ครู… ผู้วางรากฐานคุณธรรมจริยธรรม
|ครู… ผู้วางรากฐานคุณธรรมจริยธรรม |
วันที่ : 1 มิถุนายน 2550 นิตยสาร/หนังสือพิมพ์ : ปริทัศน์การศึกษาไทย |
สังคมไทยกำลังประสบปัญหาความเสื่อมโทรมด้านคุณธรรมจริยธรรมในเด็กและเยาวชน ซึ่งอาจสร้างวิกฤติให้แก่สังคมไทยได้ในอนาคต จากรายงานภาวะสังคมไตรมาส 1 ปี 2550 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานว่ามีเด็กและเยาวชนกระทำผิดเพิ่มขึ้นจาก 11,045 คดี ในไตรมาสแรกปี 2549 เป็น 11,755 คดี ในไตรมาสแรกปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 ผลการติดตามสภาวการณ์เด็กและเยาวชนปี 2548-2549 ของสถาบันรามจิตติ พบว่ามีวัยรุ่นตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาขึ้นไปดื่มแอลกอฮอล์จำนวน 4 ล้านคน หรือร้อยละ 38.33 ของประชากร ซึ่งเยาวชนที่เข้าอยู่ในสถานพินิจ มีถึงร้อยละ 34.8 ที่กระทำผิดขณะมึนเมา
ความอ่อนด้อยด้านคุณธรรมจริยธรรมในเด็กและเยาวชนนั้น เป็นสัญญาณอันตรายที่เรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหันมาให้ความสนใจ โดยเฉพาะ “ครู” ควรเข้ามีส่วนวางรากฐานคุณธรรมในเด็กและเยาวชน ผมเป็นที่ปรึกษาโครงการวิจัยเรื่อง รูปแบบการสอนที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรม เมื่อปี 2549 โดยคณะผู้วิจัยสถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา ซึ่งได้การสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ผลการวิจัยได้แสดงให้เห็นแนวทางที่ครูผู้สอนสามารถพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้แก่ผู้เรียนได้ ดังนี้ พัฒนารูปแบบการสอนที่เหมาะสมกับสภาพของผู้เรียน เนื่องจากผู้เรียนแต่ละคนมีความแตกต่างกันในด้านอายุ ระดับสติปัญญา ความสามารถในการเรียนรู้ พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ สภาพพื้นฐานครอบครัว ปัญหาคุณธรรมจริยธรรมของผู้เรียน ฯลฯ ครูผู้สอนจึงควรคิดหารูปแบบการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับผู้เรียน
เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจผู้เรียนแต่ละคน นำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดการสอน เพื่อจัดการสอนได้อย่างเฉพาะเจาะจงและสอดคล้องกับสภาพผู้เรียน หลักจากนั้นให้เลือกใช้รูปแบบการสอนให้เหมาะสมตามพัฒนาการในแต่ละช่วงวัย เช่น ผู้เรียนในวัยเด็กเล็กเน้นการสอนโดยใช้ตัวแบบหรือการให้รางวัล ผู้เรียนระดับมัธยมเน้นการสอนที่ใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม ในส่วนผู้เรียนที่มีปัญหาคุณธรรมจริยธรรมหนักกว่าผู้เรียนคนอื่น ควรเพิ่มการให้คำปรึกษา และติดตามผลถึงบ้าน นอกเหนือจากการสอนในห้องเรียน เป็นต้น ที่สำคัญควรจัดการเรียนการสอนที่นำผู้เรียนเข้าไปปฏิบัติจริง แต่อยู่ภายใต้ความเหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน เช่น นำผู้เรียนเข้าไปทำประโยชน์สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปเรียนรู้เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมผ่านงานศพคนในชุมชน การช่วยเหลือผู้ป่วย อ่านหนังสือให้คนตาบอด ดูแลผู้สูงอายุ จัดค่ายอาสา ฯลฯ ทำให้ผู้เรียนรับรู้สภาพปัญหาและความต้องการของสังคม และมีส่วนช่วยขัดเกลาจิตใจผู้เรียนให้อ่อนโยน มีเมตตา สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในรายวิชาและกิจกรรม
ครูควรสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในทุกวิชา เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจว่าคุณธรรมจริยธรรมไม่ได้แยกส่วนจากศาสตร์ด้านอื่น เริ่มจากการวิเคราะห์ในแต่ละรายวิชาว่าสามารถสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในเรื่องใดบ้าง และแม้จะเป็นรายวิชาเดียวกันก็ควรสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมให้แตกต่างตามแต่ละช่วงชั้น หลังจากนั้นให้กำหนดแผนการสอน และกระจายความรับผิดชอบให้แก่ครูในแต่ละวิชา/ในแต่ละช่วงชั้น เพื่อจัดการสอนคุณธรรมจริยธรรมอย่างต่อเนื่องและไม่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ ยังสามารถปรับกิจกรรมที่สถานศึกษามีอยู่มาหลักคุณธรรมจริยธรรมเป็นแกน เช่น กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ฯลฯ โดยพัฒนาต่อยอดกิจกรรมเหล่านี้ ให้มีส่วนพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมได้อย่างน่าสนใจ มีความร่วมสมัยสอดคล้องตามสภาพปัญหาและบริบทของชุมชนและสังคม
จัดสรรทรัพยากรจากชุมชนมาใช้ร่วมกับสถานศึกษา
เนื่องจากสถานศึกษาอาจมีทรัพยากรไม่เพียงพอ ครูควรแสวงหาความร่วมมือกับชุมชน เพื่อนำทรัพยากรจากชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเริ่มต้นจากวิเคราะห์ว่าในสถานศึกษาขาดแคลนทรัพยากรใด และต้องการทรัพยากรใดเพิ่มเติม จากนั้นวิเคราะห์ว่าชุมชนมีสิ่งใดสามารถนำมาใช้ในการสอนได้ อาทิ ปราชญ์ชาวบ้าน กลุ่มผู้ปกครองที่มีความรู้ ผู้นำศาสนา รวมถึงโครงการที่ชุมชนจัดขึ้น เช่น โครงการสำนึกรักบ้านเกิด โครงการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ฯลฯ เพื่อนำผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรม หรือนำมาใช้ในการเรียนการสอน ปรับเปลี่ยนระบบประเมินผลการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดการปรับปรุงรูปแบบการสอนคุณธรรมจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง ครูผู้สอนควรประเมินประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนคุณธรรมจริยธรรมว่าผลที่ได้รับเป็นไปตามเป้าหมายที่หรือไม่ โดยเปรียบเทียบกับทรัพยากรที่ใช้ในกระบวนการจัดการสอน อาทิ ทรัพยากรในรูปของเวลา ต้นทุนค่าสื่อการสอนหรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ปริมาณบุคลากรที่ใช้ ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม การที่ครูผู้สอนจะประสบความสำเร็จในการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้แก่ผู้เรียนได้นั้น ต้องเกิดจากการสนับสนุนของผู้บริหารสถานศึกษา ที่ต้องการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมควบคู่กับงานด้านวิชาการ ผู้บริหารจึงควรเป็นผู้ที่มีทักษะด้านบริหารจัดการ มีความสามารถในการสร้างเครือข่าย เพื่อจัดสรรทรัพยากรมาสนับสนุนการจัดการสอนและระดมทรัพยากรจากชุมชน องค์กรศาสนา ปราชญ์ชาวบ้าน หน่วยงานรัฐ–เอกชน มหาวิทยาลัย ฯลฯ และที่สำคัญ ต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรม ผมเคยกล่าวเสมอว่า สังคมใด ๆ จะยั่งยืนถาวรได้นั้น ต้องเป็นสังคมที่คนในสังคมมีคุณธรรมจริยธรรม เพราะคุณธรรมจริยธรรมเป็นเหมือนเสาต้นใหญ่ที่แข็งแรงคอยค้ำจุนสังคมไว้ หากขาดเสาต้นนี้ไปสังคมนั้นย่อมพังทลายในที่สุด ซึ่งครูผู้สอนนับเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนค้ำจุนสังคม ผ่านการปลูกฝังผู้เรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรมเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต |