสบของผิวหนัง กลายเป็นผิวที่ไม่น่ามอง และอาการเกิดขึ้นง่ายบริเวณริมฝีปาก หากใช้ลิปสติกเสื่อมคุณภาพหรือใช้ร่วมกันกับคนอื่นๆ ที่อาจมีเชื้อไวรัสก่อโรคซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางร่วมกัน ยังเพิ่มโอกาสกับความเสี่ยง ที่สาวๆ จะเกิดโรคริมฝีปากอักเสบ ควบคู่ไปกับโรคผิวหนังรอบปากอักเสบด้วย ผลิตภัณฑ์ใช้กับดวงตาและรอบดวงตา เป็นอีกส่วนพึงระวัง การใช้มาสคาร่าหรือผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาร่วมกับคนอื่น อาจทำให้เกิดโรคเยื่อตาขาวอักเสบ หรือโรคตาแดง และขั้นร้ายสุดคือมีไรเกาะขนตา
หากสาวใดต้องการลองใช้เครื่องสำอางตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าทั่วไป ขอให้แน่ใจเสียก่อนว่า ต้องเป็นสินค้าทดลองใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง หรือหากต้องใช้อุปกรณ์กับผลิตภัณฑ์ร่วมกับคนอื่น ลองขอให้พนักงานช่วยทำความสะอาด หรือใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรคให้ดี ก่อนจะนำมาใช้จริงบนใบหน้าตนเอง
“ทิ้งเครื่องสำอางเก่าไม่ใช้แล้ว”
สาวไหนที่มีผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางเก่า หรือผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางใช้ไปแค่ครึ่งเดียวแต่ทิ้งไว้นานแล้ว อย่าคิดเสียดายให้ทิ้งทันที เพราะอายุผลิตภัณฑ์ยิ่งนาน สารที่ใช้ป้องกันการเสื่อมสภาพก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพน้อยลง
ดร.แองเจลา บาวเวอร์ส แพทย์เชี่ยวชาญโรคผิวหนังจาก Baylor Regional Medical Center ให้ข้อมูลว่า ผู้หญิงอาจเป็นโรคผิวหนังอักเสบรอบปาก เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตนานแล้ว อาการของโรคเห็นได้ชัดคือเกิดผิวนูนสีแดงเหมือนสิวตามผิว ดังนั้นเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ใช้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขอให้สาวๆ แน่ใจว่าได้อ่านฉลากรู้วันหมดอายุกับวิธีเก็บรักษาแล้ว
ตามปกติแล้วผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอาง ควรเก็บไว้ในสถานที่เย็น ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ไม่ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานเปลี่ยนแปลงไป ดร.บาวเวอร์สเตือนว่าการเก็บรักษาปล่อยเครื่องสำอางทิ้งไว้ในรถยนต์โดยเฉพาะในฤดูร้อน อาจเป็นสาเหตุทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมคุณภาพได้เร็วขึ้น
หากสาวๆ ยังกังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางตัวใดตัวหนึ่ง ขอให้ทดลองอย่างง่ายๆ ด้วยการดมกลิ่นก่อน โดย จอห์น ไบลีย์ รองประธานบริหารจาก Cosmetic, Toiletry and Fragrance Association (CFTA) แนะนำว่า ถ้าสังเกตเห็นสีกับความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางเปลี่ยนแปลงไป มีกลิ่นไม่เหมือนเดิม ความผิดปกติเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบอกได้ว่า สาวทั้งหลายต้องไม่ใช้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางชิ้นนั้นๆ อีกต่อไป
“หมั่นเปลี่ยนอุปกรณ์ใช้ทาผิว”
คอนนอลลี่เตือนว่าสาวใดที่ดวงตาแพ้หรือติดเชื้อง่าย ขอให้จดจำไว้เสมอต้องขยันเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้หรือเกี่ยวข้องกับดวงตาบ่อยครั้ง และยิ่งถ้าตามีอาการแย่หรือติดเชื้ออยู่ขอให้หยุดใช้ก่อน และให้สงสัยก่อนเลยว่า อุปกรณ์ที่ใช้เกี่ยวข้องกับดวงตาอาจมีเชื้อแบคทีเรียอยู่ และมีโอกาสที่จะติดเชื้อที่ดวงตาจากความไม่รู้ของตนเองได้
ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลกับคอนนอลลี่ ช่วยเตือนสาวๆ ว่าควรใช้อุปกรณ์แบบทาอย่างก้านสำลี แปรงปัดหรือฟองน้ำ แทนที่จะใช้นิ้วมือ เพื่อสดความเสี่ยงทำให้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางปนเปื้อนเชื้อโรคที่มาจากเชื้อแบคทีเรียตามผิวหนัง ซึ่ง ดร.บาวเวอร์สแนะนำให้ทำความสะอาดหรือเปลี่ยนฟองน้ำสัปดาห์ละครั้ง
“ทุกๆ ครั้งที่สาวๆ ใช้ฟองน้ำ จะทำให้เซลล์ผิวหนังตายแล้วติดอยู่ และกลายเป็นแหล่งทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโต ด้วยเหตุนี้ทำให้สาวๆ กลายเป็นสาวใบหน้าเต็มไปด้วยสิวได้ ดังนั้นควรขยันล้างทำความสะอาดแปรงปัดแก้มเดือนละครั้ง ทำความสะอาดขจัดความมันกับแบคทีเรียออกจากแปรง และใช้สบู่อ่อนหรือแชมพูเด็กทำความสะอาด” ดร.บาวเวอร์สแนะนำ
“ไม่ใช้น้ำหรือน้ำลายกับอุปกรณ์”
ผู้หญิงหลายคนชอบอาศัยน้ำลาย ทำให้อุปกรณ์เสริมสวยเปียกก่อนใช้กับผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอาง ซึ่งวิธีนี้ไม่น่าจะส่งผลเสียหรืออันตรายได้ แต่คอนนอลลี่ได้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญมาเตือนสาวๆ ว่า อย่าคิดทำและต้องไม่ทำเช่นนี้
เพราะภายในปากคนเราเต็มไปด้วยแบคทีเรียนานาชนิด ซึ่งไม่เป็นอันตรายหรือส่งผลเสียต่อปาก แต่แบคทีเรียเหล่านี้กลับไม่ดีต่อดวงตาของคนเรา ยิ่งใช้น้ำแทนน้ำลายก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น ในเมื่อน้ำสามารถทำให้สารใช้กันเสียของผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางนั้นๆ เสื่อมคุณภาพลงได้ และเป็นตัวนำเชื้อโรคหรือจุลชีพให้เติบโตอาศัยอยู่ในเครื่องสำอางได้ จนกลายเป็นสาเหตุของการอักเสบติดเชื้อผิวหนัง
?อย่าใช้ในรถยนต์?
ไบลีย์ รองประธานบริหาร CFTA กล่าวว่า เวลาที่คอนนอลลี่มองเห็นผู้หญิงทั่วไปขับรถไปด้วย และแต่งหน้าในรถยนต์ ทำให้เขาค่อนข้างกังวลใจ ด้วยความคิดอยากเตือนให้ระวังดวงตา ซึ่งเป็นอวัยวะเปราะบาง และรักษาดูแลไม่ได้ง่ายๆ ความประมาทเลินเล่ออาจทำให้สาวเผลอใช้แปรงปัดตาถูกกระจกหรือนัยน์ตาเป็นแผลถลอก
ในกรณีข้างต้นดวงตาจึงอ่อนไหวต่อการติดเชื้อขั้นรุนแรง รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียสเตฟฟีโลคอกคัส ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายแบบถาวร หรืออาจทำให้ตาบอดได้ ไบลีย์เห็นด้วยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้ยาก แต่ที่ผ่านมาอันตรายในลักษณะนี้เคยมีหรือปรากฏมาแล้ว
“ปิดฝาผลิตภัณฑ์ให้แน่น”
ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางส่วนใหญ่มีส่วนผสมของสารกันเสีย ที่ช่วยขจัดแบคทีเรียและช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ถ้าผลิตภัณฑ์นั้นเปิดทิ้งรับสภาพอากาศภายนอก ผลิตภัณฑ์จะเสี่ยงต่อการรับเชื้อโรคประเภทจุลชีพ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของสารกันเสียลดลง
การเปิดฝาบรรจุผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอาง ยังเสี่ยงต่อการเปิดรับแบคทีเรีย ซึ่งสารกันเสียที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นไม่สามารถขจัดหรือป้องกันได้ ยิ่งฝาปิดของผลิตภัณฑ์นั้นเปิดไว้นานเท่าใด ก็จะยิ่งทำให้มีเชื้อโรคมากมายหลายชนิดสามารถเข้าไปอาศัยอยู่ได้มากเท่านั้น ดังนั้นไบลีย์ย้ำว่าสาวต้องไม่ลืมที่จะปิดฝาบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ ให้แน่น
“ระวังเมื่อผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ”
ดร.บาวเวอร์สให้ข้อคิดพึงระวังนี้ว่า การให้ข้อมูลหรือระบุว่าผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางนั้นๆ ใช้ส่วนผสมเป็นธรรมชาติปราศจากสารเคมี และดีเหมาะกับสภาพผิวของสาวๆ ที่มีผิวแพ้ง่าย อาจดีสำหรับสาวที่ไม่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางที่มีสารเคมีมากเกินไป แต่ผลเสียจากข้อดีนี้มีอยู่
“สาวๆ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์เหมาะสมกับผู้หญิงที่มีผิวแพ้ง่าย บางครั้งคิดว่าตนเองปลอดภัยกว่าสาวๆ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางทั่วไป แต่ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ได้ใส่สารขจัดหรือป้องกันเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งใส่เอาไว้ในผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ทั่วไปใช้กัน” ดร.บาวเวอร์สอธิบาย
“ชำระล้างผิวสะอาดที่สุดก่อนนอน”
คอนนอลลี่ฝากคำแนะนำข้อสุดท้ายนี้ว่า ก่อนที่สาวๆ จะเข้านอน อย่าขี้เกียจหรือละเลยทำความสะอาดผิวหนัง โดยเฉพาะใบหน้าและขนตาให้สะอาดมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งความสะอาดเหมือนกับช่วยให้อวัยวะของตัวเองได้พักผ่อนเต็มที่ด้วย
หากสาวๆ ปล่อยให้มาสคาร่าติดขนตาตลอดคืน มาสคาร่าอาจแห้งและแตกเข้าตา จนกลายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคคันที่ผิวหนังรอบดวงตาและเกิดอาการตาแดงได้ ดังนั้นการเช็ดทำความสะอาดใบหน้าและส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ใช้ผลิตภัณฑ์กับเครื่องสำอางให้หมดจดก่อนนอน ต้องทำเป็นประจำให้ติดเป็นนิสัย
(หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)