ปรับพฤติกรรมเสี่ยง เลี่ยง โรคตับ

ปรับพฤติกรรมเสี่ยง เลี่ยง โรคตับ
• คุณภาพชีวิต
หากร่างกายส่งสัญญาณเตือน พบแพทย์ ด่วน!!!

เพียงแค่หมั่นดูแลตนเองและสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายก็ถือเป็นการรักษาสุขภาพแบบสามัญ และหากจะกล่าวให้เกี่ยว ‘สามัญประจำบ้าน’ วันนี้คงต้องบอกถึงการดูแล ‘ตับ’ ที่คุณผู้อ่านต้องระวังอย่าปล่อยให้ตัวเองมีอาการอ่อนเพลียง่าย มีไข้โดยไม่ทราบสาเหตุ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระเป็นสีเทา และภาวะตัวเหลือง หากปรากฎอาการดังกล่าวและยังไม่หาย แสดงว่าร่างกายส่งสัญญาณเตือนว่า ตับมีปัญหา ต้องรีบพบแพทย์ตรวจหาความผิดปกติโดยด่วน

ถ้าโชคยังดีไม่มีความเสี่ยงข้างต้น ก็อย่าละเลยดูแลสุขภาพตับ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำร้ายตับ อย่างผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ ควรควบคุมโดยดื่มไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน แต่ถ้าเลิกได้อย่างถาวรจะดีที่สุด และที่สำคัญอย่ารับประทานยาร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผู้ใดที่ชอบซื้อยามารับประทานเองนั่นก็ควรเลิกเสีย แม้การเจ็บป่วยเล็กน้อยก็ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรณ์ เพราะการรับประทานยาที่ไม่เหมาะสมต่อเนื่องกันเป็นเวลานานจะส่งผลร้ายต่อตับ ตับจะทำงานหนัก

ใครจำเป็นจะต้องรับการบำบัดรักษาอาการอื่น ๆ ด้วยวิธีฝังเข็ม ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่า เข็มที่ใช้ผ่านการฆ่าเชื้อตามมาตรฐานมาแล้วหรือยัง

อีกทางลดความเสี่ยงด้วยวัคซีนเพื่อสร้างภูมิต้านทานตับอักเสบเอและบี ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งกับกลุ่มคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เพราะหากป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบบีรวมทั้งชนิดซี ก็จะมีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งตับได้ในอนาคต นอกจากการรับวัคซีน ยังต้องมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ส่วนคุณผู้หญิงที่มีเคยเป็นตับอักเสบต้องเลี่ยงการใช้ยาคุมกำเนิด

ด้านอาหารการกิน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดิบ ปรุงไม่สุก ไม่สะอาด ควรรับประทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมเป็นประโยชน์ต่อตับบ้าง เช่น วิตามินบีรวม โคเอนไซม์ คิว10 วิตามินอี กลูตาไทโอน เซเลเนียม โดยเฉพาะวิตามินเอ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการกำหนดปริมาณ เพราะถ้ามากหรือน้อยเกินไป ก็จะไม่ให้ประโยชน์ต่อตับ.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *