Tag: พุทธทาสภิกขุ

ชาตก หรือ ชาดก แปลว่า…..

คำว่า ชาตก หรือ ชาดก แปลว่า….. พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ เป็นภาคแรกของชาดก ได้กล่าวถึงคำสอนทางพระพุทธศาสนา อันมีลักษณะเป็นนิทานสุภาษิต แต่ในตัวพระไตรปิฎกไม่มีเล่าเรื่องไว้ มีแต่คำสุภาษิต รวมทั้งคำโต้ตอบในนิทาน เรื่องละเอียดมีเล่าไว้ในอรรถกถา คือหนังสือที่แต่งขึ้นอธิบายพระไตรปิฎกอีกต่อหนึ่ง คำว่า ชาตก หรือ ชาดก แปลว่า ผู้เกิด คือเล่าถึงการที่พระพุทธเจ้าทรงเวียนว่ายตายเกิด ถือเอากำเนิดในชาติต่างๆ ได้พบปะผจญกับเหตุการณ์ดีบ้างชั่วบ้าง แต่ก็ได้พยายามทำความดีติดต่อกันมากบ้างน้อยบ้างตลอดมา จนเป็นพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย กล่าวอีกอย่างหนึ่ง จะถือว่า
Read More

รังนกกระจอก

รังนกกระจอก กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นกสี่ชนิดได้พูดคุยกันถึงรังของพวกมัน เพื่อหาข้อสรุปว่ารังของนกชนิดใดดีที่สุด นกกระจาบ มักทำรังอยู่รวม กันเป็นฝูงใหญ่บนต้นไม้ต้นเดียวกัน รังของพวกมันจึงดูยิ่งใหญ่ เพราะมีจำนวนมาก, นกพิราบ มักทำรังอาศัยตามชายคาบ้านของคน รังของพวกมันจึงแข็งแรงป้องกันภัยธรรมชาติได้ดีกว่ารังนกชนิดอื่น, นกเป็ดน้ำ มักทำรังอยู่ตามริมชายน้ำ จึงอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารต่างๆ และนกกระจอก รังของมันมีขนาดเล็กแทรกอยู่อย่างโดดเดี่ยวดูไม่ สะดุดตา นกทั้งสี่ชนิดต่างถกเถียงกันว่ารังของใครที่ดีที่สุด นกกระจาบกล่าวว่า รังของพวกมันดีที่สุด เพราะมีจำนวนมาก ยิ่งใหญ่ ดูอลังการ โอ่อ่า มองเห็นได้จากที่ไกลๆ เป็นเหมือน นคร
Read More

ปฏิบัติธรรมสี่สิบปี

ปฏิบัติธรรมสี่สิบปี พระอาจารย์ท่านหนึ่งสนใจเรื่องของศาสนาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และก็ออกบวชตั้งแต่ยังอยู่ในวัยหนุ่ม ศึกษาธรรมอยู่ระยะหนึ่ง แล้วก็ขึ้นไปสร้างกระท่อมเป็นที่พักอยู่บนภูเขาลูกหนึ่ง ยามปกติก็จะดื่มน้ำในลำธารแก้กระหาย ทุกวันฉันเพลด้วยผลไม้ เพียงมื้อเดียวเท่านั้น เป็นอย่างนี้ทุกวันจนเวลาล่วงเลยจากวันเป็นปี วันหนึ่งมีชายตัดฝืนเดินผ่านกุฏินั้น เห็นพระอาจารย์เข้า จึงถามขึ้นด้วยความแปลกใจว่า “ท่านปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?” “ประมาณสี่สิบหน้าหนาวแล้ว” “ท่านบำเพ็ญอยู่ที่นี่เพียงรูปเดียวหรือ?” “ในป่าลึกอย่างนี้ ภาวนาเพียงคนเดียวก็นับว่าเยอะแล้ว จะต้องให้มีคนเยอะๆทำไม?” “หรือว่าท่านไม่มีสหายธรรมเลยหรือ?” พระอาจารย์เลยตบมือขึ้นสามครั้ง สิ้นเสียง ก็มีเสือกลุ่มหนึ่งเดินออกมา ชายตัดฟืนเห็นแล้วก็สะดุ้งสุดตัว พระอาจารย์บอกว่าไม่ต้องกลัว แล้วสั่งให้เสือเดินออกไป พระอาจารย์พูดต่อว่า “เจ้าคงเห็นแล้วซินะ สหายข้ามีเยอะแยะ
Read More

เปรียบเทียบใหญ่เล็ก

เปรียบเทียบใหญ่เล็ก มีพระธุดงค์จากสองวัดใหญ่ในประเทศเกาหลีเมื่อธุดงค์มาเจอกัน เลยเดินทาง ไปธุดงค์ด้วยกัน เมื่อนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ต่างคนต่างพูดถึงวัดของตนเอง พระรูปหนึ่งพูดว่า “วัดที่อยู่นับว่าเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดและมีพระอาศัยอยู่มากที่สุด ในประเทศ” “พระอีกรูปหนึ่งพูดว่า “วัดที่ข้าอยู่ ทุกครั้งที่ข้าจะฉันข้าว ต้องนั่งเรือไปตักแกงจืดที่อีกฟากหนึ่งแน่ะ” พระรูปที่หนึ่งพูดต่อว่า “ พวกเราที่อยู่ในวัดเมื่อนั่งถ่ายทุกข์ ต้องคอยถึงสามนาที ถึงจะได้ยินเสียงอุจาระกระทบน้ำ” บังเอิญใต้ร่มไม้ใกล้ๆกันนั้นมีพระอีกรูปหนึ่งนั่งอยู่ พูดขึ้นมาว่า “วัดที่ข้าอยู่ถึง จะเป็นวัดที่ใหญ่จริง เพราะพระทุกรูปที่อยู่ในวัดล้วนแต่มีความว่างเปล่า พวกเจ้าทั้งสองสามารถออกไปจากความว่างเปล่านี้ได้หรือเปล่า?”
Read More

ชงชา

ชงชา ขณะที่พระศิษย์พี่รูปหนึ่งกำลังยกยามาให้พระศิษย์น้องที่นอนป่วย อยู่บนเตียง พูดขึ้นว่า “ถึงเวลากินยาแล้ว ศิษย์น้อง” ศิษย์น้องค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ ถ้าหากทิ้งเปลือก เปล่าๆนี้แล้ว พวกเรายังจะพบกันได้ที่ไหนอีก?” ศิษย์พี่ยิ้มๆแล้วพูดว่า “ที่ที่ไม่เกิดไม่ดับ แล้วแต่กรรมสัมพันธ์จะพาไป” “ท่านทำไมถึงพูดจาไม่สร้างสรรค์เลย ทำไมไม่พูดว่า ในจักรวาล นี้ทุกแห่งหนล้วนแต่มีกรรมสัมพันธ์ เมื่อทุกๆที่เราก็พบกันได้ ทำไม จะต้องมาจำกัดว่าจะต้องไปพบกันที่ๆไม่เกิดและไม่ดับ” ศิษย์พี่ได้ยินพูดอย่างนั้นแล้ว ก็ไม่พูดอะไร ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบหมวก ทำท่าจะเดินออกไป ศิษย์น้องจึงถามว่า “หยิบหมวกทำไม?” “กันลมกันฝน
Read More

หานซานกับสือเต๋อ

หานซานกับสือเต๋อ หานซานเป็นอุบาสกที่อาศัยอยู่ในวัด ไม่ได้บวช ไม่ได้ปฏิบัติธรรม ได้แต่แต่งกลอนผ่านไปวันๆ ไม่ได้สนใจแม้จะกินข้าวปลาอาหาร บางครั้งไปกินข้าวที่เหลือๆจากในครัว จึงทำให้รู้จักและสนิทสนม กับสือเต๋อซึ่งทำงานอยู่ในครัว พวกเขาพูดคุยได้ทุกเรื่อง บางครั้ง สนุกสนานจนลืมตัว พระและคนในวัดต่างก็คิดว่าสองคนนี้ ไม่ค่อยจะเต็ม วันหนึ่งขณะที่สือเต๋อกวาดลานวัดอยู่ ภิกษุชรารูปหนึ่งถามเขาว่า “ชื่อของเจ้าคือสือเต๋อ เป็นชื่อที่ท่านเจ้าอาวาสตั้งให้ แปลว่าเก็บได้ เพราะท่านเก็บเจ้ามาจากในป่า แล้วชื่อจริงของเจ้าคืออะไร?” สือเต๋อวางไม้กวาดแล้วไม่พูดอะไร แต่ในใจเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ภิกษุชราก็รู้สึกไม่ค่อยดี จึงไม่ได้ถามอะไรต่อไป แล้วก็เดินเลี่ยงไป หานซานอยู่ใกล้กับที่นั่นพอดี จึงทุบอกแล้วส่งเสียงดังว่า
Read More

พระอาจารย์กับขอทาน

พระอาจารย์กับขอทาน มีขอทานที่มีแขนเพียงข้างหนึ่ง มาขอทานที่วัดกับพระอาจารย์ท่านหนึ่ง พระอาจารย์พูดขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจและชี้ไปที่กองอิฐที่อยู่ริมกำแพงวัดว่า “เจ้าขนย้ายกองอิฐนี้ไปที่หลังวัดก่อน” ขอทานนั้นพูดขึ้นมาอย่างขัดเคืองว่า “ข้าพเจ้ามีแขนเพียงข้างเดียว จะย้าย อิฐเหล่านี้ได้อย่างไร? ไม่อยากจะให้ ก็ไม่ต้องให้ ทำไมต้องกลั่นแกล้งกันด้วย?” พระอาจารย์ไม่พูดอะไร แต่ใช้แขนข้างหนึ่งยกอิฐขึ้นมาแล้วพูดว่า “งานอย่างนี้ มีแขนข้างเดียวก็ทำได้” ขอทานนั้นจึงใช้แขนข้างเดียวนั้นยกอิฐ ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมง ถึงจะขนย้ายอิฐนั้นหมด พระอาจารย์จึงให้เงินกับขอทานนั้นไป ขอทานนั้นกล่าวขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง “ไม่ต้องมาขอบคุณข้า เงินเหล่านี้เป็นค่าแรงของเจ้า” “ข้าพเจ้าไม่มีวันลืมท่าน”พูดจบก็แสดงความคารวะอย่างจริงใจ แล้วลาจากไป ผ่านไปสักระยะหนึ่งก็มีขอทานอีกคนหนึ่งมาขอทานที่วัด
Read More

ไม่มีเวลาแก่

ไม่มีเวลาแก่ มีพระรูปหนึ่ง หลังจากที่ไปศึกษาเล่าเรียนและไปฝึกปฏิบัติธรรมตามสำนักต่างๆ ผ่านไปถึง 20 ปี ก็กลับมาอยู่กับพระอาจารย์ฝ๋อกวงตามเดิม เมื่อกลับมาถึงก็บอกเล่าทุกข์สุขและสิ่งที่ได้เล่าเรียน เพื่อที่จะให้พระอาจารย์ทดสอบ ว่าตัวเองปฏิบัติธรรมไปถึงไหนแล้ว พระอาจารย์นั่งฟังอย่างตั้งใจ ด้วยแววตาที่เต็ม ไปด้วยเมตตาจิต แล้วลูกศิษย์ก็ถามพระอาจารย์ว่า “20ปีที่ผ่านมานี้ ท่านอาจารย์ทำอะไรไปบ้าง?” “ทุกวันอาจารย์ก็สอนศิษย์ บรรยายธรรม เขียนคัมภีร์ รู้สึกถึงสิ่งดีงามของทุกวัน ทุกๆวันก็ทำแต่สิ่งที่เป็นสาระประโยชน์ และมีความสุข” “พระอาจารย์ทำอย่างนี้เหนื่อยและหนักเกินไปแล้ว ควรจะต้องนึกถึงการพักผ่อน บ้าง ดูแลร่างกายและสุขภาพ มิฉะนั้นท่านจะต้องแก่แน่ๆ” พระอาจารย์ตอบว่า
Read More

วางลงตั้งนานแล้ว

วางลงตั้งนานแล้ว พระอาจารย์และพระอีกรูปหนึ่งขณะที่เดินทางจะข้ามคลองแห่งหนึ่ง เนื่องจากช่วงนั้นเป็นหน้าฝน น้ำในคลองจึงลึกมากกว่าปกติ เห็น หญิงสาวแต่งกายด้วยผ้าไหมสวยงามคนหนึ่ง ยืนลังเลและไม่กล้า จะข้ามไป เพราะไม่แน่ใจว่าน้ำในคลองนั้นจะลึกแค่ไหน พระอาจารย์จึงอุ้มหญิงสาวนั้นข้ามน้ำไป พระอีกรูปหนึ่งเห็นสภาพนั้น แล้วรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก เก็บความอึดอัดใจไว้จนค่ำจึงพูดขึ้นว่า “พวกเราบรรพชิตไม่ควรจะเข้าใกล้หญิงสาว และยิ่งเป็นสาวแรกรุ่น และสวยงามก็จะยิ่งเป็นอันตรายมากเพิ่มขึ้นไปอีก ทำไมท่านถึง ล่วงละเมิดต่อศีลเช่นนี้?” “ เจ้าพูดถึงหญิงสาวที่ข้ามคลองคนนั้นหรือ? ข้าวางหล่อนลงตั้งนานแล้ว ทำไมเจ้าถึงยังอุ้มหล่อนอยู่อีก”
Read More

ลมพัด ธงสะบัด หรือจิตไหว

ลมพัด ธงสะบัด หรือจิตไหว ท่านเว่ยหล่างหลังจากรับตำแหน่งสังฆปรินายกองค์ที่ 6 ก็หลบหนีการแย่งชิงบาตร และจีวรจากศิษย์ร่วมสำนักไปอยู่กับพรานในป่าถึง 15 ปี จึงกลับเข้ามาในเมืองอีก วันหนึ่งขณะที่เดินผ่านวัดแห่งหนึ่ง ในวัดกำลังมีงานพิธีบูชาธง เพื่อให้เกิดความ เป็นสิริมงคล ฝนตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ พิธีนี้ต้อง จัดถึง 49 วัน ทุกๆวันนอกจากช่วงหัวรุ่งหรือช่วงบ่ายที่หยุดพักผ่อน นอกจากนั้นจะต้องสวดมนต์ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน พิธีบูชาธงเริ่มต้นจะต้องเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสา ธงนั้นเป็นรูปยาวรี ทำจากผ้าแถบ ยาวๆ สีแดง น้ำเงิน
Read More