ชีวประวัติ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
|ชีวประวัติ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล
หากกล่าวถึงการปฏิบัติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หนึ่งท่านที่มักจะถูกเชื้อเชิญให้เป็นผู้บรรยาย ถ่ายทอดความเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งจากประสบการณ์ในการถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจาก “ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” ผู้มีปรัชญาในการดำรงชีวิตที่น่าสนใจ คือ ทำเพราะต้องการทำ ทำเพราะเต็มใจ ทำเพราะมีความสุขที่ทำ
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2482 เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี บิดาคือ นายอารีย์ ตันติเวชกุล อดีตส.ส.นครราชสีมา 5 สมัย และอดีตรมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมารดา คือ ท่านผู้หญิงประสานสุข ตันติเวชกุล ซึ่งเป็นต้นเครื่องพระกระยาหารไทยของพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
ชีวิตสมรสของ ดร.สุเมธ ท่านสมรสกับ คุณหญิงจินตนา ตันติเวชกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีบุตรชาย 2 คน คือ นายณิชศีล และนายอรวัต ตันติเวชกุล
การศึกษาของ ดร.สุเมธ เริ่มต้นที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย จนจบมัธยม จากนั้นเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศฝรั่งเศส สำเร็จการศึกษาทั้งระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี โท และเอก ในหลายสาขา อาทิ ปรัชญา รัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยยมองเปลิเอ และมหาวิทยาลัยเกรอนอบ ยังได้รับประกาศนียบัตร การวางแผนเศรษฐกิจ สถาบันบริหารระหว่างประเทศ ปารีส ฝรั่งเศส รวมถึงประกาศนียบัตรทางการพัฒนาเศรษฐกิจ EDI ธนาคารโลก วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
เพราะโอกาสที่ได้เดินทางไปดูงานด้านการพัฒนาในหลายๆ ประเทศ ส่งผลให้ ดร.สุเมธ มีบทบาทในด้านการวางแผน วิเคราะห์นโยบายทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญมากมาย เช่น พ.ศ.2537 เป็นเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ภาระหน้าที่ของ ดร.สุเมธ ที่ยังปฏิบัติอยู่จนถึงทุกวันนี้ มีทั้ง นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานมูลนิธิไทยใสสะอาด และที่สำคัญเป็นกรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิชัยพัฒนา
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 จนถึงปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่ดร.สุเมธ ทำงานกับมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลายโอกาส สะสมความรู้จากหลักการทรงงานของพระองค์ท่าน ถ่ายทอดออกสู่ประชาชนในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะเมื่อย้อนไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนคงรู้สึกถึงสภาพบ้านเมืองที่ไม่นิ่ง หลายคนสับสน และกังวล ยึดติดอยู่กับระบบทุนนิยมจนเกินไป ดร.สุเมธ จึงได้ถ่ายทอดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หวังให้ประชาชนน้อมนำแนวพระราชดำรัสดังกล่าวจากในหลวงไปประยุกต์ใช้กับตนเองให้เหมาะสม
หลายสถาบัน องค์กร ได้เชิญดร.สุเมธ ขึ้นบรรยายให้ผู้ฟังตระหนัก เข้าใจอย่างเป็นรูปธรรม ดร.สุเมธ ยังถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจไว้ในหนังสือ 2 เล่ม คือ ใต้เบื้องพระยุคลบาท และหลักธรรม หลักทำ ตามรอยพระยุคลบาท
จากคุณประโยชน์ ที่ดร.สุเมธได้ปฏิบัติ ทำให้หลายหน่วยงาน มอบรางวัล โล่ประกาศเกียรติคุณมากมาย อาทิ ได้เป็นบุคคลตัวอย่างในความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ และจงรักภัคดี ประจำปี 2537 จากมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ทั้งยังได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์หลายระดับ