อดนอน นอนน้อย หิวบ่อย เสี่ยงสารพัดโรค

อดนอน นอนน้อย หิวบ่อย เสี่ยงสารพัดโรค
• คุณภาพชีวิต

นอน นอน นอน นอน นอน การพักผ่อนด้วยการนอนเป็นสิ่งสำคัญ…
แต่คุณรู้ไหมว่าการนอนหลับสนิทเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด…
แต่เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คุณรู้อีกไหมว่าการนอนหลับอย่างพอดีนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่า….

นอนน้อยไป อาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ !!!
โดยปกติแล้วเราควรนอนวันละ 8-10 ชั่วโมง (ยกเว้นช่วงสอบ หรือนั่งปั่นงานที่อาจารย์สั่ง หรือบางคนที่ชอบนั่งถ่างตาดูบอล) มีรายงานวิจัยความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการอดนอนซึ่ง ศ.เจอร์เกน ซัลเลย์ นักวิจัยพฤติกรรมการนอนหลับ วิทยาลัยแพทย์รีเกนส์เบิร์ก เปิดเผยว่า การอดนอนส่งผลกระทบเลวร้ายต่อร่างกาย 2 ประการ ประการแรกทำให้โง่ เมื่อนอนน้อยจะทำให้ประสิทธิภาพการจดจำลดลง ประการต่อมาทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย เพราะการอดนอนส่งผลเสียต่อหัวใจ ระบบไหลเวียนเลือดกระเพาะและลำไส้
นอกจากนั้น ขณะที่เรานอนหลับร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนลดความอยากอาหารออกมา แต่การปล่อยฮอร์โมนดังกล่าวจะถูกขัดขวางหากเรานอนไม่เต็มที่ ดังนั้น เราจึงรู้สึกหิวบ่อย ซึ่งเป็นสาเหตุให้คนอดนอนส่วนมากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นและควบคุมยากซึ่งเกือบจะเป็นเหมือนโรคเบาหวาน อีกทั้งยังส่งผลต่อเม็ดเลือดขาวและกลไกการตอบสนองภูมิคุ้มกันต่างๆของร่างกายทำให้เจ็บป่วยง่ายเมื่อเจอเชื้อ ที่สำคัญโรคการนอนไม่พออาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ทำให้วงจรการหลั่งฮอร์โมนแปรปรวนได้อีกด้วย

ส่วนคนที่ชอบเปิดไฟนอนในตอนกลางคืนคุณรู้ไหมว่า แสงจากไฟนีออนทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ฟังดูไม่น่าเชื่อ… แต่ที่เป็นอย่างนั้นได้เพราะ เมื่อร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ มันจะไปส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้ทำงานแปรปรวนเนื่องจากการอดนอนได้เช่นกัน

หลายคนอาจจะคิดว่าการอดนอนเป็นเรื่องชิลชิล ไว้ค่อยไปนอนชดเชยเอาแล้วกัน แต่จริงๆแล้ว การอดนอนเป็นเรื่องควรใส่ใจอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคุณสาวๆ (และไม่สาวทั้งหลาย) ที่เป็นห่วงสุขภาพใบหน้าและความงาม เพราะการอดนอน จะทำให้รอบดวงตามีสีคล้ำ ใบหน้าอิดโรย ผิวหนังเหี่ยวเฉา อารมณ์ไม่แจ่มใส สมองมึนตื้อ คิดอะไรไม่ค่อยออก ซึ่งหากปล่อยให้ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยๆ ระวังแก่เร็ว ใบหน้าย่น จนเพื่อนๆ เรียก “ป้า” ได้นะค่ะ

ผลของการอดนอนไม่เพียงทำให้ความงามลดลงเท่านั้นนะค่ะ แต่… ?

ศ.เจอร์เกน ซัลเลย์ยังกล่าวอีกว่า สารอาหารบางอย่างหรือยาบางชนิดจะมีผลกระทบต่อการนอน ได้เช่นกัน อย่างคาเฟอีนที่อยู่ในชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลม ซึ่งหากดื่มมากๆ ก็จะกระตุ้นประสาททำให้นอนหลับยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กๆ คุณอาจจะไม่เคยสังเกตุเลยว่าลูกหรือเด็กๆ ในบ้าน บางคืนดึกแล้วยังไม่ยอมนอนสักที ปกติจะหลับปุ๋ยไปตั้งนานแล้ว ลองย้อนกลับไปคิดสักหน่อยสิว่า!! เด็กๆ ดื่มน้ำอัดลมในช่วงตอนเย็นหรือก่อนนอนมากไปหรือเปล่า? ส่วนยาที่ใช้บำบัดรักษาไข้หวัดบางชนิด มีส่วนผสมของสารกระตุ้นประสาทและกระตุ้นหัวใจอยู่ เมื่อทานเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการใจเต้นใจสั่น นอนไม่หลับเลย ได้เช่นกัน

ซึ่งยาเหล่านี้จะมีผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้เชื่องช้า ตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ไม่ดีเท่าที่ควร การตัดสินใจผิดพลาด ได้มีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำในแพทย์ประจำบ้าน ที่จะต้องทำงานอยู่เวรตอนกลางคืน อดหลับอดนอนเป็นประจำ โดยศึกษาจากการใช้เครื่องทดสอบการขับขี่ยานพาหนะ (simulator driving test)ในช่วงที่ทำงานไม่หนัก (ทำงาน 44 ชั่วโมงต่อสัปดาห์) เปรียบเทียบกับช่วงที่ทำงานหนัก ต้องมีการอยู่เวรถี่ และต้องอดนอนบ่อย (ทำงาน 80-90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)

นอกจากนี้จากรายงานการวิจัยของศ.เจอร์เกน ซัลเลย์ ยังพบว่าในขณะที่อาจจะได้หรือไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ ผลการทดสอบพบว่าช่วงที่ทำงานหนักอดนอนจะมีการตอบสนองที่ช้าลงกว่าช่วงที่ทำงานเบาๆ ถึงประมาณ 7% และมีความผิดพลาดของการตัดสินใจมากกว่าถึง 40% มีการขับขี่ที่ไม่อยู่ในช่องทางที่ถูกต้องมากกว่าช่วงไม่อดนอน 27% มีการขับที่ความเร็วไม่คงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลามากกว่า 71% เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงที่พักผ่อนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบช่วงที่ไม่อดนอนแต่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้ได้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดที่ความเข้มข้น 0.4-0.5 เทียบกับช่วงที่ทำงานหนักอดนอน (แต่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์) พบว่าช่วงที่อดนอนมีการขับขี่ที่ความเร็วไม่สม่ำเสมอ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สูงมากกว่าถึง 29% แต่อย่างไรก็ตามอัตราการเกิดอุบัติเหตุใกล้เคียงกัน

เห็นไหมว่าการอดนอนมีผลกระทบต่อร่างกายมากเลยที่เดียว แต่ !! อย่าเพิ่งดีใจไปว่าการอดนอนเป็นอันตรายเพียงอย่างเดียว การนอนมากไปก็อันตรายวิ่งคู่ตามมาเป็นอันดับที่สองเช่นกัน

หากต้องอดนอนมีทางแก้ดังนี้

1. กินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีและซี เพราะเวลาอดนอนระดับฮอร์โมนจากต่อมไพเนียลปั่นป่วน ทำให้เกิดความเครียดแบบลึกๆ จึงต้องแก้ด้วยวิตามินคลายเครียดประเภทบีและซีปริมาณมาก ดังนั้นในระยะนี้ต้องกินข้าวกล้อง กินผัก ผลไม้ กินน้ำผลไม้คั้นสด น้ำส้มคั้นสดๆ หากกินอาหารประเภทดังกล่าวไม่ได้ ให้ใช้วิตามินบี 100 วันละ 1 เม็ด และกินวิตามินซี 1,000 ม.ก. วันละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า

2. ถึงกลางคืนจำเป็นต้องเติมพลังงานให้กับตัวเอง เพราะส่วนอาหารที่เรากินเข้าไปจะใช้ได้ประมาณ 6 ช.ม.เท่านั้น หากกินอาหารเย็น 6 โมง ถึงเที่ยงคืนพลังงานก็หมดแล้ว จะต้องเติมอาหารที่ให้พลังงานเข้าไป ทั้งนี้ ควรเป็นอาหารที่ย่อยง่ายประเภทข้าวต้ม โจ๊ก น้ำข้าว ธัญพืช จะดีกว่าอาหารที่มีไขมันสูงอย่างนมวัว หรือเครื่องดื่มประเภทโกโก้ หรือมอลต์ เนื่องจากเวลาที่จะนอนมีน้อยอยู่แล้วไม่ควรกวนกระเพาะให้ย่อยอะไรที่ย่อยยาก เพราะจะทำให้หลับไม่สนิทดีนัก และมีอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตที่ทำให้หลับง่ายกว่า เช่น ข้าวเหนียว กล้วย หากเลือกกินยามดึกได้จะทำให้นอนเร็วกว่า

3. ควรนอนทันทีหลังจากเสร็จจากดูบอล หรือดูหนังสือ ไม่ควรเสียเวลาออกไปหาข้าวต้มรอบดึกกินนอกบ้านเพราะจะยิ่งมีเวลานอนน้อย และควรระลึกไว้ว่าน่าจะมีเวลานอนติดกันประมาณ 4 ชั่วโมง สุขภาพจึงจะไม่เสื่อมทรุดในระยะนี้ ถ้าต้องนอนตี 3 ก็แปลว่าควรจะตื่นตอน 7 โมงเช้าจึงจะดี

4.ไม่ควรแก้ง่วงด้วยการดื่มกาแฟ หรือชา เพราะกาแฟมีฤทธิ์ 6-8 ชั่วโมง หากกินกาแฟตอน 4 ทุ่มก็แปลว่าจะหลับได้เอาตอนตี 4 ซึ่งจะทำให้เวลาพักผ่อนไม่พอ หากง่วงก็ควรงีบหลับก่อนแล้วค่อยตื่นมาดูหนังสือหรือดูโทรทัศน์เอาตอนดึก

5.ตื่นเช้าหลังจากอดนอน ควรกระตุ้นตนเองให้กระปรี้กระเปร่าด้วยวิตามินดังที่ได้กล่าวแล้ว หรือจะใช้โสมกินร่วมด้วยก็ดีกว่าดื่มกาแฟ เพราะการใช้วิตามินกับโสมจะทำให้สมองปลอดโปร่งกว่ากินกาแฟ

ส่วนใครที่นอนขี้เซาฟังทางนี้……คนนอนมากอาจตายเร็ว!!!

คนขี้เซาทั้งหลายได้ฟังข่าวนี้แล้วควรรีบเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะคณะนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในซานดิเอโกได้ศึกษาพฤติกรรมการนอนของชาวอเมริกาที่มี อายุระหว่าง 30 – 102 ปี จำนวนกว่าหนึ่งล้านคน ภายในเวลา 6 ปี พบว่าคนที่ใช้ เวลานอน 8 ชั่วโมงต่อคืนมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่นอนแค่ 7 ชั่วโมง ต่อคืน ประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนที่นอนมากกว่า 8 ชั่วโมงหรือน้อยกว่าสี่ ชั่วโมงครึ่งต่อคืนยิ่งมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตเร็วสูงขึ้นเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว นั่นหมายความว่านอนมาก ๆ ไม่ดี หรือนอนน้อยเกินไปก็ไม่ดี เช่นกัน

คณะนักวิจัยรายเดิมพบว่าชั่วโมงที่ยาวนานเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง รวมทั้งโรคหัวใจและโรคลมใน ปัจจุบันด้วย จนเกิดข้อสงสัยที่ทำให้ต้องศึกษากันต่อไปว่า การนอนนาน ๆ จะเป็น ความสุขระยะสั้นที่อันตรายต่อมนุษย์เราเหมือนอย่างการดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ หรือเปล่า

การนอนมากหรือนอนน้อยไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพเราฉะนั้นแล้วการนอนอย่างพอดีและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเพียงแค่นี้โรคต่างๆก็วิ่งหนีหายไปจากตัวเราแล้ว ไชโยโรคไปแล้ว……

เรื่องโดย: นางสาว มณีรัตณ แช่มมณี Team Content www.thaihealth.or.th

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *