หายใจขัด-แน่นหน้าอกฉับพลันอย่านอนใจ
หายใจขัด-แน่นหน้าอกฉับพลันอย่านอนใจ
• คุณภาพชีวิต
อาการชี้! หลอดเลือดหัวใจตีบเกินควรแล้ว
เพิ่มโอกาสรอดชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายที่มีสาเหตุจากโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันได้ แพทย์ด้านโรคหัวใจโรงพยาบาลรามคำแหง ห่วงผู้ป่วยที่ยังใจเย็น เพราะไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดเหตุน่าห่วงขึ้นกับตัวเองแล้ว หากไปเข้ารับการขยายหลอดเลือดหัวใจไม่ทันก็มีสิทธิ์หยุดหายใจหลังเกิดเหตุไม่นาน
รายงานข่าวจากศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลรามคำแหง เปิดเผยถึงภาวะของผู้ป่วยโรคหัวใจที่ถูกส่งมาเข้ารับการรักษาฉุกเฉินด้วยอาการเจ็บแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออกเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ แต่ที่พบบ่อยและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตมักมาจากการณ์มีไขมันเข้าไปอุดตันมากเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเจ็บแน่นหน้าอก เจ็บร้าวเหมือนมีอะไรมาบีบรัดกดทับหายใจไม่ออก จุกคอ หน้าซีด เหงื่อแตก ตัวเย็น อาการแน่นอาจร้าวขึ้นไปที่กรามและแขนซ้ายด้านใน ซึ่งเมื่อใดที่รุนแรงถึงขั้นนอนราบไม่ได้ ทำอะไรไม่ไหวก็ควรรีบ นำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีโดยเร็วที่สุด เนื่องจากผู้ป่วยอาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวายเฉียบพลันและเสียชีวิต หากปล่อยเวลาให้ล่ว
นานไปจนแก้ไขไม่ทัน
นพ.เอกรัชย์ ศิริคะรินทร์ อายุรแพทย์ด้านโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามคำแหง เปิดเผยว่าอาการเจ็บแน่นหน้าอกส่วนใหญ่จะมีต้นเหตุจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ รวมทั้งโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรงและภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดอันตรายก็ยังมีภาวะการอุดตันหลอดเลือดทึ่ไปเลี้ยงที่ปอดและหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดอีกด้วย
“เมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเกิดขึ้น โดยทั่วไปให้รีบนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้โดยเร็วที่สุดก่อนนะครับ โดยเมื่อมาถึงห้องฉุกเฉิน เราก็จะต้องเช็คเบื้องต้นเรื่องของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจเอ็กเรย์ปอดและการตรวจเลือดก็สามารถที่จะวินิจฉัยแยกโรคได้ว่าเกิดจากหัวใจหรือว่าสาเหตุอื่น แต่ถ้ายังสงสัยก็ต้องทำการตรวจเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนของโรคหัวใจนี้จะเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการตรวจหัวใจที่เรียกว่า เอ็กโค่คาร์ดิโอแกรมนะครับ นอกจากนั้นถ้าจะตรวจเรื่องของเส้นเลือดหัวใจ ก็จะใช้เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง ซึ่งช่วยให้เห็นความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจได้อย่างชัดเจนในเวลาอันรวดเร็วครับ” นพ.เอกรัชย์ กล่าว
ทั้งนี้หากตรวจพบความผิดปกติแล้ว อายุรแพทย์ด้านโรคหัวใจจะส่งตัวผู้ป่วยเข้าห้องปฏิบัติการสวนหัวใจ (CATH LAB) เพื่อทำการฉีดสารทึบรังสีดูตำแหน่งที่อุดตันภายในหลอดเลือดหัวใจพร้อมกับการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและการใส่ขดลวด อันจะเป็นการป้องกันโอกาสที่จะกลับมาตีบซ้ำอย่างได้ผล
ในตอนท้าย นพ.เอกรัชย์ ศิริคะรินทร์ อายุรแพทย์ด้านโรคหัวใจ โรงพยาบาลรามคำแหง กล่าวเพิ่มเติมว่า “ขดลวดนี้จะเป็นโลหะชนิดหนึ่ง มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบที่เคลือบยากับแบบที่ไม่เคลือบยา ซึ่งปัจจุบันไดนำขดลวดเคลือบยามาใช้ในการขยายหลอดเลือดหัวใจให้กับผู้ป่วยก็จะทำให้ฮดกาสการตีบซ้ำลดน้อยลงได้มากนะครับ แต่ต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยด้วยนะครับ ทั้งนี้สำหรับใครที่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกแบบเป็นๆ หายๆ บางครั้งเป็นตอนออกกำลัง อันนี้ก็ให้สงสัยว่าควรเข้ารับการตรวจด้านโรคหัวใจด้วยนะครับ เพื่อจะได้วินิจฉัยและทำการรักษาแต่เนิ่นๆ ครับ”
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ