การสร้างกำลังใจจากการคิดบวก

การสร้างกำลังใจจากการคิดบวก
รายละเอียด
มนุษย์นั้นเกิดมาเพื่อสร้างบารมีเพิ่มเพิ่อหลุดพ้นสังสารวัฏ คือการเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ก็ต้องชดใช้กรรมเก่าไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือ กรรมชั่ว ดังนั้นการจะสะสมบารมีเพิ่มต้องพบกับวิบากคือความทุกข์ ทุกข์กาย ทุกข์ใจ โดยทั้งสองอย่างนั้นจะอยู่คู่กับเราไปตลอดชีวิต การพบเจอกับอุปสรรค ความยากลำบาก ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ คือเรื่องปรกติของสัตว์โลกทุกชนิดที่เกิดมาบนโลกใบนี้ การจะมีชีวิตที่เป็นสุขได้นั้นต้องอยู่ด้วยความเข้าใจโลก ไม่ใช่อยู่ด้วยความข่มใจอยู่ไปวันๆ การเจอะเจอปัญหาที่ถาโถมเข้ามาเปรียบเสมือนคลื่นกระทบฝั่ง คือเมื่อมันถึงฝั่งความแรงของก็จะหายไปเองดังนั้นถ้าเรารู้ถึงปัญหาหรือต้นเหตุของปัญหาเราควรจะแก้ที่ต้นเหตุ เช่นมีปัญหาหนี้สินก็ตกลงกับเจ้าหนี้ให้เกิดความสบายใจทั้ง 2 ฝ่าย หรือปัญหาเรื่องความรักก็พูดจากับคนรักของเราให้เข้าใจว่าจะทำอย่างไรให้เราทั้ง 2 ดำเนินชีวิตคู่ไปด้วยความปรกติสุข การคิดบวกจึงเป็นการเริ่มฝึกฝนในการเผชิญกับปัญหาชีวิตซึ่งน้ำเนายิ่งกว่าละคร การเริ่มต้นคิดบวก คือคิดดี พูดดี ทำดี จึงเป็นการเริ่มต้นในการสร้างบารมี เช่นถ้าวันนี้เรามีแต่เรื่องร้ายๆ เข้ามา การคิดบวกก็สามารถคิดได้ว่า ดีแล้วละที่มีเรื่องไม่ดีเข้ามาในวันนี้ เพราะคนเรานั้นได้ชั่ว 7 ที แล้วมันต้องได้ดี 7 หน ดีแล้วละมันชั่วไปแล้ว 1 หน เหลืออีกแค่ 6 หน แล้วมันต้องดีคืนรอหน่อยเรา ถ้าคิดได้แบบนี้กำลังใจจะไม่มีวันตก ยกตัวอย่างการสำเร็จเป็นพระศาสดาขององค์พระสัมนาสัมพุทธเจ้าที่กว่าพระองค์ที่จะพบกับความสำเร็จในการตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นพระองค์ทรงหลงทางอยู่ 6 ปี แต่พระพระองค์ก็มีความเชื่อมั่นว่าพระองค์ต้องเจอหนทางในการตรัสรู้อย่างแน่นอน พระองค์ทรงหาวิธีใหม่ๆ หลังจากทดลองแล้วว่าไม่ใช่พระองค์จะข้ามวิธีนั้นและหาการพิสูจน์โดยใช้หลักธรรมชาติจนค้นพบหนทางสว่างเพื่อมาบอกพวกเราให้ปฏิบัติตามดังนั้นความสำเร็จของมนุษย์ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรมต้องผ่านอุปสรรคทั้งสิ้น ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่เสีย ความสำเร็จทุกอย่างที่ได้มานั้นต้องแลกด้วย หยาดเหงื่อ น้ำตา และหยดเลือด ทุกครั้งที่กว่าจะสำเร็จ วันนี้เราทุ่มเท ใส่ใจ ดูแล เอาจริงหรือยัง กับความสำเร็จในชีวิตที่เราทุกคนแสวงหาถ้าเรายังขาดความอดทน อดกลั้น ต่อความทุกข์แล้วละก้อบางครั้งในครังหนึ่งของชีวิตที่เกิดมา 1 ครั้งที่เราได้สัมผัสนี้ อาจจะไม่เคยสัมผัสความสำเร็จเลยก็เป็นได้ ความร่ำรวย และ ความยากยน นั้นไม่ใช่เรื่องของความสำเร็จแต่เป็นเรื่องของการสะสมบุญ และ บาป การทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา คือการสะสมบุญสร้างบารมีเพิ่มเหมือนน้ำที่หยดลงตุ่มที่ละหยดจนเต็ม ส่วนการสร้างบาปด้วยการเบียดเบียนผู้อื่นอยู่เสมอ ก็คือการสร้างทางรถไฟที่ไม่มีโอกาสจะมาบรรจบกันได้เลยจะเป็นคู่ขนานยาวไปไม่มีที่สิ้นสุดดั้งนั้นเราควรจะทำบูญหรือบาปก็แล้วแต่เราทุกท่านจะเห็นสมควร ผู้เขียนขอฝากข้อคิดทางธรรมที่องค์พระศาสดาให้ไว้บนโลกใบนี้ว่า “ธรรมโมหะเวรักขติธรรมมะจารีย์” ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรมเสมอ ขอให้ทุกท่านพบทางสว่างทั้งทางโลกและทางธรรมด้วยเทอญ

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *