มองโลกแบบวิกรม – “ชีวิตเด็กชนบท”

มองโลกแบบวิกรม – “ชีวิตเด็กชนบท”
คมชัดลึก :ท่านผู้อ่านจำนวนหนึ่งคงทราบดีจากหนังสือ “ผมจะเป็นคนดี” ของผมว่าผมเกิดมาเป็นลูกชายคนโตของพ่อแม่ เป็นหลานชายที่ปู่กับย่ารักมาก เพราะปู่กับย่ารักพ่อของผมมาก ตามธรรมเนียมจีน (พ่อผมเป็นลูกชายคนสุดท้อง) ทุกๆ คนในครอบครัวประคบประหงมผมอย่างดี พี่เลี้ยงคนแรกของครอบครัวเล่าให้ผมฟังว่า ยามที่ปู่ ย่าว่างๆ มักแวะเวียนเดินมาดูว่า ผมกินอิ่ม นอนอุ่น เปลี่ยนผ้าอ้อมหรือยัง มีความสุขกายสบายใจดีหรือเปล่าตลอดเวลา เรียกว่ายุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลยทีเดียว
แม่เล่าให้ฟังว่า ผมเป็นเด็กกินเก่ง กินนมแม่มาตั้งแต่เกิด กินจนแม่ผลิตน้ำนมให้ไม่ทัน แถมยังร้องจะกินต่ออีกให้ได้ สุดท้ายแม่ต้องไปซื้อนมผงยี่ห้อดังมาชงให้กินเพิ่มอีก จึงไม่แปลกใจที่ผมรู้สึกถึงสัมผัสจากอกอุ่นๆ ของแม่เสมอๆ การกินนมแม่ทำให้ได้ใกล้ชิดกัน ผมรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เป็นภาษากายแห่งความผูกพันที่ลึกซึ้ง สวยงาม แม่เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของผมตั้งแต่เกิด ตอนเด็กๆ ไม่ว่าแม่จะไปไหน ผมเป็นเงาคอยติดตามไม่ห่างกายและตักของแม่เหมือนสนามเด็กเล่นอย่างดี หลังของแม่เหมือนต้นไม้ใหญ่เอาไว้ให้พักพิง ให้ร่มเงา ผมสามารถปีนป่ายหรือเกาะนอนได้ในยามค่ำคืน
ในวัยเด็กเมื่อสมัย 50 กว่าปีที่แล้วไม่ต้องพูดถึงหลักโภชนาการมากนัก มีอะไรให้กินก็กินกันให้อิ่มตามมีตามเกิด ไม่ได้มีการศึกษาหาความรู้ด้านอาหารดังเช่นปัจจุบัน ไม่มีความรู้เรื่องโปรตีน วิตามินใดๆ ขอให้กินอิ่มนอนหลับเป็นอันใช้ได้ ผมจึงเป็นเด็กค่อนข้างแกร็นหากเทียบกับเด็กอายุเท่ากันที่เติบโตในสมัยนี้ แถมแม่ยังบ่นให้ฟังอยู่เสมอๆ หากผมกินกับข้าวมากกว่าข้าว เพราะจะเป็นตาลขโมย อาหารหลักจึงเป็นคาร์โบไฮเดรตจากข้าวนั่นเอง
การกินข้าวมากๆ ช่วยให้การใช้แรงทำงานของผมราบรื่นเมื่อเติบโตขึ้นตามวัย แต่อีกด้านที่มาด้วยกันแม้จะไม่ค่อยดีนักคือ พุงโต และผอม ไม่ค่อยสูงตามมาตรฐานของเด็กอายุเท่าๆ กัน ที่จริงจะว่าไปแล้วการที่เด็กต้องทำงานนั้นคงไม่แปลกอะไร แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องอาหารการกินต้องอุดมสมบูรณ์ ครบทุกหมวดหมู่ ก็จะช่วยทำให้เด็กเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ มีสมองที่ดี ความสูงได้มาตรฐานสากล
ผมมองว่าวันนี้เด็กไทยเรายังเตี้ยกว่ามาตรฐานมาก ในขณะที่คนไทยทั้งประเทศมักพูดกันอยู่เสมอว่าไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่เรากลับมีเด็กที่ขาดสารอาหารอยู่เต็มไปหมดเพราะคนไทยขั้นพื้นฐานไม่มีความรู้เรื่องการกินอยู่อย่างมีคุณภาพเท่าใดนัก ขอให้กินอิ่มนอนหลับเป็นใช้ได้ คนไทยจึงมีรูปร่างสูงไม่ได้มาตรฐาน นับว่าเป็นเรื่องตลกเอาการที่มีคนเรียกประเทศไทยว่า “ครัวของโลก”
ผมขอยกตัวอย่างจากครอบครัวของผมเอง หากดูจากฐานะภายนอกแล้วใครๆ คงคิดว่าครอบครัวผมร่ำรวย มีฐานะดี ติดระดับเศรษฐีแนวหน้าของเมืองกาญจน์ แต่ความรู้ความเข้าใจของพ่อแม่ด้านโภชนาการกลับไม่ค่อยมี แถมยังกลัวลูกเป็นตาลขโมยเสียอีก จึงบังคับให้กินแต่ข้าว แตกต่างกับลูกๆ ฝรั่งยุโรปหรืออเมริกันที่มีหลักการในด้านโภชนาการที่ถูกต้อง กินแต่อาหารที่มีคุณประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของเด็กตามช่วงอายุต่างๆ ทำให้เด็กฝรั่งมีร่างกายสูงใหญ่ แข็งแรงมีสมองที่ดี
ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่สำคัญของรัฐที่จะต้องเร่งให้ความรู้ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการโภชนาการให้แก่คนที่เป็นพ่อแม่คนไทยมีความรู้ เพื่อให้เลี้ยงดูลูกอย่างถูกต้อง อันจะเป็นผลให้ประชากรมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่างกายสูงใหญ่ มีมันสมองที่ดี ตามมาตรฐานสากล ผมเห็นเด็กเอเชียที่เกิดหรือเติบโตในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปในครอบครัวฐานะปานกลาง มักจะมีสุขภาพแข็งแรง สูงใหญ่ดี ทั้งนี้เป็นเพราะบริโภคถูกหลักนั่นเอง
วันนี้ประเทศต่างๆ ในเอเชียรวมทั้งประเทศไทยเรา มีเศรษฐกิจที่ดี มีความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารการกิน และที่สำคัญ เงินสดกว่าครึ่งของโลกอยู่ในเอเชีย วิกฤติโลกปี 2552 นี้ยิ่งทำให้สัดส่วนของเงินสดในโลกอยู่ในเอเชียมากขึ้นกว่าแต่เดิม เราไม่ได้จนเช่นในอดีตอีกแล้ว เรื่องสุขภาพของเด็กเอเชียในอนาคตจึงขึ้นอยู่กับความใส่ใจของพ่อแม่ผู้ปกครอง หากเราสามารถปรับตัวให้ได้อย่างฝรั่ง เราจะมีเยาวชนที่มีคุณภาพ มีสุขภาพดีได้อย่างแน่นอน

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *