สุขภาพ : สารพัดโรคร้าย ที่นักดื่มต้องระวัง

สุขภาพ : สารพัดโรคร้าย ที่นักดื่มต้องระวัง

สุรา สิ่งบันเทิงใจของนักดื่มทั้งหลาย มีงานเลี้ยงที่ไหน เทศกาลอะไร พระเอกของงานที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สุรา และเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ซึ่งแอลกอฮอล์เป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากการหมักผัก ผลไม้ หรือเมล็ดพืชชนิดต่างๆ แล้วแต่งกลิ่น ในเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แต่ละชนิดจะมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ต่างกัน เช่น เหล้ามีแอลกอฮอล์ 40 % ไวน์มีแอลกอฮอล์ 12 % และเบียร์มีแอลกอฮอล์ 5 % โดยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะกดประสาท ทำให้สมองทำงานช้าลง พูดจาอ้อแอ้ เดินไม่ตรงทาง ความคิดสับสน และเป็นหนึ่งสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุ เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และในภาคเศรษฐกิจ แม้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างก็พยายามออกมารณรงค์ ลด ละ เลิก แต่สถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในเทศกาลต่างๆ ก็ยังอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง

นายแพทย์ชาย มหิทธิภาคย์ แพทย์ประจำศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลเวชธานี ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “ สุรา หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป และติดต่อกันเป็นเวลานาน ย่อมมีผลเสียต่อสุขภาพ นอกจากจะทำให้ผู้ดื่มขาดสติ แล้วยังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ มากมาย ได้แก่

กลุ่มโรคทางระบบประสาท ทำให้ความจำเสื่อม หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย เสียการควบคุมด้านอารมณ์ โรคนอนไม่หลับ กระบวนการการรับรู้ ความเข้าใจ บกพร่อง ขาดสติ จิตหลอน ประสาทหลอน โรคคลั่งเพ้อ เกิดจากโรคพิษสุราเรื้อรัง การทำหน้าที่ของสมองผิดปกติส่งผลถึงการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย อาจทำให้กล้ามเนื้อส่วนปลายแขน ขา อ่อนแรง ปลายประสาทพิการ โรคซึมเศร้า โรคลมชัก และโรคระแวงเพราะสุรา
กลุ่มโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็น มะเร็งในปากและช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งเต้านมในผู้หญิง และมะเร็งรังไข่
กลุ่มโรคเรื้อรังอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่น โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน โรคเบาหวาน (เกิดจากตับอ่อนอักเสบ) โรคตับอักเสบ โรคตับแข็งจากสุรา โรคตับอ่อนอักเสบแบบเฉียบพลัน และ แบบเรื้อรัง โรคกระเพาะอาหารอักเสบหรือโรคกระเพาะอักเสบจากสุรา เพราะแอลกอฮอล์จะทำลายสารเคลือบกระเพาะ ทำให้เกิดแผลจนกระเพาะทะลุ หรือเลือดออกในกระเพาะ สังเกตได้จากการถ่ายอุจจาระ หรืออาเจียนเป็นเลือด โรคต่อมหมวกไต กระดูกพรุน โรคเกาต์ โรคพิษสุราเรื้อรัง
กลุ่มโรคหลอดเลือดและหัวใจ คนที่ดื่มสุราเป็นประจำมีโอกาสเกิดโรคหัวใจได้มากกว่าคนที่ดื่มน้อยกว่า เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจตีบ และยังอาจทำให้เกิด ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหรือเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจหรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมจากสุรา โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สมองส่วนนอกลีบฝ่อ อาการระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกิน โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหัวใจล้มเหลว
ผลกระทบต่อลูกน้อยสำหรับนักดื่มที่กำลังตั้งครรภ์ ส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวแรกคลอดน้อย ปากแหว่งเพดานโหว่ ดวงตาและกรามมีขนาดเล็ก สมองเล็กกว่าปกติ หัวใจผิดปกติแต่กำเนิด แขน-ขาเจริญเติบโตผิดปกติ ความสามารถในการมองเห็นน้อยกว่าทารกปกติ ร้องกวนโยเยง่าย รูปร่างแคระแกรน นอนหลับยาก และมีระดับสติปัญญาต่ำกว่าปกติ
หลายคนยังสงสัยว่า ดื่มมากขนาดไหนที่เรียกว่า “ติดสุรา” อาจแบ่งให้เห็นชัดเจนได้ 3 ระดับ คือ ระดับแรกดื่มเฉพาะตอนที่เข้าสังคม ระดับที่สองดื่มเป็นระยะ และกลุ่มที่สามดื่มจนติดหรือที่เรียกว่า แอลกอฮอล์ลิซึ่ม คนที่ดื่มจนติดแล้ว มักจะดื่มเป็นประจำทุกวัน และเพิ่มปริมาณในการดื่มมากขึ้น ถ้าหยุดดื่มจะมีอาการ เช่น ใจสั่น มือสั่น คล้ายจะเป็นลม
นักดื่มหลายท่านบอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกปฏิเสธหรือ “เลิกดื่ม” เป็นการถาวร ทว่าคุณยังสามารถดื่มได้อย่างมีสติและรับผิดชอบ โดยถือหลักปฏิบัติง่ายๆ เช่น ต้องรู้จักสุขภาพตนเอง ถ้าไม่แข็งแรง เมาง่าย ก็ควรดื่มแบบพอเพียง..เรียกว่า ดื่มแบบรู้ตัว รู้รับผิดชอบต่อผู้อื่น รวมถึงรู้กาลเทศะและสถานที่ด้วย หากต้องขับรถก็ต้องมีสติ “เมาไม่ขับ” หรือหากมีพฤติกรรมเมาแล้วส่งเสียงดัง โวยวาย ทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ก็ไม่ควรดื่มจนเมา ที่สำคัญต้องรู้บทบาทตนเอง ถ้าเป็นพ่อแม่ หรือเป็นผู้ปกครองก็ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเด็กๆ ด้วย
สำหรับคนที่ดื่มจนติดแล้วต้องการเลิกเหล้า ขอแนะนำว่า ไม่ควรเลิกแบบทันทีทันใด แต่ควรลดปริมาณการดื่มลงทีละน้อย หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าได้ ควรรับประทานอาหารให้อิ่มท้อง พยายามอย่าให้ท้องว่าง ขณะเดียวกันควรหันไปดื่มน้ำผลไม้แทน และพยายามทำกิจกรรมต่างๆ หรือเล่นกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ร่ายกายแข็งแรง กรณีที่มีอาการติดเหล้ารุนแรงควรมาพบแพทย์เพื่อทำการบำบัดรักษา และรับการตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกปี

ที่มา: ศูนย์ตรวจสุขภาพ โรงพยาบาลเวชธานี

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *