กองทุนสุขภาพ : ประกันสังคมให้ความดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ด้วย

กองทุนสุขภาพ : ประกันสังคมให้ความดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ด้วย

สปส. ให้ความดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ HIVและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ ให้อุ่นใจ

กองทุนประกันสังคม (สปส.) ให้สิทธิกับผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์ โดยจัดยาต้านไวรัสสูตรพื้นฐานและสูตรดื้อยาให้กับโรงพยาบาลเพื่อใช้กับผู้ประกันตน ที่ขึ้นทะเบียน ซึ่งยาบางตัวที่ไม่ได้จัดไว้แต่ผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้โรงพยาบาลต้องจัดให้หากมีความจำเป็นทางการแพทย์ บัตรทองให้สิทธิกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์ รวมถึงการให้ยาต้านไวรัสป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากมารดาสู่ทารกและกรณีอุบัติเหตุที่เกิดจากการทำงาน โดยจัดหายา ต้านไวรัสสูตรพื้นฐานและสูตรดื้อยาให้กับหน่วยบริการ

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIVและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ ในการรับยาต้านไวรัสเอดส์จากสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า การให้ความคุ้มครองดูแลรักษาผู้ประกันตน ที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผู้ประกันตนได้รับการรักษาและรับยาต้านไวรัสเอดส์อย่างสม่ำเสมอ ยังจะช่วยให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อทั้ง 2 ประเภท สามารถใช้ชีวิตได้ยาวนานขึ้น และผู้ประกันตนที่ติดเชื้อบางรายก็ยังทำงานได้ตามปกติ ทั้งนี้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ สามารถรับยาต้านไวรัสเอดส์ ทั้งสูตรพื้นฐาน สูตรทางเลือก และสูตรดื้อยา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และในส่วน ของการตรวจ CD4, Viral load, Drug resistance testing สำนักงานประกันสังคมจะเหมาจ่ายให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ ส่วนกรณีที่ผู้ประกันตนจำเป็นต้องได้รับการตรวจ ทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ ทางสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทร 1506 ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดตั้งแต่เวลา 07.00 น. -19.00 น หรือติดต่อระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

เงื่อนไขการจ่ายยาต้านไวรัสเอดส์

ประกาศคณะกรรมการกรมการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม

เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIVและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์

โดยที่เป็นการสมควรให้มีการเพิ่มเติมลักษณะและอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณี ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ให้ได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ตามมติคณะกรรมการกรมการแพทย์ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม

อาศัยอำนาจตามความมาตรา ๑๕ (๒) และมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓ คณะกรรมการแพทย์จึงขอออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ1. ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการกรมการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคมเรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์”

ข้อ2. ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ มีสิทธิได้รับยาต้านไวรัสตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราแนบท้ายประกาศนี้

ข้อ3. สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่ายาต้านไวรัสเอดส์ให้แก่หน่วยงานของภาครัฐที่ผลิตยา หรือสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล

ข้อ4. กรณีดื้อยา สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่ายาให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาทต่อราย ต่อเดือน และผู้ประกันตนเป็นผู้รับผิดชอบส่วนเกิน

ข้อ5. ผู้ประกันตนจะได้รับการตรวจ CD 4 โดยสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงครั้งละไม่เกิน ๕๐๐ บาท ปีละไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท ต่อราย

ข้อ6. กรณีผู้ประกันตนมีความจำเป็นต้องตรวจ Viral load และ / หรือ Drug resistance ตามความเห็นของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คณะกรรมการการแพทย์แต่งตั้ง สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง ปีละไม่เกิน ๑๒,๕๐๐ บาท ต่อราย

ข้อ7. กรณีผู้ประกันตนจำเป็นต้องได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่น ๆ นอกเหนือจากข้อ ๕ ข้อ ๖ สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลเป็นผู้รับผิดชอบ

ข้อ8. ให้เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมรักษาการตามประกาศฉบับนี้

ข้อ9. ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๔๗ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๗
นายฉันทกรณ์ ชุติดำรง)
ประธานกรรมการการแพทย์

หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และอัตราบริการทางการแพทย์โดยการให้ยาต้านไวรัสเอดส์แก่ผู้ประกันตน
1. คุณสมบัติของผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับยาต้านไวรัสเอดส์จากสำนักงานประกันสังคม
1.1 ผู้ประกันตนซึ่งได้รับสิทธิบริการทางการแพทย์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
1.2 ข้อบ่งชี้ในการให้ยาต้านไวรัสเอดส์
1.2.1 ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV ที่มีค่า CD 4 น้อยกว่า ๒๐๐ cell/cu.mm
1.2.2 ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อ HIV ที่มีค่า CD 4 น้อยกว่า หรือเท่ากับ ๒๕๐ cell/cu.mm แต่มีอาการแสดงร่วมอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
– ไข้เรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุ
– อุจจาระร่วงเรื้อรังนานกว่า ๑๔ วัน ที่ไม่ทราบสาเหตุ
– น้ำหนักตัวลดลงมากกว่า ๑๕% ภายใน ๓ เดือน

2. สำนักงานประกันสังคมจะรับผิดชอบยาต้านไวรัสเอดส์ให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิตามหลักเกณฑ์ดังนี้
2.1 สูตร 1 d4T+3TC+Nevirapine (NVP)
2.2 สูตร 2
2.2.1 d4T+3TC+Efavirenz (EFV)
2.2.2 AZT+3TC+NVP
2.2.3 AZT+3TC+EFV
2.2.4 d4T+3TC+IDV/RTV หรือ AZT+3TC+IDV/RTV

ทั้งนี้ การให้ยาสูตร ๒ ตามข้อ ๒.๒ แพทย์ผู้รับผิดชอบต้องพิจารณาตามแนวทางดังนี้ คือ
– กรณีผู้ประกันตนเกิดผลข้างเคียง หรือแพ้ยา NVP ในสูตร ๑ ให้ใช้ยาในสูตร ๒ ข้อ ๒.๒.๑
– กรณีผู้ประกันตนเกิดผลข้างเคียง หรือแพ้ยา d4T ในสูตร ๑ ให้ใช้ยาในสูตร ๒ ข้อ ๒.๒.๒
– กรณีผู้ประกันตนเกิดผลข้างเคียง หรือแพ้ยา NVP และ d4T ในสูตร ๑ ให้ใช้ยาในสูตร ๒ ข้อ ๒.๒.๓
– กรณีผู้ประกันตนเกิดผลข้างเคียง หรือแพ้ยา NVP และยา EFV ให้ใช้ยาในสูตร ๒ ข้อ ๒.๒.๔

สำหรับยาต้านไวรัสเอดส์สูตร ๑ และ สูตร ๒ ให้ใช้การบริหารจัดการคลังยาเวชภัณฑ์ต้านไวรัสเอดส์ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมทำความตกลงกับหน่วยงานของรัฐที่ผลิตยา

2.3 กรณีไม่ตอบสนองต่อการรักษาให้มีการประเมินและจัดการตามระบบหาสาเหตุ ในกรณีดื้อยา ให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน HIV/AIDS ที่คณะกรรมการการแพทย์แต่งตั้ง และให้ได้รับการรักษาจากสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ การตรวจรักษาต้องเป็นไปตามแนวทางดังนี้ คือ ผู้ประกันตนได้รับการยืนยันว่ามีภาวะดื้อยาจากผลการตรวจ CD 4 และ/หรือ Viral load และ/หรือ Drug resistance

3. ผู้ประกันตนที่เคยได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ ก่อนประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้ หากยาต้านไวรัสเอดส์ สูตร ๑ หรือ สูตร ๒ สามารถรับยาต้านไวรัสเอดส์เดิมจากสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย กรณีนอกเหนือจากยาสูตร ๑ หรือ สูตร ๒ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายค่ายาตามหลักเกณฑ์กรณีดื้อยา ให้แก่สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล เท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ต่อราย ต่อเดือน และผู้ประกันตนเป็นผู้รับผิดชอบส่วนที่เกิน

4. ขั้นตอนการดำเนินการให้ยาต้านไวรัสเอดส์แก่ผู้ประกันตน
4.1 เมื่อผู้ประกันตนได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ ณ สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลว่าจำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสเอดส์ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดตามข้อ ๑ หรือข้อ ๓
4.2 ผู้ประกันตนจะต้องกรอกใบสมัครตามแบบที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด และสำนักงานประกันสังคมจะเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ
4.3 ผู้ประกันตนจะต้องให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามแนวทางการรักษาของแพทย์ผู้รักษา ซึ่งผู้ประกันตนจะต้องได้รับการซักประวัติและตรวจร่างกาย และ/หรือตรวจเลือดเพื่อประเมินความเป็นไปของโรค และผลการรักษา รวมทั้งความปลอดภัยในการใช้ยา

5. หน้าที่และความรับผิดชอบของสถานพยาบาล
5.1 สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล จะต้องดำเนินการตามแนวปฏิบัติในการให้ยาต้านไวรัสเอดส์แก่ผู้ประกันตนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
5.2 สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล จะต้องจ่ายยาต้านไวรัสเอดส์ สูตร ๑ และ สูตร ๒ ให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิตามข้อ ๑ หรือ ข้อ ๓ สำหรับกรณีผู้ประกันตนไม่ตอบสนองต่อการรักษาตามสูตร ๒ สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลจะต้องส่งแบบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน HIV/AIDS ให้สำนักงานประกันสังคมเพื่อหารือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน HIV/AIDS ที่คณะกรรมการการแพทย์แต่งตั้ง และสำนักงานประกันสังคมจะส่งผลการวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลดำเนินการ
5.3 สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล จะต้องยื่นแบบคำขอรับค่าบริการทางการแพทย์ตามแบบที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
5.4 สถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล จะต้องรายงานข้อมูลต่าง ๆ ตามแบบที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด

ที่มา : สำนักงานประกันสังคม (สปส.)

Add a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *