ห่านง่อย

ห่านง่อย
โลกในมุมมองของ Value Investor ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กรุงเทพธุรกิจ วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2550
ในภาวะที่การเมืองมีการเปลี่ยนแปลง และส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ และแน่นอน ตลาดหุ้น ผมมักจะนึกถึงนิยายเรื่อง Animal Farm ที่ผมต้องเรียนในชั้นมัธยม แต่ “อาณาจักรสัตว์” ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ผมแต่งเองโดยอิงเค้าโครงเรื่องเดิมที่แต่งโดย George Orwell
อาณาจักรสัตว์ที่มีกลุ่มหมูปกครองในช่วงต้น หลังจากการถล่มของฟาร์มครั้งใหญ่ เนื่องจากพายุร้ายแรง ที่เกือบจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในอาณาจักรนั้น มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอันมาก ส่วนหนึ่งของความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นมาจากการที่ฝนฟ้าตกอย่างทั่วถึง ทำให้ฟาร์มมีอาหารอย่างเหลือเฟือ อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ โลกภายนอก โดยเฉพาะมหฟาร์ม ทางตอนเหนือ มีความต้องการสินค้ามากขึ้นมาก ทำให้อาณาจักรสามารถขายสินค้าออกไปได้มากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่สิ่งที่หมูป่าวประกาศตลอดเวลาก็คือ ความเจริญรุ่งเรืองทั้งหมดนั้น หมูเป็นผู้ที่ทำให้เกิดขึ้น
หมูยังค้นพบว่าในฟาร์มที่สัตว์ทั้งหลายคิดว่าถูกทำลายจากพายุร้ายหมดสิ้นนั้น ยังมียุ้งที่ยังมีอาหารเหลืออยู่จำนวนมาก ดังนั้น หมูจึงนำอาหารออกมาแจกจ่ายให้แก่สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเป็ด ไก่ ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของฟาร์ม ยังผลให้หมูเป็นที่รัก และนับถือในความเอื้ออาทรเป็นอันมาก
นอกจากเป็ด และไก่ที่เป็นสัตว์เล็กหากินติดอยู่กับดินแล้ว วัวซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่ก็รู้สึกพอใจกับความเฟื่องฟูของฟาร์มมาก เพราะสัตว์ตัวน้อยต่างก็ช่วยกันถ่ายมูล และเกลี่ยดินทำให้หญ้าขึ้นงดงามเป็นอาหารที่โอชะของวัว แต่ผู้ที่ดูเหมือนจะมีความสุขมากที่สุดก็คือ ห่าน ค่าที่ว่ามันเป็นห่านที่ออกไข่เป็นทองคำ ดังนั้น ห่านจึงเป็นสัตว์ที่หมู ดูจะให้ความเอาใจใส่เป็นพิเศษ และทุกครั้งที่ห่านมีปัญหาเจ็บไข้ หมูจะต้องมาดูแลปลอบประโลม หมูรู้ว่า ห่านนั้น ถึงจะดูเหมือนว่าไม่ได้ทำงานอะไรแต่มันออกไข่เป็นทองคำ ซึ่งสามารถเอาไปแลกเปลี่ยนสินค้าที่ต้องการจากอาณาจักรอื่นได้
หมูเป็นสัตว์ที่ไม่มีเขี้ยวเล็บแต่มันฉลาดมาก ดังนั้น เพื่อที่จะรวบอำนาจในการปกครองสัตว์อื่น มันจึงจัดวางตำแหน่งหน้าที่ ที่สำคัญให้เฉพาะกับสัตว์ที่มันสามารถสั่งการชี้นำได้อย่างไม่มีข้อแม้ นอกจากนั้น มันยังสั่งนายกองเสบียง ให้ลดจำนวนอาหารให้แก่สัตว์ที่บังอาจวิจารณ์กลุ่มหมูที่เป็นผู้ปกครองด้วย ทั้งหมดนี้ ประกอบกับความนิยมที่ได้รับจากเหล่าเป็ดไก่ ที่ได้รับอาหารปันส่วนอยู่เรื่อยๆ ทำให้หมูมีอำนาจมาก อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ของฟาร์มสัตว์แห่งนี้
อำนาจที่เด็ดขาด และขาดการทัดทานทำให้หมูลำพอง มันเริ่มที่จะใช้อภิสิทธิ์ทั้งหลายอย่างเปิดเผย มันเบียดบังอาหารจากฟาร์มอย่างไม่กระดากใจ ที่ร้ายแรงมากก็คือ มันลอบเก็บไข่ทองคำที่ผลิตโดยห่าน ที่เป็นประชากรกลุ่มเล็กๆ เอามาเป็นของตนเอง ความตะกละตะกลามของกลุ่มหมูเป็นเรื่องที่กล่าวขวัญกันทั่วไป แต่หมูกลับป่าวประกาศสั่งสอนสัตว์ทั้งหลายว่า การกินการใช้อย่างฟุ่มเฟือยอย่างหมูนั้น จะทำให้ทุกคนมีความสุข และมั่งคั่งขึ้น
ถึงตอนนี้ สัตว์ทั้งหลาย ยกเว้นก็เฉพาะเป็ด และไก่ต่างก็ทนไม่ได้ จึงออกมาเรียกร้องให้หมูออกจากตำแหน่ง แน่นอน หมูไม่ยอม แต่ในที่สุด หมี ซึ่งเป็นสัตว์ที่มักจะเก็บตัวอยู่ริมรั้ว มองดูแล้วเห็นว่า หากปล่อยให้สัตว์อื่นๆ ทะเลาะกับหมูไปเรื่อยๆ อาณาจักรคงต้องล่มสลาย จึงเข้ามาไล่หมูออกจากอำนาจ และเข้ามาปกครองแทน
หมีนั้น เป็นสัตว์ที่ดุ มีเขี้ยวเล็บที่น่าเกรงขาม ซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา แต่หมีไม่ใคร่ได้ติดต่อกับโลกภายนอก และก็ไม่ค่อยจะเข้าใจการทำงานของสัตว์ต่างๆ ในฟาร์มมากนัก สิ่งที่มันตั้งใจจะทำก็คือ การป้องกันหมูไม่ให้กลับมามีอำนาจอีก และขจัดความชั่วร้ายที่พวกหมูทำไว้ สัตว์ที่หมีไม่ชอบ และไม่ไว้วางใจเนื่องจากมันดูเหมือนว่าจะเป็นพรรคพวก หรือร่วมอุดมการณ์กับหมูก็คือห่าน และสัตว์จากฟาร์มอื่นที่เข้ามาอิงอาศัยหากินอยู่ในฟาร์ม
ดังนั้น หมีจึงออกกฎระเบียบต่างๆ ที่จะจำกัดไม่ให้พวกมันสามารถหาอาหารกินได้สะดวก เพราะหมีคิดว่าสัตว์ทั้งสองกลุ่มนั้นสมคบกับหมู และมักจะเอาเปรียบสัตว์อื่นๆ เฉพาะอย่างยิ่งนั้นก็คือ ห่านซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยได้ทำงาน ตื่นเช้าหลังออกไข่แล้วก็เอาแต่เดินเล่น และชอบส่งเสียงอื้ออึงอยู่ทุกวัน
ตั้งแต่หมีเข้ามาปกครอง ห่านก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก วันแรกที่หมีเข้ามานั้น เสียงมันดังอึกทึกโกลาหลทำให้ห่านตกใจเป็นไข้ไปหลายวัน ต่อมา หมีสั่งกักบริเวณห่านที่มาจากฟาร์มอื่น เพราะคิดว่าห่านเหล่านั้น จะนำเชื้อโรคมาปล่อย แต่กระบวนการที่หมีใช้กรงเล็บไล่ตะปบห่านซึ่งบอบบางกว่ามากนั้น ทำให้ขาห่านข้างหนึ่งหักและยังไม่ทันที่จะหาย ห่านก็ถูกมะพร้าวที่หมูโยนเข้ามาในฟาร์ม เพื่อหวังจะทำร้ายหมีทำให้ปีกข้างหนึ่งของห่านบาดเจ็บ
ครั้งสุดท้ายที่ทำให้ห่านกลายเป็นง่อยก็คือ เมื่อหมีตัดสินใจจัดการกับสัตว์ที่ปลอมแปลงเข้ามาในฟาร์มทุกชนิด ซึ่งในฝูงห่านเองก็มีห่านที่ปลอมแปลงเข้ามาปะปนอยู่ ทุกครั้งที่ห่านเจ็บ ห่านร้องเสียงดังเพื่อขอให้หมีเห็นใจ ห่านพยายามจะบอกว่า ห่านนั้น ออกไข่ทองคำให้ฟาร์มเอาไปใช้แลกสินค้าและอาหารมากมาย ห่านไม่เคยกินแรงสัตว์อื่น แต่หมีก็มักจะพูดว่า ห่านคงไม่ได้เจ็บอะไรอย่าไปห่วงอะไรกับห่านมากนัก ที่จริงหมีคิดว่าห่านนั้นมีจำนวนเพียงน้อยนิด จะทำอย่างไรกับห่านก็คงไม่มีผลกระทบกับการปกครองของหมี ถึงอย่างไรเสีย ห่านก็ยังคงต้องไข่ออกมาเป็นทองคำให้กับฟาร์มอยู่ดี เพราะรั้วของฟาร์มนั้นยังแข็งแรง ห่านไม่มีทางหนีไปไหนได้
ในยามนี้ ห่านง่อยต้องนอนซมอยู่ในเล้า และก็หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีผู้ปกครองที่เข้าใจและเห็นใจ ไม่ต้องยกย่อ งหรือให้เกียรติในฐานะที่เป็นผู้ผลิตไข่ทองคำให้กับฟาร์ม ขอเพียงให้ห่านได้อยู่ในฟาร์มตามประสาห่านก็เพียงพอแล้ว อย่ามายุ่งกับห่านอีกเลย

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *