สุขภาพ : ลูกนอนกรน…อันตราย!!
สุขภาพ : ลูกนอนกรน…อันตราย!!
เสียงกรนเป็นเสียงที่เกิดช่วงหายใจเข้าขณะนอนหลับ ในเด็กปกติขณะหลับ ทางเดินหายใจส่วนบนจะตีบแคบลงกว่าขณะตื่น และลิ้นทำให้เกิดเสียงกรนแต่ยังมีภาวะการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ปกติจึงไม่เกิดปัญหา แต่ในเด็กบางรายที่นอนกรนร่วมกับมีภาวะพร่องออกซิเจนและมีคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง มีคุณภาพของการนอนหลับผิดปกติไปเราเรียกว่ามีภาวะทางเดินหายใจอุดกั้นขณะหลับ หรือ Obstructive sleep Apnea (OSA)
ภาวะแทรกซ้อนในเด็กที่เป็น OSA เช่น ปัญหาสมองและพฤติกรรม เรียนตกต่ำ ซุกซนผิดปกติ สมาธิสั้น ความดันโลหิตสูง และหัวใจซีกขวาวายได้
สาเหตุ
– ต่อมทอมซิลและอะดินอยต์โต ซึ่งพบได้บ่อยโดยเฉพาะในเด็กวัยก่อนเรียนหรือวัยอนุบาล ซึ่งเป็นวัยที่ระบบน้ำเหลืองมีการเจริญเติบโตมากกว่าวัยอื่น
– เด็กอ้วน เนื่องจากมีไขมันสะสมมากขึ้น บริเวณช่องคอ ผนังรอบลำคอและทรวงอก
– ความผิดปกติของรูปหน้าและกะโหลกศีรษะกลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม
– ความผิดปกติของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง
– ภูมิแพ้จมูก จากมีการบวมของโพรงจมูก
– การติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบน
– การได้รับควันบุหรี่มือสอง (Passive smoking)
อาการ
– หายใจลำบาก อ้าปากหายใจ
– กระสับกระส่าย ตื่นบ่อย
– เขียว หยุดหายใจ
– ปัสสาวะรดที่นอน
– ง่วงนอนหรือนั่งสัปหงกในเวลากลางวัน
– ปวดศีรษะตอนเช้า
– การเรียนตกต่ำ สมาธิสั้น
– ปัญหาด้านพฤติกรรม ซุกซนผิดปกติ
– มีความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
– เหนื่อยง่ายผิดปกติ
การรักษา
การรักษาภาวะดังกล่าวขึ้นกับสาเหตุของโรคในแต่ละราย ในเบื้องต้นแพทย์จะรักษาทางยาในโรคที่สามารถรักษาได้ก่อน เช่น การให้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูกหรือยารับประทาน ในเด็กที่มีภูมิแพ้จมูกร่วมด้วย เพื่อลดการบวมของเยื่อบุทางเดินหายใจและจมูก การให้ยาด้านจุลชีพในรายที่มีการอักเสบติดเชื้อของช่องคอและจมูก รวมถึงการลดน้ำหนักในเด็กที่อ้วน เป็นต้น
ในรายที่มีต่อมทอมซิลและอะดินอยด์โตร่วมด้วยและเป็นสาเหตุของภาวะ OSA แพทย์จะผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดินอยด์ออก (Adenotonsillectomy) ซึ่งพบว่าอาการดีขึ้นหลังการผ่าตัดถึงร้อยละ 75 – 100 สำหรับรายที่รูปหน้าและกะโหลกศีรษะผิดปกติ อาจรักษาโดยส่งปรึกษาแพทย์ทางศัลยกรรมตกแต่งหรือแพทย์ศัลยกรรมประสาทเพื่อผ่าตัดรักษาต่อไป
ในผู้ป่วยบางราย เช่น เด็กอ้วนที่ยังไม่สามารถลดน้ำหนักได้ปกติ รายที่ไม่สามารถผ่าตัดแก้ไขได้ หรือผ่าตัดต่อมทอนซิลและอะดินอยด์แล้วยังมีภาวะ OSA อยู่อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจชนิดให้ความดันบวกผ่านทางหน้ากาก continuous positive air way pressure หรือ CPAP
ข้อควรทราบที่สำคัญ
เด็กที่เป็น OSA อาจมีสาเหตุจากหลายปัจจัยร่วมกันได้ ดังนั้นต้องให้การดูแลรักษาให้ครอบคลุมจึงจะได้ผลการักษาที่ดี เช่น ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ตลอดจนควันบุหรี่ด้วย
หากบุตรหลานของท่านนอนกรนและมีอาการสงสัยภาวะดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัย และการดูแลรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม ก่อนที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายและรุนแรงตามมา คลินิกระบบหายใจเด็ก
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก