ความเครียด ฆาตกรตัวจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา

ความเครียด ฆาตกรตัวจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา

ความเครียดสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเด็ก (เครียดจากการเรียน หรือ บุคคลใกล้ชิด) และผู้ใหญ่ (เครียดจากการทำงาน ครอบครัว) ความเครียดเกิดได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจากการมองตนเองในแง่ลบ การวิตกกังวล การบ้างาน ไม่มีเวลาพักผ่อน การถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ การแก้ปัญหาไม่ตก การได้รับสิ่งที่ไม่อยากได้ การไม่ได้รับสิ่งที่อยากได้ การถูกดุด่าทุกวัน จากพ่อ แม่ ครู หรือ เจ้านาย การเป็นคนเข้มงวดเกินไป การประเมินสถานะการณ์ในแง่ลบมากเกินไป และจาก พื้นฐานความคิดและประสบการณ์ของคนๆนั้น ฯลฯ

ความเครียด ความคิดวิตกกังวล ถ้าเป็นน้อย ๆ นานๆ ครั้ง ก็พอจะเป็นประโยชน์ที่ทำให้เรามีแรงกระตุ้นทำงานให้สำเร็จ แต่ถ้ามากเกินไปและเป็นนานๆ หรือ บ่อยๆเกินไปจะมีผลต่างๆ ตามมามากมาย เช่น
1) จากการวิจัยทางสมองในต่างประเทศ หากมีความเครียดนานๆ มากเกินไปทำให้ร่างกายหลั่งสาร Cortisol ซึ่งจะมีผลต่อการทำงานของสมอง เช่น สมองจะรับรู้การเรียนรู้ช้าลง , การทำงานของสมองถูกยับยั้ง ทำลายองค์ประกอบของเซลล์สมอง เช่น ใยประสาท , จุดเชื่อมใยประสาท และเซลล์สมอง (Khalsa 1997) ทำให้เราคิดอะไรไม่ออก บางคนเป็นอาวไซด์เมอร์ และบางคนถึงกับเป็นโรคทางจิตประสาท เช่น คนเป็นบ้าตามท้องถนนมีมากขึ้นหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ลองสังเกตรอบๆตัวท่านดู
2) ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ เกิดมะเร็ง และภูมิแพ้ , ไซนัส SLE รวมทั้งเกิดผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร , ระบบไหลเวียนโลหิต , เกิดโรคความดันโลหิต , โรคหัวใจ , โรคกระเพาะ ฯลฯ

จากประสบการณ์ที่ทำหน้าที่แพทย์ มีตัวอย่าง 2-3 ตัวอย่างที่เป็นผลจากความเครียด เช่น
-แม่บ้าน จบปริญญาโทเมืองนอกไม่ได้ทำงานนอกบ้าน แต่ดูแลบุตรชาย 3 คน ด้วยความเข้มงวดเพราะอยากให้ลูกได้ดี เป็นเวลาสิบๆปี สุดท้ายเป็นมะเร็งเต้านมทั้งๆ ที่ไม่มีประวัติกรรมพันธุ์
– ครูสาวที่ดุมาก เครียดจัดและเข้มงวดกับเด็ก ดุด่า เด็กทุกวันโดยไม่มีเหตุผล สุดท้ายเป็นมะเร็งต้องฉายแสงอยู่ในขณะนี้
– นักธุรกิจหญิง เครียดจัดหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 หลังจากนั้น 3 ปี เกิดมะเร็งเต้านม ไม่มีประวัติกรรมพันธุ์เช่นกัน
– นักธุรกิจ เป็นผู้จัดการ ทำงานหนักมาก สุดท้าย สลบไป สามวัน ตื่นขึ้นมา จำอะไรไม่ได้เป็น อาวล์ ไซด์เมอร์ ไปเลย
– นักเรียน เรียนในโรงเรียนเข้มวิชาการ สอบได้คะแนนดี เรียน/ทำการบ้านหนัก นอนดึก แต่ อายุ 17ปี ตายจากโรค SLE (เราจะสังเกตได้ว่าคนเป็นโรค SLE จะนอนดึก ทำงานหนัก เช่น คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ )
จะเห็นว่าความเครียดเป็นสิ่งที่เป็นภัยกับชีวิตทุกคน และเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาถ้าเราไม่ระวังตัว เปรียบเสมือนฆาตกรที่อยู่ในตัวเรา ถ้าเราไม่ระมัดระวังก็จะทำให้เราตายได้ เป็นฆาตกรตัวจริงโดยที่เราไม่รู้ตัว และเมื่อรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว

ทำอย่างไรไม่ให้เครียด
1) เดินสายกลาง รู้จักปลงตกเมื่อทำสิ่งใดดีที่สุดแล้วไม่สำเร็จ ก็ต้องรู้จักปล่อยวาง อย่าหวังสูง
2) ต้องแบ่งเวลาให้ตัวเอง ในการพักผ่อน ออกกำลังกายทุกๆวันอย่างน้อย ½ – 1 ชม./วัน
3) นั่งสมาธิ จะทำให้สมองปลอดโปร่ง คิดอะไร ออกมากขึ้น เป็นอาหารสมอง เช่นสูดหายใจลึกๆ ช้าๆ แล้วสมองคิดตาม หรือการฝึกจิตคือการสังเกตที่หัวใจเต้นตึ๊บๆ ตลอดเวลา เอาความคิดไปจดจ่อที่หัวใจ ตอนแรก อาจใช้มือแตะที่กลางหน้าอก แถวลิ้นปี่ แล้วตั้งใจ เอาความคิด ความรู้สึก ไปที่ปลายนิ้ว จะรู้สึกว่ามีอะไรเต้นตึ๊บๆ แล้วค่อยๆ เอามือออก รายละเอียดไปฝึกฝนได้ที่ศูนย์พัฒนาจิต ที่จังหวัดพังงา หรือในกทม.โทร 02-2237223-4 01-8318522

4) มีจิตใจดี เมตตากรุณา รู้จักให้ผู้อื่น คิดในแง่ดี คิดบวก (จิตใจผ่องใสบริสุทธิ์)
5) ฟังเพลง , เล่นดนตรี เต้นรำ ทำงานอดิเรกที่ชอบ
6) ไม่เข้มงวดเกินไป ให้อะลุ้มอล่วย รู้จักยืดหยุ่น รู้จักให้อภัย
7) เรียน/ทำงาน ในสิ่งที่ตนเองชอบ
8) คิดอย่างมีเหตุผล และไตร่ตรอง ไม่วิตกกังวล ล่วงหน้ามากเกินไป
9) มีมุมมองในการแก้ปัญหาที่กว้างขึ้น คิดในหลาย ๆ แง่มุม และหลายๆด้าน
10) คิดแต่เรื่องดีๆในชีวิต ไม่คิดถึงอดีตที่มีแต่ความทุกข์
11)เอาใจเขามาใส่ใจเรา
12) พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง
13) รู้จักไว้ใจผู้อื่นในการ มอบหมายงานให้ทำ อย่าเหมาทำเองหมดเพราะไม่ไว้ใจใคร หรือกลัวว่าเขาจะทำไม่ได้ดี
14) เวลาทำงานไม่จำเป็นต้องรีบเร่งมากเกินไป
15) นอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *