สุขภาพ : ‘โรคคอตีบ’ระบาดหนักภาคอีสาน

สุขภาพ : ‘โรคคอตีบ’ระบาดหนักภาคอีสาน

‘โรคคอตีบ’ ระบาดหนักในภาคอีสาน เผย 3 เดือนยอดผู้ป่วยพุ่ง 87 ราย แนะสาธารณะสุขอำเภอจับตาแรงงานย้ายถิ่น ตั้งเป้าปี56 กวาดล้างหมด

11 ต.ค.55 นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคคอตีบในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคอีสาน เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มเป็น 87 รายแล้ว จังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงสุด ได้แก่ จ.เลย มีผู้ป่วยมากถึง 50 ราย รองลงมาได้แก่ เพชรบูรณ์ 10 ราย หนองบัวลำภู 8 ราย และจังหวัดอื่นๆอีกจังหวัดละ 2-3 ราย

“คอตีบเป็นโรคที่ไม่พบในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปีแล้ว ตาอยู่ๆก็เกิดการระบาดขึ้น ซึ่งคาดว่าน่าจะติดมากับแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามารับจ้างกรีดยางในประเทศไทย โดยผ่านเข้ามาตามแนวชายแดนไทย-ลาว ซึ่งนอกจากโรคคอตีบแล้ว ขณะนี้โรคจากเชื้อไวรัสก็เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด โดยเฉพาะโรคที่มาจากแหล่งที่มีการระบาดแต่ควบคุมไม่ได้ เช่น ในกัมพูชา เวียดนาม ที่ยังคงมีการระบาดอย่างรุนแรงของไข้หวัดนก แม้ในประเทศไทยจะไม่มีการรายงานโรคในคนมาตั้งแต่ปี 2551 แล้วก็ตาม แต่การระบาดของโรคคอตีบในพื้นที่ภาคอีสาน ทำให้น่ากังวลถึงโรคอื่นๆที่อาจจะมีการระบาดขึ้นได้อีก แม้ว่าจะหมดไปจากประเทศไทยนานแล้ว เช่น โปลิโอ บาดทะยัก หรือแม้แต่โรคซาร์ส และ มาลาเรีย ที่อาจมาพร้อมกับการย้ายถิ่นของแรงงานด้วย”นพ.พรเทพ กล่าว

นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจากที่ต่างๆจะเดินทางเข้ามาในพื้นที่จ.เลยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงคาน ภูกระดึง และแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ จึงจำเป็นต้องรีบเข้าควบคุมและเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า ขณะนี้เราสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้แล้วในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่นิ่งนอนใจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน จากที่พบผู้ป่วยรายแรกในรอบการระบาดนี้ คือ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.255 ซึ่งถ้าจะประกาศว่าปลอดโรคจริงๆต้องรอถึงวันที่ 26 ม.ค.2556 เมื่อไม่พบผู้ป่วยเพิ่มอีก ซึ่งขระนี้ได้ดำเนินการให้ยา และ ฉีดวัคซีนอย่างเข้มข้นในพื้นที่แล้ว

นพ.วิรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า โรคคอตีบ หรือดิพทีเรีย เป็นโรคติดเชื้อเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบ มีแผ่นเยื่อเกิดขึ้นในลำคอ ในรายที่รุนแรง จะมีการตีบตันของทางเดินหายใจ ซึ่งอาจทำให้ตายได้ และพิษ (exotoxin) ของเชื้อ จะทำให้มีอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ และเส้นประสาทส่วนปลาย ไม่ได้เกิดขึ้นที่จังหวัดเลยมานาตั้งแต่ปี พ.ศ..2538 เป็นต้นมา จนมาระบาดที่อำเภอด่านซ้าย และบริเวณ 5 หมู่บ้านพื้นที่ติดกัน ได้แก่ บ้านตูบค้อ บ้านกกจาน บ้านกกสะทอน บ้านอีปุ่ม และเขตเทศบาลด่านซ้าย

ขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ร่วมกับสาธารณะสุข ได้ลงพื้นที่ทำการฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ให้กับชาวบ้านตั้งแต่อายุ 20-45 ปี ทั้งหมด 5 หมู่บ้าน เพื่อเป็นการป้องกัน โดยแต่ละคนต้องได้รับการฉีดวัคซีน คนละ 2-3เข็ม เพื่อมีภูมิต้านทานป้องกัน ส่วนเด็กที่อายุไม่ถึง 20 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่เด็ก ส่วนผู้ใหญ่ที่อายุ 45 ปี ขึ้น แต่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน จะมีภูมิต้านทานในร่างการที่สร้างขึ้นมาเองเพื่อป้องกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ถ้ารายไหนดูว่ามีอาการดังกล่าว ให้รีบมาพบแพทย์ทันที หรือโรงพยาบาลสาธารณะสุข หมู่บ้านหรือตำบล ทันที อย่ารอให้มีอาการหนัก

ที่มา : คมชัดลึก

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *