ธุรกิจหอพัก คืนทุนช้าแต่กำไรงาม

บทความ : ธุรกิจหอพัก คืนทุนช้าแต่กำไรงาม
การเจริญเติบโตของธุรกิจ ส่งผลต่อการขยายงานขององค์กรต่าง ๆ และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้พัฒนาและผลิตบุคลากรเพื่อป้อนตลาดแรงงาน กระบวนการดังกล่าวเป็นสงจรของกระบวนการทำงานในปัจจุบัน ทำให้ส่งผลต่อธุรกิจต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและจากตัวเลขการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานต่าง ๆ ทำให้มองเห็นช่องทางในการสร้างรายได้อีกหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอาหาร ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจเสื้อผ้า และที่เราไม่สามารถมองข้ามไปได้ คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ในขณะนี้มีการแข่งขันอย่างดุเดือด และมีธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ที่ในขณะนี้มีการแข่งขันอย่างดุเดือด และมีธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อีกประเภทคือ ธุรกิจเกี่ยวกับทำหอพักหรืออพาร์ตเมนต์ให้เช่า ซึ่งถือเป็นช่องทางหนึ่งที่สร้างกำไรให้กับเจ้าของธุรกิจดังกล่าวเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าการทำธุรกิจดังกล่าวจะมีระยะเวลาในการคืนทุนข้ากว่าธุรกิจอื่น ๆ แต่ก็เป็นธุรกิจที่เรามักเรียกกันว่า “เสือนอนกิน”

ดังนั้น บริษัท นาโน เซิร์ช จำกัด จึงได้ทำการศึกษาพฤติกรรมในการเลือกที่พักอาศัยดังกล่าวโดยศึกษากับกลุ่มตัวอย่างในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 200 ตัวอย่าง ในบริเวณที่มีที่พักอาศัย เช่นหอพัก อพาร์ตเมนต์หนาแน่น ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้จำกัดเฉพาะที่พักอาศัยที่ต้องจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือนและเป็นห้องพัก

จากผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง โดยส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ร้อยละ 42.0 และเป็นเพศหญิง ร้อยละ 58.0 สำหรับกลุ่มที่ศึกษานั้นต้องการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มคน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักเรียน / นักศึกษา และกลุ่มคนทำงาน ดังนั้นช่วงอายุเป็น 2 ช่วงอายุ คือ อายุ 18-22 ปี ร้อยละ 48.0 และอายุมากกว่า 22 ปี ร้อยละ 52.0

ในการคิดทำธุรกิจหอพักนั้นสิ่งที่ต้องคิด คือ การจัดให้มีเฟอร์นิเจอร์ใดบ้างในห้องแต่ละห้อง ซึ่งหากสอบถามจากความคิดเห็นของผู้บริโภคเราจะพบว่า ผู้บริโภคต้องการให้มีอุปกรณ์พื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกที่จะเช่าพักหรือไม่ ทำให้ทราบว่าโดยส่วนใหญ่แล้วต้องการให้มีห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ช่วงอายุ อันดับรองลงมาคือ ต้องการมีเตียงนอนและต้องการให้มีตู้เสื้อผ้า สำหรับข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับส่วนนี้คือกลุ่มคนอายุ 18-22 ปีซึ่งเป็นวัยนักศึกษา ได้แสดงให้เห็นว่าต้องการให้มีพัดลมเพดานในห้องที่พักแตกต่างอย่างชัดเจนกับกลุ่มอายุมากกว่า 22 ปี

นอกจากเฟอร์นิเจอร์พื้นฐานภายในห้องที่จำเป็นต้องมีแล้วนั้น สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่พักในห้องพัก คือ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะต้องมี เพราะโลกในปัจจุบันเป็นโลกของข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นจึงได้มีการทำการศึกษาถึงพฤติกรรมในการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาใช้งานโดยสำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ในห้องพัก พบว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กลุ่มตัวอย่าคิดว่ามีความจำเป็นมากที่สุดคือ “โทรทัศน์” ร้อยละ 35 รองลงมาคือ “วิทยุ / สเตริโอ” ร้อยละ 24 และพัดลมตั้งพื้น ร้อยละ 15 ตามลำดับ นับว่าเป็นช่องทางการขายที่น่าสนใจสำหรับสินค้าในประเภทดังกล่าว

สิ่งที่ผู้เช่าหรือผู้บริโภคจะใช้เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจสำหรับการเลือกสถานที่ในการเช่านั้น มิได้คำนึงถึงค่าเช่าเป็นหลัก แต่หากพิจารณาลงไปแล้วพบว่า ปัจจัยสำคัญที่ผู้เช่าเลือกคือ ความสะดวกในการดำเนินชีวิต เช่นการรับประทานอาหาร ร้อยละ 15.8 รองลงมา คือ การรักษาความปลอดภัย ร้อยละ 14.7 และระยะทาง / การเดินทางร้อยละ 13.3 สำหรับค่าเช่านั้นอยู่ในลำดับที่ 4

ทำให้ทราบว่าทำเลในการสร้างหอพักหรือห้องพักนั้นจะต้องเลือกทำเลที่ดีในการสร้าง มิฉะนั้นธุรกิจอาจไม่ประสบความสำเร็จได้ ในการตัดสินใจจะเลือกสถานที่พักหรือสถานที่เช่านั้น โดยส่วนใหญ่จากการสอบถามหรือเช็กข้อมูลตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำการเปรียบเทียบข้อมูลหลาย ๆ ส่วนก่อนจะมีการตัดสินใจเช่า โดยส่วนใหญ่แล้วผู้บริโภคมักจะสอบถามประมาณ 2-3 แห่ง เพื่อใช้เปรียบเทียบว่าจะเช่าที่ได้ถึงจะดี และมีบางส่วนที่จะสอบถามถึง 4-5 แห่งก่อนการตัดสินใจ

เมื่อได้สอบถามข้อมูลต่างๆ แล้วจะต้องมีระยะเวลาในการตัดสินใจย้ายหรือเปลี่ยนแปลงสถานที่เช่าใหม่ จะใช้เวลานานเท่าไหร่ที่จะหาข้อมูลและคิดว่าจะย้ายหรือเปลี่ยนที่พักใหม่ จากการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ใช้เวลา 1 เดือน ในการตัดสินใจเพื่อย้าย ถึงร้อยละ 36.0 และใช้เวลา 2 เดือนในการเตรียมตัวหรือหาข้อมูลสำหรับย้าย และนอกจากนั้นจะเป็นการใช้เวลาเป็น 10 วัน หรือ 15 วัน ตามลำดับ

สำหรับการสร้างช่องทางการประชาสัมพันธ์ของธุรกิจหอพักค่อนข้างจะทำได้ยากหากจะมีประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่ามีหอพักเปิดใหม่ ดังนั้นช่องทางที่ดีและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้คือ การทำประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ เพราะกลุ่มตัวอย่างนั้นจะได้ทราบว่าหอพักอยู่หรือไปยังย่านที่ตนเองต้องการจะพัก รองลงมาคือ การสอบถามจากเพื่อนหรือคนรู้จัก ร้อยละ 24.0 ในขณะที่ข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์เกี่ยวกับหอพักมีผู้ใช้สื่อดังกล่าวเพียง 4.5 เท่านั้น

จากการสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับการวางแผนในเรื่องที่อยู่อาศัย เพื่อต้องการประเมินสถานการณ์ความต้องการพักอาศัยในอนาคต ทราบว่า กลุ่มผู้เช่าหอพักอยู่นั้น มีความต้องการซื้อบ้านและคอนโดฯ สูงถึงร้อยละ 47.0 และร้อยละ 20.0 ที่ต้องการย้ายที่พักตามสถานที่ทำงาน แต่ยังคงอยู่หอพักเช่นเดิมจากคำตอบที่ได้นี้ นับเป็นช่องทางสดใสสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านหรือคอนโดฯ เพราะกลุ่มคนที่ต้องการมีที่พักอาศัยเป็นของตนเองเกือบครึ่งจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด

แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *